ศิษย์เก่านักกิจกรรม (ุ6) : เขียนกลอนสั้นๆ สื่อสารเป็นสะพานเชื่อม


ในที่สุดก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองถนัด ด้วยการเขียนกลอนสั้นๆ แบบมือสมัครเล่นโพสสื่อสารเป็นช่วงๆ เพื่อมิให้ข่าวสารหลบเร้นจากจางไปตามวันเวลา ซึ่งก็ได้ผลอยู่มาก เพราะเมื่อโพสออกไปแล้วก็มีศิษย์เก่า หรือแม้แต่ศิษย์ปัจจุบันเข้ามาสนทนาถามทักถึงกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

ผมไม่ค่อยถนัดงานออกแบบดีไซด์อะไรเลย  ยิ่งต้องใช้โปรแกรมกราฟฟิกแต่งภาพ  หรือจัดทำโปสเตอร์ยิ่งแล้วใหญ่  ทำได้แค่อธิบาย-เล่าเจตนารมณ์ให้ทีมงานได้รับรู้  เพื่อให้ทีมงานได้ไปแปลงเป็นสื่อดังที่อยากจะได้

ในช่วงการจัดกิจกรรม “มมส คืนเหย้าบอกเล่าเก้าสิบ ครั้งที่ 1”  เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561  ผมอยากออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ว่าด้วยเรื่อง “ศิษย์เก่าคืนเหย้า” ด้วยตนเอง  แต่ก็ทำไม่ได้  พอทำไม่ได้ก็วิเคราะห์ว่าจะสื่อสารอะไรดีเป็นระยะๆ  เพื่อมิให้กระแสกิจกรรมที่จะจัดขึ้นมีสถานะเป็นประหนึ่ง “ไฟไหม้ฟาง”

ในที่สุดก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองถนัด  ด้วยการเขียนกลอนสั้นๆ แบบมือสมัครเล่นโพสสื่อสารเป็นช่วงๆ  เพื่อมิให้ข่าวสารหลบเร้นจากจางไปตามวันเวลา  ซึ่งก็ได้ผลอยู่มาก  เพราะเมื่อโพสออกไปแล้วก็มีศิษย์เก่า  หรือแม้แต่ศิษย์ปัจจุบันเข้ามาสนทนาถามทักถึงกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง  


ใช่ครับ-ยิ่งโพสก็ยิ่งเกิดกระแสแพร่หลาย  เสมือนจาก “ปากสู่ปาก”  ต่อติดวาทกรรม “บอกเล่าเก้าสิบได้เป็นอย่างดีเยี่ยม” 

เรียกได้ว่า  ยิ่งเขียนกลอนสื่อสารไป  ยิ่งมีคนเข้ามาถามรายละเอียด จับจองที่นั่ง  จับจองเสื้อ  เส้นทางการเดินทางมายังสถานที่จัดงาน  ถามลึกเข้ามากระทั่งมีใครมาบ้าง  หรือถ้าไม่ใช่อดีตผู้นำนิสิต หรือนักกิจกรรมจะเข้าร่วมงานได้ไหม  ซึ่งผมก็ตอบอย่างจริงใจว่า “ได้” 


เมื่อลมฝน 
เพรียกคนให้คืนถิ่น 
ใกล้-ไกล หัวใจยังได้ยิน 
หรือสิ้นแล้วความทรงจำ


แน่นอนครับ – ถึงแม้งานศิษย์คืนเหย้าที่จัดขึ้นจะถูกปั้นแต่งจากสายกิจกรรมนอกหลักสูตรก็เถอะ  แต่ผมและทีมงานก็มิได้จำกัดกรอบอยู่แต่เฉพาะอดีตผู้นำนิสิตเท่านั้น  ตรงกันข้าม คือการเปิดกว้างรองรับทุกคนอย่างเสมอภาค  ขอเพียงเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส)  หรือไม่ใช่ศิษย์เก่า  หากประสงค์อยากเข้าร่วม – เราก็ยินดี ...

หรือในบางบทที่เขียนย้ำว่าผมเชื่อและศรัทธาว่าคนทุกคนมีตัวตน  คนทุกคนมีเรื่องเล่าและตำนานเป็นของตนเอง  และคนทุกคนไม่มีชนชั้นใดๆ เราต่างเป็นพี่น้องร่วมสถาบันเดียวกัน  ดังนั้นการคืนเหย้าครั้งนี้คือการมาบันทึกประวัติศาสตร์ชีวิตของตนเอง ประมาณว่า...

เพราะทุกคนมีเรื่องเล่า 
สุขเศร้าเคล้าความฝัน 
เพราะเราใช้นิยามเดียวกัน
จึงย้อนคืนย้อนวันมาสบตาฯ


และนี่คือส่วนหนึ่งของบทกลอนสั้นๆ แบบมือสมัครเล่นที่ผมเขียนขึ้น  เพื่อใช้เป็นสื่อ หรือสะพานแห่งการเชื่อมประสานข้อมูลเพื่อให้ผู้คนรู้สึกว่า “งานนี้จัดขึ้นจริง”  หรือ “เราจริงจังและจริงใจกับการกลับมาของแต่ละคนมาก” 


กลับบ้านกันดีไหม
กลับมาฟังเสียงหัวใจเธอและฉัน
ว่าที่ห่างและหายหลายร้อยวัน
แท้จริงนั้นยังผูกพัน มิผันแปร
แท้จริงนั้นยังรักมั่น มิผันแปร
แท้จริงนั้น เธอและฉันเป็นหนึ่งเดียว


ใช่ไหม 
คือลมหายใจแห่งความคิดถึง 
คือเรื่องราวอันติดตรึง 
ที่สุดจึง "กลับมา"
รักและคิดถึงจึงกลับมา


หรือแม้แต่การเขียนถามทักผู้คนที่อยู่ระหว่างการเดินทางก็มีเหมือนกัน

ฟ้าฝนท่ามเส้นทางอันห่างไกล
เดินทางด้วยใจไม่ไหวหวั่น
ค่อยมา-ค่อยไป ก็แล้วกัน
สู่การสบตาฝัน-เสวนาใจ



หมายเลขบันทึก: 649557เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2018 10:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 สิงหาคม 2018 10:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ใจถึงใจกันนะคะ

ว่าแต่ … ศิษย์เก่าอยู่ดีกินดีกันมากนะคะ

สวัสดีครับ พี่หมอ ธิ

ดูๆ แล้วศิษย์เก่าที่กลับมาก็เบิกบานแช่มชื่นกันถ้วนหน้า สงสัย “อยู่ดีกินดี-มีอันจะกิน” กันจริงๆ หรือเพราะสุขใจที่ได้กลับมาพบปะกันก็อาจเป็นได้ 555

แต่งานนี้เราจัด “ฟรี” ไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ กระนั้นก็มีพี่ๆ บริจาคเงินสะสมไว้ให้เป็นประโยชน์ต่อศิษย์ปัจจุบันเหมือนกัน ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท