...ภาพระหว่างปรึกษาวางแผนทันทีที่เดินทางมาถึงของ 3 นักดำน้ำชาวอังกฤษ โรเบิร์ต อาร์เปอร์,ริชาร์ด สแตนตัน,จอห์น โวเลนธัน(ขอบคุณภาพจากคมชัดลึก)
ผู้เขียนขอบันทึกต่อกับภารกิจ ช่วยเหลือเด็กๆและโค้ช รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอนที่โลกต้องจารึกนี้ต่อครับ หลังจากที่คนไทยรวมถึงคนทั้งโลกต่างกังวล เป็นห่วงกับทั้ง 13 ชีวิต ในช่วงเวลาที่คนทั้งโลกน่าจะมีความสุขกับการแข่งขันกีฬาที่ยอดฮิตที่สุด ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ข่าวนี้ขึ้นอันดับหนึ่งตลอดช่วงเวลานี้ ทำไมคนทั้งโลกถึงให้ความสนใจเหตุการณ์นี้ ต่างเอาใจช่วยให้กำลังใจนักดำน้ำ นักกู้ภัยต่างๆ ทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน ภาวนาขอให้พบเด็กๆและโค้ชของพวกเขาทั้ง 13 คน ทั้งๆที่พวกเขาไม่ใช่คนที่รู้จัก ไม่ใช่ดารานักร้องหรือคนมีชื่อเสียง ไม่ใช่ลูกหลานของตัวเอง
แต่พลันที่ข่าวบอกว่า พบเด็กแล้ว พวกเราที่คอยเงี่ยหูฟังอยู่ตลอดเวลาต่างรุ้สึกยินดีปรีดาจนบางคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ผู้เขียนเองเป็นอีกคนที่รู้สึกขนลุกที่ 13 หมูป่ารอดชีวิตทุกคน และสภาพที่ข่าวเสนอให้เห็นดูยังแข็งแรงกันแม้จะดูซูบผอมไปบ้างก็ตาม
ฮีโร่กลุ่มแรกที่เข้าไปเจอ(แม้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ใช่ฮีโร่) คือนักดำน้ำชาวอังกฤษ 2 คน ชื่อนายจอห์น โวเลนธัน และนายริชาร์ด สแตนตัน ที่เป็นหน่วยดำน้ำนำเชือกไปวางเป็นแนวไว้ให้แก่ทีมอื่นๆที่จะตามไปค้นหาทีหลัง ตามข่าวรายงานว่าเป็นความบังเอิญที่เชือกวางแนวหมดนักดำน้ำจึงโผล่ขึ้นมาบริเวณนั้นพอดี และไฟก็ฉายไปเห็นดวงตาที่สะท้อนกลับมาจากเนินในถ้ำตรงนั้น และดวงตาที่เห็นคือดวงตาทั้ง 13 คู่ของเหล่าทีมหมูป่า ทราบมาทีหลังว่าบริเวณที่พวกเขาอยู่นั้นเรียกกันว่า "เนินนมสาว" ห่างจากหาดพัทยาไป 200 เมตร
นี่คือภาพที่นักดำน้ำชาวอังกฤษถ่ายไว้หลังโผล่ไปเจอเด็กๆ....
คลิปวีดิโอที่นักดำน้ำนำมาเผยแพร่ยอดวิวในการดูพรุ่งเป็นหลักล้านภายในไม่กี่ชั่วโมง คำสนทนาของเด็กคนหนึ่งกับนักดำน้ำทำให้รู้ว่า เด็กๆยังแข็งแรงและอยู่กันครบทั้ง 13 คน เด็กๆให้ช่วยกันแปล(ทราบทีหลังว่าน้องที่สนทนากับนักดำน้ำได้นั้นช่ิน้อง อดุลย์)และบอกว่าจะมาช่วยวันไหน อยากออกไปข้างนอก นักดำน้ำบอกว่า ยังไม่ได้วันนี้ อาจเป็นพรุ่งนี้จะมีหน่วยซีล และคนอื่นๆมาช่วย และถามคำสุดท้ายว่า พวกคุณมาจากไหน นัำดำน้ำตอบว่า มาจากประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร (England UK)
"Where are you come from"
"England UK"
ฟุตบอลโลกแข่งขันกันมาถึงรอบก่อนรอง ผู้เขียนเชียร์ทีมฝรั่งเศส(เหตุผลจากมีเสื้อที่ยืมภรรยาใส่วิ่งออกกำลังกายเป็นทีมฝรั่งเศส) ที่เล่นดีเหลือเกิน ต้องหันมาเชียร์อังกฤษ ด้วยเหตุผลใหม่ เพราะทีมที่ค้นพบเด็กทีมแรกคือ คนอังกฤษ
"We are happy"
"We are happy too"
"Thank you"
พวกเราก็น่าจะมีความสุขเหมือนคำสนทนาของเด็กๆกับนักดำน้ำชาวอังกฤษนั้น แต่ความกังวลระลอกใหม่มาเยือนอีก เพราะระยะทางที่เกือบ 4 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาดำน้ำจากโถง3 ถึงเนินนมสาวไปกลับถึง 11 ชั่วโมง ที่สำคัญเด็กๆยังไม่แข็งแรงพอที่จะดำน้ำออกมา สภาพเส้นทางมีแคบ บางช่วงลึกซับซ้อน ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำระดับโลกบอกว่ามันอันตรายมากเกินที่จะให้คนที่ไม่มีประสบการณ์ดำน้ำในถ้ำแบบนี้
หากจะให้ทีมหมูป่าอยู่ตรงนั้นจนกว่ามรสุมหมดต้องกินเวลาไปถึง 3-4 เดือนแล้วมั่นใจได้อย่างไรว่าน้ำจะไม่ท่วมถ้ำ โพรงที่นักปีนรังนกนางแอ่นยังไม่เจอช่องที่จะทะลุถึงได้ จะเจาะถ้ำต้องใช้เทคโนโลยีขนาดไหนที่ต้องเจาะผนังหนาเป็นร้อยๆเมตรอย่างไร
ขณะที่อากาศหายใจในถ้ำเริ่มน้อยลงๆ
เหล่าฮีโร่ทั้งหลาย(นักดำน้ำ หน่วยซีล นักปีนเขา คนสูบน้ำ หน่วยแพทย์ พยาบาล ผู้ว่าฯ เชียงราย ฯลฯ)จะช่วยเด็กๆและโค้ชออกมาได้อย่างไร
ติดตามตอนต่อไปครับ
...............
ไม่มีความเห็น