ก่อนอื่นผมขออธิบายก่อนเบื้องต้นน่ะครับ รอบโลกของเรา เป็นสูญอากาศ การที่พระอาทิตย์จะถ่ายเทความร้อนสู่โลกก็มีเพียงวิธีเดียวคือ การแผ่รังสี
เมื่อแสงตกกระทบลงสู่โลก พื้นผิวของโลกก็จะแปลี่ยนแสง(รังสี) เป็นพลังงานอื่นฯ รวมถึงพลังงานความร้อน กล่าวง่ายๆคือ ส่องโดนพื้นพื้นก็ร้อนทำนองนี้
ในเมื่อรอบๆ โลกเป็นสูญอากาศ โลกเองหากต้องการลดผลกระทบจากความร้อนของพระอาทิตย์ ก็ต้องใช้วิธีสะท้องรังสีความร้อนออกไปเช่นกัน
ฉะนั้น โรงผลิตไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานตั้งต้น เช่น การที่เรานำแผงโซล่าเซล หรือ หอทำความร้อนที่ใช้หลักการสะท้อนไปต้มหม้อขนาดใหญ่ หรือจะเป็นท่อแกนความร้อน ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ นำพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบการแผ่รังสี มาเปลี่ยนเป็นพลังงานอื่นๆ และมีผลทางความร้อนทั้งสิ้น
การกระทำเช่นดั่งกล่าว เพื่อดูดซับพลังงานของพระอาทิตย์ เปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานแสงนั้นส่วนใหญ่ก็ไปผลิตเป็นความร้องเช่นกัน ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
หากคิดดูให้ถี่ถ้วนแล้ว แทนที่จะสะท้อนรังสีความร้อน สะท้อนพลังงานออกไปจากโลกในรูปแบบรังสีความร้อน แต่กลับพยายามรับรังสีความร้อนเข้ามายังโลก แล้วยัง นำมาเป็นพลังงานตั้งต้น ในการผลิตไฟฟ้า ส่วนไฟฟ้าที่ได้ก็ไปเปลี่ยนเป็นหลังอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายก็มีผลเป็นพลังงานความร้อน หรือดูดซับพลังงานรังสีที่ได้จากพระอาทิตย์มาเก็บไว้ในโลก
การกระทำที่ ส่งผลให้โลกร้อนแบบทางตรงด้วยซ้ำไป เช่น แผงโซล่าเซล แผงสีดำ แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าได้ไม่กี่เปอร์เซ็น ส่วนเกินพลังงานที่เหลือ ก็เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนปรากฎอยู่ที่แผงโซล่าเซลที่ร้อน
แม้แต่โรงไฟฟ้าแบบหอต้มน้ำเกลือ ก็ใช้การสะท้อนรังสีความร้อนไป เพื่อต้มเกลือกักเก็บความร้อนไว้เปลี่ยนเป็นพัลงงานไฟฟ้า
การที่เรารับแสงเต็มๆ ก็เท่ากับรับความร้อนจากพระอาทิตย์เต็มๆ แทนที่จะพยายามสะท้อนแสงพลังงานพระอาทิตย์ออกนอกโลก กลายเป็นว่า ยิ่งรับพลังงานแสงอาทิตย์ พยายามไม่ให้สะท้อนออกไป ก็เท่ากับรับความร้อนจากพระอาทตย์เต็มๆ เช่นกัน เสมือนโลกกำลังถูกต้มด้วยแสง.......
แล้วอย่างนี้
การใช้พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นการลดโลกร้อนจริงหรือครับ ???????
ไม่มีความเห็น