"พระสถิตในดวงใจไทยทั่วหล้า............ทั่วแผ่นฟ้าทั้งแผ่นดินมไหศวรรย์
พระสถิตในดวงใจนิจนิรันดร์....................องค์เทวัญขวัญฟ้าภูมิพล
พระดำริโครงการที่เลิศล้ำ....................ทั่วแหล่งน้ำทั้งผืนดินและไพรสัณฑ์
เป็นน้ำทิพย์ของแผ่นดินชุบชีวัน...............ตราบนิรันดร์ปวงประชามิรู้ลืม"
นับจากวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 เป็นวันที่หัวใจของประชาชนชาวไทยทุกคนต้องแตกสลาย ผืนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า เมื่อทราบว่า "พ่อของแผ่นดินไทย" พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี กษัตริย์ผู้เป็นภูมิพลังของแผ่นดิน ผู้เป็นประหนึ่งดั่งชีวิตของปวงประชาชาวไทยเสด็จสวรรคตแล้ว นับเป็นวันแห่งมหาวิปโยคโศกเศร้าที่ยิ่งใหญ่ไพศาลของคนไทยทั้งชาติ ที่ต้องสูญเสียองค์พระประมุข พระราชาผู้ทรงธรรมอันเป็นที่รักยิ่ง ยากเกินกว่าจะหาคำใดมาพรรณา เราขาดร่มโพธิ์ร่มไทรของชาติไปแล้วจริง ๆ
ตลอดพระชนม์ชีพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์เป็นระยะเวลายาวนานถึง 70 ปี พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะ ไม่เคยเห็นพระองค์ท่านทรงแสดงอากัปกริยาเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าพระวรกายให้ประชาชนใต้ร่มพระบารมีของพระองค์เห็นสักเพียงครั้งเดียว พระองค์ทรงงานโดยไม่มีวันหยุด ภาพที่ปรากฎให้ประชาชนชาวไทยเห็นจนคุ้นตาจะเป็นภาพที่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีพระเสโทหลั่งไหลทั่วทั้งพระวรกาย ทุกครั้งที่พระองค์ท่านทรงงานในทุกสภาพอากาศ พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปขจัดปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนไม่เว้นแม้แต่ในแหล่งทุรกันดารต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ความเดือดร้อนของประชาชนชาวไทยทุกเรื่องจะอยู่ในสายพระเนตรพระกรรณของพระองค์เสมอมา ทรงพลิกฟื้นแผ่นดินไทยจากความแห้งแล้งให้เป็นผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ด้วยการพระราชทานและแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้ประชาชนมากมาย ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับการเก็บรักษาน้ำ ตลอดจนการรักษาต้นน้ำลำธาร ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำ แม้ปัญหาน้ำมากจนล้น กลายเป็นปัญหาอุทกภัยในประเทศไทย ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากพลังของน้ำ พระองค์ได้มีพระเมตตากรุณาพระราชทาน "โครงการแก้มลิง" ซึ่งเป็นแนวคิดในการบริหารจัดการน้ำ ในการแก้ปัญหาอุทกภัยได้อย่างสิ้นเชิง เมื่อมีแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นในชุมชน ประชาชนก็มีแหล่งอาหารตามธรรมชาติเพิ่มตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นวัฏจักรของการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต พิจารณาดูแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายที่มาจากน้ำพระองค์ก็ทรงแก้ปัญหาได้เสมอ เสมือนพระองค์เป็นปราชญ์แห่งสายน้ำก็ว่าได้ สำหรับเรื่องดินซึ่งเป็นทรัพยากรที่อยู่คู่กับคนไทยนั้น บางพื้นที่ในประเทศไทยที่ประสบปัญหาดินเปรี้ยวประชาชนไม่สามารถปลูกพืชได้ ทรงพระราชทานให้ความช่วยเหลือและแก้ปัญหาดินเปรี้ยว โดยการคิด "ทฤษฎีแกล้งดิน" เพื่อขจัดปัญหานั้นได้โดยสิ้น ทำให้ประชาชนมีผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสมแก่การเพาะปลูก และใช้เป็นพื้นที่ทำกินได้จนถึงปัจจุบัน ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรชาวไทยได้อย่างมากมายมหาศาลอย่างหาที่สุดมิได้
การพระราชทานแนวคิดการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชนชาวไทย ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 4000 โครงการ หลายโครงการเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ หลายประเทศน้อมนำแนวคิดของพระองค์ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบ้านเมืองของตนและเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ หลักการนี้ เรียกว่า "หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งเป็นแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสอนให้ประชาชนชาวไทยดำรงชีวิตอยู่โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง ตั้งอยู่บนความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต มีความพอประมาณ มีเหตุมีผล มีความขยันอดทน รู้จักแบ่งปัน และมีสติปัญญา เพื่อให้ประชาชนชาวไทยดำรงชีพอยู่ได้อย่างพอเพียงและยั่งยืนตลอดไป
เห็นได้ชัดว่า แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี สามารถแก้ปัญหาได้ในทุกพื้นที่ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ จึงเป็นแนวคิดที่ทันสมัยสามารถปรับใช้ได้ตลอดเวลา มีความเป็นสากลและเป็นศาสตร์ที่ช่วยคนได้ทั้งโลกให้หลุดพ้นจากความยากลำบากในการดำรงชีวิตได้อย่างดียิ่ง
พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 หล่อหลอมรวมเป็นองค์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ รวมเรียกว่า "ศาสตร์พระราชา" ซึ่งเป็นตำราแห่งชีวิตที่สมควรอย่างยิ่งในการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิต และเป็นมงคลชีวิตอย่างแท้จริง
สิ่งที่พ่อสร้างไว้ ทำให้ประชาชนชาวไทยอยู่ดีมีสุขได้จนทุกวันนี้ ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลสิ่งที่พ่อสร้างไว้ ใช้ให้เป็น และใช้ให้เกิดประโยชน์ตามที่พ่อตั้งปณิธานไว้สืบไป
เราโชคดีที่เกิดเป็นคนไทย...
ไม่มีความเห็น