๒๗. ก้าวตามรอยพ่อ..ก้าวสู่ความสุขที่ยั่งยืน


“...การใช้จ่าย โดยประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย..”

           วันนี้..ผมพบปฏิทินเก่าซึ่งเป็นแบบตั้งโต๊ะ ที่ผมสะสมไว้ในห้องสมุด มีอยู่หลายชุด ในส่วนที่สะดุดตาเป็นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

            หน้าปก..หรือชื่อชุดปฏิทินเขียนว่า “ก้าวตามรอยพ่อ ก้าวสู่ความสุขที่ยั่งยืน” ภายในเล่ม หรือในแต่ละหน้า จัดทำอย่างพิถีพิถันทั้งเรื่องและภาพ..

            วัตถุประสงค์ของ กฟผ.ก็เพื่อให้คนไทยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเข้าถึงพระอัจฉริยภาพของ “พ่อหลวง” รัชกาลที่ ๙ ที่พระองค์ใช้หลักการทรงงาน เพื่อพสกนิกรชาวไทยอย่างแท้จริง

            โดยเฉพาะ “การเสียสละและรู้รักสามัคคี” นับเป็นหนึ่งในหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กฟผ.จึงตระหนักในจุดนี้ ที่จะช่วยเหลือสังคมอย่างสร้างสรรค์ จึงน้อมนำพระราชดำรัสฯมาจัดวางไว้อย่างงดงาม..ในปฏิทิน

            ผมอ่านจนจบ อ่านครบทุกหน้า..จึงขอหยิบยกมาไว้ในบันทึกนี้..

            “...การใช้จ่าย โดยประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย..”

            กระแสพระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ วันพฤหัสบดีที่ ๓๑  ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๒

            ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่เกิดเลย พ่อพูดไว้เกือบ ๖๐ ปีมาแล้ว ผมคิดว่า..หากจะเริ่มประหยัดอย่างจริงจังได้ตั้งแต่วันนี้..ก็คงยังไม่สายเกินไป..

            แต่ก่อนหน้านี้..ในองค์กรของผมที่สังกัด สพฐ. ผมรณรงค์เรื่องการประหยัดไฟฟ้ามานานแล้วเหมือนกัน

           และรู้สึกไม่เห็นด้วยกับต้นสังกัด..ที่มักจะเจียดเงินเหลือจ่ายปลายงบประมาณมาให้โรงเรียนทั่วประเทศ..เป็นการทำงานที่สวนทางกับการประหยัดและเพาะเชื้อให้โรงเรียน(บางโรง)ฟุ่มเฟือย...

            หลายท่านอาจไม่เข้าใจ..ผมอธิบายได้ดังนี้ คือ..สพฐ.จัดสรรเงินอุดหนุนให้โรงเรียนตามจำนวนนักเรียน เรียกว่าเงินรายหัว เงินจำนวนนี้ใช้ได้สารพัด ไม่รวมถึงค่าหนังสือ เสื้อผ้า อุปกรณ์ และทัศนศึกษา

            โรงเรียนจะนำเงินอุดหนุนรายหัว..ไปใช้พัฒนาวิชาการ พัฒนาบุคลากร ฯลฯ รวมถึงค่าสาธารณูปโภค ไฟฟ้าและประปา..

            หากโรงเรียนทำแผนปฏิบัติการฯ สำหรับบริหารจัดการงบประมาณ ยังไงก็พอใช้ แต่ก็มีข้อมูลว่าหลายโรงเรียนเงินอุดหนุนไม่พอใช้ และไม่พอจ่ายค่าไฟ จนทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค..ออกอาการไม่พอใจการทำงานของ สพฐ.

           สาเหตุหลักๆ ที่เงินอุดหนุนของโรงเรียนไม่พอจ่ายค่าไฟฟ้า เท่าที่ผมสังเกต พบว่า นโยบายประหยัดไฟฟ้าไม่ได้ผล และโรงเรียนใช้เงินไปเพื่อสร้างฯและซื้อครุภัณฑ์จนเกินความจำเป็น ตลอดจนใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่บุคลากรจนเกินควร

            เดือนกรกฎาคมจึงเริ่มมีกระแสจากผู้บริหารบางคน ให้บอกต่อๆกันไปว่า อย่ารีบจ่ายค่าไฟฟ้า เพราะเดี๋ยว สพฐ.ก็จะส่งงบประมาณมาช่วย แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

            จึงเท่ากับว่า..สพฐ. หน่วยงานการศึกษาของชาติ ไม่ได้ฝึกวินัยการเงินการคลังให้แก่โรงเรียนเลย มิหนำซ้ำ..ยังละเลยเรื่องการประหยัดพลังงานของชาติอีกด้วย

              ผมจึงเป็นคนหนึ่ง ที่หงุดหงิดมากกับนโยบายโรงเรียนประชารัฐและโรงเรียนสุจริต..มันเหมือนเปลี่ยนแต่ชื่อ คิดโครงการกันไปเรื่อยๆ แต่เนื้อในช่างไร้แก่นสาร

            ใครจะว่าอย่างไร?ก็แล้วแต่ ผมจะใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด..แต่เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าให้เขา ฝึกความซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรงเวลา และตรงไปตรงมาดีที่สุด..

            ผมอ่านพระราชดำรัสมาจนถึงหน้าสุดท้ายของปฏิทิน ..”..ควรจะปลูกต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้วคนเหล่านั้นก็จะพากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดิน และรักษาต้นไม้ด้วยตนเอง..”

            ผมเข้าใจแล้ว..พ่อไม่ได้หมายถึงต้นไม้ ที่เป็นต้นไม้จริงๆ..พ่อบอกเราให้เข้าใจถึงความแตกต่างของบุคคล ทุกอย่างมีใจเป็นที่ตั้ง ทุกอย่างสำคัญที่ใจ..

            หากคนเรายังไม่คิดที่จะทำดีด้วยหัวใจ ไม่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ คิดเห็นแต่ประโยชน์สุขส่วนตัว ก็คงยากที่จะคิดเสียสละเพื่อสังคมและบ้านเมือง

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๓  กันยายน  ๒๕๖๑


          

            

หมายเลขบันทึก: 652535เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2018 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2018 21:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท