อีกหนึ่งโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนา พอผมได้ศึกษาและเห็นว่า “มูลนิธิ” เป็นของ “พ่อหลวง” รัชกาลที่ ๙..ผมจึงรีบเดินทางไปศึกษาดูงานทันที..
ครึ่งวัน..ที่เรียนรู้งานโครงการไม่ผิดหวังเลย เพราะสถานที่จัดได้อย่างเรียบร้อย เป็นระบบมีระเบียบ..แบ่งโซนอย่างชัดเจน ทั้งอาคารห้องประชุมสัมมนา ร้านค้าชุมชนและห้องเรียนธรรมชาติภายในสวนผลไม้
ผมอยากรู้ความเป็นมาเป็นไป แต่เห็นท่านวิทยากรไม่ว่าง กำลังบรรยายให้นิสิตนักศึกษากลุ่มใหญ่ ได้ทราบวัตถุประสงค์และผลงานโครงการ..
ผมก็เลยต้องอ่านจากเอกสาร เรียนรู้จากป้ายประชาสัมพันธ์ แล้วนำมาบันทึกไว้ เพื่อเล่าขานให้ลูกหลานฟัง...
ความเป็นมา..สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการรับโอนที่ดินซึ่งนางสาวประยงค์ นาคะวะรังค์ ข้าราชการบำนาญโรงพยาบาลทรวงอก กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข
ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 5 แปลง พื้นที่รวม 21 ไร่ 12 ตารางวา ในตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจกรรมของมูลนิธิชัยพัฒนา โดยมูลนิธิชัยพัฒนาได้รับโอนเป็นกรรมสิทธิ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2545
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริที่จะพัฒนาและอนุรักษ์ศิลปกรรม วิถีชีวิต และวัฒนธรรมพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของชุมชนอัมพวาทั้งในด้านกายภาพ และการดำเนินชีวิตของผู้อาศัยในพื้นที่และชุมชน
พัฒนาพื้นที่ให้เกิดศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของจังหวัดสมุทรสงคราม รวมทั้งเป็นแหล่งศึกษาเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้พื้นเมือง การรักษาระบบนิเวศน์ของสวนผลไม้ และแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชุมชนอัมพวา
สร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้กับชุมชนจากการจำหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์แปรรูป และค่าตอบแทนจากการให้บริการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ผมใช้เวลากว่า ๒ ชั่วโมง เดินชมพื้นที่สวนชัยพัฒนานุรักษ์ ซึ่งจัดพื้นที่สวนผลไม้ดั้งเดิมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ถึงภูมิปัญญาและวิถีชีวิตท้องถิ่นอัมพวาในด้านการเกษตร โดยเฉพาะไม้ผลที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของอัมพวา
รวมทั้งส่งเสริมให้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตรระหว่างเกษตรกร ชาวสวน นักวิชาการ และผู้สนใจ
ลานสวนชัยพัฒนานุรักษ์ เป็นลานอเนกประสงค์สำหรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น งานเทศกาล และกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน
รวมทั้งจัดพื้นที่ร้านค้าชุมชน เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชน และคนในท้องถิ่นเช่าพื้นที่เพื่อจำหน่าย หรือจัดแสดงสินค้าที่เป็นของท้องถิ่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และการมีส่วนร่วมของชุมชน
ท้ายที่สุด.ผมมานั่งพัก เพื่อฟังเพลงจากนักร้องนักดนตรีเยาวชนในท้องถิ่น ที่ผลัดเปลี่ยนกันมาแสดงในวันหยุดสุดสัปดาห์..เพลง “ใกล้รุ่ง” บทเพลงของพ่อ ที่สุดแสนจะไพเราะ ดังก้องกังวาน
จากเวทีคนเก่งและคนกล้า..ทำในสิ่งที่มีคุณค่าและดีงาม เสริมสร้างทักษะอาชีพ สืบสานปณิธานของพ่อ..อยู่อย่างพอเพียง..และใช้ความรู้ความสามารถให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน..
นี่คือ..คุณค่าของอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ เรามาช่วยกันรักษาและสืบสานตำนานอัมพวาด้วยกัน..นะครับ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑
ไม่มีความเห็น