การสอนเชิงช่าง..


วันนี้ได้มีโอกาสได้คุณกับยายท่านหนึ่ง เห็นท่านเล่นอินเตอร์เน็ต และบ่ พึมพำออกมาว่า  ทำไม อ่านขั้นตอนต่างๆ แล้วทำตามทำไมถึงไม่ได้ตามเขาน่ะ ผมได้ยินดังนั้น(เผือก)  ก็แสดงความคิดเห็นออกไปว่า ก็คนที่เขียนขั้นตอนไม่ได้เรียนครุศาสตร์อุตสาหกรรมน่ะสิ ต่อไปนี้เป็นบทสทนาระหว่างผมกับ ยาย
ยาย-----ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้า(เผือกอะไรด้วย) แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเกี่ยวด้วยหรือ...จึงถามกลับมาว่าเกี่ยงกันด้วยหรือ ทำไมต้องเรียนครุศาสตร์อุตสาหกรรมด้วย....
ผม(ยิ้ม)--การสอนในครุศาสตร์อุสาหกรรมต่างกับการสอนในระบบครูทั่วไปน่ะสิครับ
ยาย-----ไงเป็นงั้นล่ะ..???? ไม่ได้เรียนการสอน แบบครูทั่วๆ ไปหรือ ครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ อะไร เทือกนั้นหรือ.....
ผม----- ครับ ในระบบการสอนครุศาสตร์อุตสาหกรรมนั้นต่างกันครับ ทำให้ประเทศมี มหาวิทยาลัยที่สอนอยู่แค่ 4 แห่งครับ ที่เรียนกันในวงการว่า 4 เทียน
ผม---- การสอนททฤษฎีนั้น แบ่งความลึกของเนื้อหาเป็น 5 ระดับ  รู้/สังเคราะห์/เข้าใจ/วิเคราะห์/นำไปใช้  ครับ
[นั้นสงสันสิครับทำไมไมีตอบเรียน รู้/เข้าใจ------สังค์เคราะห์ สิน่ะครับ ถ้าคุณให้ นร. ท่อง พญัชนะ 44 ตัว นร. ท่อง ก.ข.......ฮ. กับ นร. ที่ท่อง ก.ฮ.ร.....ต  สลับไม่ลำดับ แต่ท่องได้ครบ 44 ตัว นร. คนนี้ถือว่าสอบผ่านหรือเปล่าครับ ต้องเปิดใจ ในด้านการวัดการประเมินด้วยน่ะ )
ผม---ส่วนปฎิบัติก็มีเช่นกัน ตั้งแต่ เรียนแบบ.......และ การทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเรียกอีกอย่างว่า ทำอย่างเป็นอัตโนมัติ  ครับ ซึ่งการสอนเพื่อให้ได้ระดับนี้ค่อนข้างยาก ในด้านอุตสาหกรรมนั้น นร.ถึงเสียชิวิตเลย หากสอนไม่ดี
ผม---การสอนในครุศาสตร์อุตสาหกรรมนั้น นอกจากได้เรียนวิชาครูทั่วๆไปแล้วยังมีหลายวิชาด้านครูช่างเพิ่มมากอีก หนึ่งในวิชานั้น เป็นวิชาที่ผมสอนเอง นั้นคือวิชา "กลวิธีการสอนเชิงช่าง"
ผม---กลวิธีการสอนเชิงช่าง นั้นเป็นวิชาเฉพาะ กล่าวคือ ในคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมนั้น มีหลักๆ 5 สาขา นั้นคือ ไฟฟ้า/อิเล็กโทรนิกส์/เครื่องกล/โยธา/อุตสาหการ และคอมพิวเตอร์
ผม---ทำไมนั้นหรือเป็นในแต่ล่ะสาขา จะมีบริบท และวัฒนะธรรมการทำงานต่างกันวิชานี้จะต้องเป็นครู(อาจารย์) ที่สอนในสาขานั้นๆ เท่านั้นสอนเอง เจ้าของสาขาต้องเป็นผู้สอนเอง
ผม---ความแตกต่างคือบริบทการปฏิบัติงานที่แตกต่างกันจึงจำเป็นต้องมีการสอนที่เป็นการสอนเฉพาะ (บริบทการปฏิบัติงานเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดเป็นครุศาสตร์อุตสาหกรรมแยกออกมา จากคณะวิศวกรรมศาตร์)คือ วิชาวิศวกรรมศาสตร์+ วิชาครู+วิชาการสอนเชิงช่าง
ผม---อย่างผม ผมสอนวิชาที่เกี่ยวกับโปรแกรมมิ่ง ทำภาษา ใน ชั่วโมงแรกผมจะสอนให้นักศึกษา ชงกาแฟ ก่อน ยาย---จะบ้าหรือ เรียนวิชาชงกาแฟหรือ 5555 จะได้อะไรมีไม่กี่ขั้นตอนก็จบแล้ว
ผม---ผมจะตั้งโต๊ะหน้าห้อง เอากาต้มน้ำ/ ถ้วย/โหลการแฟ/โหลน้ำตาล/โหลนมข้น/ช้อนชา วางเตรียมไว้ แล้วสั่งให้ นศ. เขียนขั้นตอนการชงกาแฟ ตามของที่วางอยู่ ผมให้เวลา ครึ่ง ชั่วโมง
ผม----นศ. หัวเราะ แล้วก็เขียนลงกระดาษ ไม่ถึง 5 นาที ทุกคนก็ส่งให้ผมทุกคน
ผม(ยิ้ม)--- แล้วเลือกสุ่มเลือกขั้นตอนที่ได้รับ และสุ่มเลือก 2 นศ. คนที่ 1 มาอ่านขั้นตอน และอีกคนหนึ่ง ให้ทำตามที่ นศ. อ่าน  ปากฎว่า เมื่อทำตามขั้นตอนของใครๆ ที่ส่งมาก็ไม่สามารถชงได้สำเร็จ
ผม----จึงกล่าวว่า แต่ล่ะคนเขียนขั้นตอนมานี้ ไม่่ถึง 10 ขั้นตอน แต่คุณเชื้อไมว่าถ้าเขียนให้สามารถชงกาแฟได้จริงๆนั้น สันที่สุดที่ผมเขียนได้ก็มากถึง 80 ขั้นตอนเชียว
นศ....ถึงกับร้อง อะไรขนาดนั้น ก็ดูคุณสิ ขั้นตอนที่เขียนมา มาถึงก็ ใส่กาแฟ ใส่น้ำตาล ใส่นมข้น ใส่น้ำ แล้วทำจริงก็ทำไม่ได้จริงไมครับ
ผม---ผมเฉลย....ก่อนอื่น
1**อินพุธ กาแฟ กี่ช้อน  
2**อินพุธ น้ำตาลกี่ช้อน
3**อินพุธนมข้นกี่ช้อน
4**อินพุธน้ำเดือนกี่ ซีซี
ผม---ทุกคนกินไม่เหมือนกัน ถูกต้องไมครับ
5**มือขวาหยิบช้อน ???? ผิดครับ
5**มือซ้ายจับขวดกาแฟ มือขวา จับฝา มือขวาหมุนซ้ายจนกระทั่งฝาเปิด
6**หยิบช้อน ????? ผิดครับ
6** วางฝาขวดกาแฟ
7**ปล่อยมือซ้าย จับหูถ้วยกาแฟ นำมือขวาหยิบช้อน.....
พอผมอธิบายถึงตรงนี้ นศ. ก็ ออ   ผมก็ให้ นศ. เขียนโปรแกรมชงกาแฟใหม่ คราวนี้ปาไป ชั่วโมงหนึ่งยังไม่เสร็จเลยครับ
เพราะพอเขียนเสร็จให้มาลองทำตามขั้นตอนก็ขาดอีกไม่จบไม่สิ้น.......
(ทำไมผมสอนขั้นตอนชงกาแฟ เพราะสำหรับผมว่าภาษาโปรแกรมมิ่งไม่สำคัญเท่า แนวคิดขั้นตอน LOGIC ในการเขียนโปรแกรม
อย่างผม ส่วนตัวผมเขียนได้ทุกภาษา ขอให้บอกมาว่าจะให้ผมเขียนภาษาอะไรเท่านั้น ขอเวลาศึกษารูปแบบภาษาสักพัก
กล่าวคือ นศ. (ใครๆ) เรียนก็รู้ว่า print คือคำสั่ง พิมพ์ออกหน้าจอ ถามคำสั่งไหนๆ จำได้หมด อธิบายได้หมด ทุกคำสั่งครับ คืออะไร ทำอะไร
แต่พอให้เขียนโปรแกรม กลับเขียนไม่ได้  เพราะ logic ความคิดไม่ได้ ไม่ทราบว่าจะเอาคำสั่งแต่ล่ะคำสั่งมาเรียงต่อกันแล้วได้ผลลัพธ์ทำไง)

ผม----ทำไมหรือครับ.....เพราะผู้เขียนมักเรียนโดยลืมไปว่า ขั้นตอนนั้นๆ ที่ทักษะอัตโนมัติอยู่ด้วย ผู้เขียนขั้นตอนมักไม่ได้เขียนขั้นตอนเหล่านั้นลงไป
เวาลาท่านเหล่านั้นเขียนขั้นตอนในการทำอะไรสักอย่างจึงมีแต่ขั้นตอนหลักๆ แต่ขาดขั้นตอนสำคัญ ที่แผงอยู่ในการทำงานนัน้ๆ นั้นคือขั้นตอนที่ทำจนเป็นอัตโนมัตินั้นเอง
ยาย---ออ มิน่า ทำตามขั้นตอนตามที่เขียน ให้ทำตาม ตามเน็ตถึงได้ทำไม่สำเร็จ แล้วถ้าต้องการให้เขียนขั้นตอนได้โดยไม่ต้องเรียน ครุศาสตร์อุตสาหกรรม ทำไงล่ะ อย่างนี้ก็แย่สิ
ผม---ไม่ยากครับ วิธีคือ ผมสอนไม่ต้องเขียนขั้นตอน แต่ต้องให้อีกคนดูผู้ทำ แล้วเขียนแทนครับ คนที่ดูแล้วเขียนตามที่เห็นก็จะได้ขั้นตอนเกือบครบครับ
ผม---อย่างผมสอนวิชาชงกาแฟ ผมก็ให้ นศ. ออกมาคนหนึ่ง แล้วให้ นศ.ทั้งห้องเขึยนทุกอย่างที่ นศ. ชงการแฟทำ สุดท้ายก็ได้ครบ สามารถทำตามขั้นตอนได้ ชงกาแฟสำเร็จครับ
ยาย----ออ อย่างนี้นี้เอง

ยาวหน่อยน่ะครับ....ง่วงแล้ว ไปล่ะ อนึ่งจริงๆ ยังมีอีกมากมายนั้น แล้วเหลาให้อ่าน......น่ะครับ

หมายเลขบันทึก: 647090เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2018 00:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2018 00:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท