แทบจะบอกว่าเป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้นะครับ ว่า “ทำไมปูนแก่งคอยถึงไปเรียนกับชาวนา” ทั้งๆที่ทำงานกันคนละด้านแทบจะว่าคนละขั้วโลกก็ว่าได้ ก็จริงอยู่นะครับ ถ้าพูดถึงขนาดขององค์กรและผลิตภัณฑ์ แล้วเราต่างกันอย่างแน่นอน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญกับการเรียนรู้เลยครับ
สำหรับปูนแก่งคอยเรามีแนวทางในการพัฒนาองค์กรที่ชัดเจนว่าเราจะพัฒนาที่ “บุคลากร” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้านจิตใจ และคุณภาพชีวิตของพนักงานในองค์กรเป็นหลัก ในเชิงพฤติกรรมแล้วเราต้องการให้เป็น Innovative Culture มุ่งสร้างคนให้เป็นนักเรียนรู้ ตลอดชีวิต จึงตอบได้ว่าเราเรียนที่ไหนก็ได้ เราอยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมหากเรียนรู้อยู่แต่ในวงการอุตสาหกรรมก็จะมองเห็นแต่กรอบเดิมๆ (Paradigm) มุมมองใหม่ๆก็ไม่เกิด
การที่เราจะเปลี่ยนพฤติกรรมคน เรามีแนวคิดว่าเราต้องเปลี่ยน วิธีคิดของคน ซึ่งก็ต้องเปลี่ยนวิธีเรียนด้วย
ดังนั้นการที่คนปูนไปเรียนจากชาวนาจึงเป็นการเปลี่ยนวิธีเรียน เพื่อให้คนได้เปลี่ยนวิธคิด ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ รวมถึงฝึกแนวคิดในการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง,ฝึกการลดอัตตา ให้กับพนักงานไปในตัว
สิ่งที่เราได้รับมากกว่าการเรียนรู้ก็ คือสายสัมพันธ์ข้ามองค์กร ระหว่างพี่น้องชาวนากับคนทำปูน เกิดการเอื้ออาทรต่อกันและกัน อย่างจริงใจ ชาวนาให้แนวคิดแก่คนปูน ....คนปูนเสริมสร้างกำลังใจให้กับพี่น้องชาวนา เราต่างก็พึ่งพากัน ไม่มีใครเล็กหรือใครใหญ่กว่ากัน เพราะ“จะเล็กหรือใหญ่ ต่างก็พึ่งพาอาศัยกันทั้งนั้น” ที่สำคัญ “เราเป็นคนไทยเหมือนกัน” ครับ
ได้คนในองค์กรมาสรุปประเด็นให้ฟังแบบนี้ เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นเลยค่ะ ยิ่งทำให้มั่นใจได้มากขึ้นว่า บริษัทปูนฯ เป็นองค์กรชั้นนำได้ก็เพราะให้ความสำคัญกับคนในองค์กรเป็นหลัก และทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ขอชื่นชมผู้บริหารด้วยใจจริงค่ะ