๘๐๒. บันทึก..ถึงลูก...


พ่อ..ไม่ใช่คน “สมบูรณ์แบบ” และไม่ได้เลี้ยงลูกแบบ “เรียกร้อง” ตลอดจนไม่คิดมากในเรื่องความกตัญญูกตเวที แต่อยากฝากลูกไว้ “ชีวิตนี้น้อยนัก” จงใช้เวลาให้มีค่า..อย่าละโอกาสในการเรียนรู้ “ทักษะชีวิต” เพื่อสักวันลูกจะใช้ชีวิตด้วยตัวของลูกเอง..

            ลูกของผมสองคน..คนเล็กเรียนป.ตรี คนโตเป็นครูดนตรี คศ.๑ (ซี ๔) ทั้งสองคนมีความเหมือนและความต่าง..อย่างเห็นได้ชัด..

            ที่เหมือนกันคือเป็นผู้ชายทั้งคู่ และรักในงานศิลปะ มีอารมณ์สุนทรีย์ ในความต่างก็มี อาทิ ความมุ่งมั่นในการเรียน ความอดทน อดกลั้นและอดออม..

            แต่ไม่น่าเชื่อ..ผมไม่เคยเปรียบเทียบ ให้ใครต้องดูกันเป็นตัวอย่าง เป็นพี่เป็นน้องต้องรู้จักไตร่ตรองและมองกันเอง..หากคิดเป็นก็ต้องปรับปรุง แต่ถ้าหากไม่ปรับ ก็ใช่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ไม่ได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่า..จะอยู่อย่างไรเท่านั้น..

            ลูกผมจบโรงเรียนวัดทั้งคู่ จึงรู้จักอาชีพของผมเป็นอย่างดี ผมไม่ได้ชี้นำ ลูกอยากเรียน “วิชาชีพครู” ผมก็ยินดี และดีใจที่เห็นลูกให้ความสำคัญ ไม่กลัวความยากลำบาก

            ผมยอมรับว่า..ผมให้ความรักแต่ขาดการอบรม เพราะลูกทั้งสองมีพ่อครู มีครูในดวงใจ มีพระพิฆเนศวร์ที่ต้องเคารพกราบไหว้ ไม่ทำตัวผิดทำนองคลองธรรมเพราะ “ครู”อาจจะลงโทษได้    

         ผมเคยมีความเชื่อว่า..ผมสอนคนให้เป็นคน สอนลูกชาวบ้านอย่างตั้งใจจริงจัง อย่างยาวนานต่อเนื่อง รุ่นต่อรุ่น ย่อมจะให้อานิสงส์ผลบุญแก่ผมบ้าง..

            อย่างน้อยก็ทำให้ลูกชายไม่เกเร ไม่ติดยา ไม่ติดพนันบอล และไม่ทำตัวเป็นภาระแก่ครอบครัวและสังคม

            ความเชื่อดังกล่าว..ผมเริ่มไม่แน่ใจ เพราะสังคมปัจจุบันพลิกผัน ไม่มีอะไรแน่นอนแล้ว คาดเดาไม่ได้เลย..

            บางครั้ง..ก็ต้องปล่อยวาง และในบางครั้งก็ต้องเสี่ยง  สิ่งที่ทำได้และทำมาแล้ว ก็คือบอกลูกทั้งสองว่า..พ่อไม่ได้คาดหวังในเรื่องเรียนของลูก เพราะพ่อเองก็ใช่ว่าจะเรียนเก่ง แต่พ่อมีความรับผิดชอบและขยันอ่านหนังสือ

            พ่อขอแค่เรียนให้จบ จะได้เกรดอะไรก็ได้ คนโตก็เคยพูดไว้แบบนี้ ตอนนี้เรียน ป.โท..ก็เอาให้จบเพื่อจะได้นำความรู้ไปพัฒนาตนพัฒนางาน..

            ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าเลี้ยงลูกด้วย “เงิน” เพราะผมมีเงินที่สามารถสนับสนุนลูกได้ ให้อยู่หอพักที่สุขสบาย ให้ใช้รถยนต์ไปเรียนหนังสือ เราเป็นครอบครัวเล็กๆ ไม่มีญาติที่ไหนให้พึ่งพิง เพื่อความสะดวกและคล่องตัว..ผมจึงพร้อมทุ่มเทเพื่อลูก..

            คนโต..เงินเดือนน้อย..ยังต้องดูแลกันต่อไป ขออย่างเดียว อย่าโกหก มีปัญหาอะไรให้บอกตรงๆ อย่าหลอกลวง ปิดบังพ่อแม่ และอย่าได้ไปหยิบยืมเงินใครเป็นอันขาด พ่อเกลียดกลัวความเป็นหนี้มาตั้งแต่เด็กๆ  ๒๐ ปีแล้วที่พ่อไม่เคยกู้ยืมเงินใคร

            ผมไม่เคยบอกลูกแต่คิดว่าลูกคงรู้มาบ้าง ว่าพ่อใช้ชีวิตเบื้องต้น วัยประถมและมัธยม..พบแต่คำว่า “ไม่มี” และมีก็ “ไม่พอ” เพราะปู่กับย่าของลูกมีลูกหลายคน  ต้องส่งเรียนทุกคน..ประหยัดได้ต้องประหยัด แทบไม่รู้จักคำว่า “วัยรุ่น” เสื้อผ้าและรองเท้า กว่าจะซื้อใหม่ได้ ใช้เวลานานมาก

            อยากเรียนดนตรี อยากมีเวลาเล่นกีฬา ได้แค่ปรารถนาแต่ไม่เคยได้รับโอกาสเลย แต่มันก็ไม่ใช่ “ปมด้อย”ของพ่อ ยังมีสำนึกดีๆให้ไขว่คว้า มีวิชาการศึกษามากมายให้เรียนรู้ตลอดเวลา

            เมื่อชีวิตพ่อ..ผ่านเหตุการณ์เช่นนั้นมา ก็ไม่จำเป็นที่พ่อจะต้องเลี้ยงลูกแบบนั้น หรือให้ลูกผ่านความทุกข์ยากแบบนั้น โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว พ่อจึงไม่เคยให้ลูกลำบากเรื่องการเล่าเรียนเลยแม้แต่น้อย..

            วันนี้..พ่อเหนื่อยมาก เหนื่อยที่สุดในชีวิต แต่ก็มีความสุขกับงาน ยังพอมีแรงทำต่อไปแบบประคับประคองโรงเรียนเล็กๆให้อยู่รอด ไม่มีใครดูถูกพ่อและพ่อก็ไม่เคยดูถูกตัวเอง..ในบางเรื่องที่ต้องทำมากกว่าการเป็น ผอ. เพราะถ้าพ่อไม่ทำ..แล้วใครจะทำ?

            ขอให้ลูกเข้าใจ จงภูมิใจในตัวพ่อ เพื่อจะได้เป็นพลังในการเรียนวิชาครูของลูก พ่อก้าวมาไกลในตำแหน่งนี้ แบบที่ต้องทำงานหนัก ไม่เคยประจบสอพลอใคร อีก ๒ ปีเท่านั้นเงินเดือนพ่อก็จะสูงสุดในขั้นเงินเดือนซี ๙ แล้ว..ในรุ่นเดียวกัน พ่อเงินเดือนมากกว่าใครทั้งหมด..และพ่อก็ยังเหลือเวลารับราชการอีก ๕ ปี

            ที่พ่อต้องพูดเช่นนี้ ก็เพื่ออยากจะบอกลูกว่า จงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วรางวัลชีวิตจะตามมา และจงตั้งใจทำงานและตั้งใจเรียน..สุดท้ายแล้ว..พ่อเกษียณ ถ้าเราไม่เจ็บเราก็จะไม่จน เราจะเดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน..เหมือนที่เราเคยฝันเอาไว้

            สุดท้ายนี้..ลูกคงจำได้ พ่อไม่เคยเตือนลูกเรื่อง “ผู้หญิง” และพ่อก็จะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูก ทั้งๆที่ความเป็นจริงก็น่าจะทำได้ แต่พ่อคิดว่าลูกต้องการกำลังใจที่พ่อเองก็เข้าใจ แต่ก็รู้สึกเป็นห่วง ที่ลูกยังเดินทางไปไม่ถึงเป้าหมายของชีวิต

            ในระหว่างนี้ลูกต้องใช้รถใช้ถนน และมีผู้หญิงของลูก..จงอย่าประมาท มีสติ รู้ตัวว่าควรปฏิบัติตนอย่างไร? ที่ไม่เสียงานและเสียการเรียน ต้องระมัดระวังและคิดเป็นทั้งการขับรถยนต์และการคบผู้หญิง..ชีวิตลูกก็จะอยู่รอดปลอดภัย สำเร็จได้ทั้งงานและการศึกษา....

            พ่อ..ไม่ใช่คน “สมบูรณ์แบบ” และไม่ได้เลี้ยงลูกแบบ “เรียกร้อง” ตลอดจนไม่คิดมากในเรื่องความกตัญญูกตเวที แต่อยากฝากลูกไว้ “ชีวิตนี้น้อยนัก” จงใช้เวลาให้มีค่า..อย่าละโอกาสในการเรียนรู้ “ทักษะชีวิต” เพื่อสักวันลูกจะใช้ชีวิตด้วยตัวของลูกเอง..

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๕  กันยายน  ๒๕๖๑

 

            

หมายเลขบันทึก: 653717เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2018 21:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน 2018 21:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

จะลงวิดีโอให้น้อง แต่ จำพาสเวิร์ดของยูทูปน้องไม่ได้จ้ะทำไงดี ??

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท