วัคซีนใจ


คุณแม่พาคุณลูกวัย 26 ปี มาปรึกษาและรักษาอาการป่วย แต่คุณแม่เป็นฝ่ายเล่าอาการคนเดียวเลย เราเลยยังไม่ได้ยินเสียงน้อง เพราะไม่ว่าจะถามอะไรคุณแม่ก็แย่งตอบหมดเลยแทบหาจังหวะถามคุณลูกไม่ได้สักที แต่พอจับใจได้ความว่า น้องไปทำงานที่สอบบรรจุได้แล้วแต่ไม่ชอบงานที่ทำรู้สึกมันยากและจับต้นชนปลายไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มยังไงแล้วก็ป่วยไม่มีแรงทำงาน ซึมเศร้า รับยาจิตเวชฯ ตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลใหญ่มาแล้วก็ไม่เป็นอะไรแต่กล้ามเนื้อยังอ่อนแรงไม่มีแม้แต่แรงจะจับปากกาเขียนหนังสือ เรามีเวลาคุยกับน้องจริงๆ ที่เตียงตรวจฯ เพราะคุณแม่ไม่อยู่ตรงนี้ พอเค้าใจได้ว่าน้องเป็นเด็กกลุ่มที่อยู่ในยุคที่พ่อแม่ฝากความหวังไว้เยอะ อยากได้อะไรหาให้เต็มที่ เลือกทุกอย่างที่คิดว่าดีอัดๆให้ จนเมื่อเวลาที่น้องต้องเผชิญชีิวิตลำพังเลยไม่มีภูมิต้านทานทางสังคมไม่รู้จักอดทนอดกลั้น ส่งผลให้รู้สึกล้มเหลวจิตใจอ่อนแอและป่วยในที่สุด เมื่อมาถึงมือเราก็ไม่ได้ชี้แจงให้คุณแม่เขาทราบเพราะคิดว่าคงจะไม่ฟังเราแน่ๆ (ไม้แก่ดัดยากไปแล้ว) เลยค่อยๆ ทำความเข้าใจกับน้องแทน ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเผชิญกับอะไร และจะสร้างความเข้มแข็งจากภายในตรงไหนก่อน และรักษาอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วยการนวดและกดจุด ปรากฏว่ากล้ามเนื้อมีแรงมากขึ้นมีบีบมือและสามารถเขียนหนังสือจับช้อนกินข้าวได้ น้องมีรอยยิ้มมีแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังมากขึ้น แต่สิ่งที่ห่วงคือเมื่อกลับบ้านไปแล้วอยู่ในสถานการณ์แบบเดิมๆ สิ่งแวดล้อมแบบเดิมๆ วัคซีนใจที่ลุงเสิดให้ไปจะพอสร้างภูมิฯ ไหวไหม ว่าแล้วก็แลยแถมคาถาที่ตัวเองใช้แล้วได้ผลดีแถมน้องไปด้วย คาถานั้นก็ตามภาพเลยครับ^__^

หมายเลขบันทึก: 648356เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2018 15:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2018 15:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท