บทความจากรายการวิทยุ Human Talk ประจำวันที่ 8 เมษายน 2561


รายการวิทยุ Human Talk ออกอากาศวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ กล่าวว่า ช่วงที่รายการวิทยุตอนนี้ออกอากาศก็เป็นช่วงที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวไปสงกรานต์

คุณวิชัย วรธานีวงศ์ กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้จะลองเดินทางโดยรถไฟกรุงเทพไปศรีราชาซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษ

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญในช่วงสงกรานต์ปีนี้ก็คือจะมีการนำวัฒนธรรมไทยมาใช้มากขึ้นหรือไม่ เพราะออเจ้าเป็นเรื่องใหญ่ จะมีทุนทางวัฒนธรรมมากขึ้น อีกเรื่องหนึ่งคือการดูแลความปลอดภัย เรื่องนี้สำคัญมาก ถ้าเมาก็ต้องพักผ่อน อย่าไปขับรถ

เมื่อคืนก่อนหน้าการออกอากาศครั้งนี้ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ได้ดูการแข่งขันกีฬา 2 รายการ รายการแรกคือการแข่งขันระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สำหรับคนที่บ้าคลั่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคงดีใจมากเพราะกลับมาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่บ้านของเขาพลิกล็อค 3 ต่อ 2 คะแนน ทั้งที่เคยถูกนำในครึ่งแรก 2 ต่อ 0 คะแนน

คุณวิชัย วรธานีวงศ์กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวนี้มาตลอด ก็ดีใจที่ได้รับข่าวดี เมื่อกล่าวถึงกีฬาฟุตบอลที่หลายท่านชื่นชอบ แต่ละทีมก็เก่งๆทั้งนั้น บางครั้งก็เดาทางยากเหมือนกัน บางทีมก็เป็นตัวเต็ง บางทีมก็เป็นมวยรองแต่ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าเก่งจริงก็อาจไปถึงแชมป์ก็ได้ ขอให้กำลังใจทุกทีม ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ กล่าวว่า เมื่อคืนก่อนหน้าการออกอากาศครั้งนี้ ได้ดูการแข่งขันเพราะอยากรู้ว่าเขาจะปรับตัวอย่างไร ครึ่งแรกแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเล่นไม่ดี ปีนี้แมนเชสเตอร์ซิตี้นำมาก โค้ชของเขาชื่อ Pep Guardiola ทำให้ทีมเล่นได้ดี

ส่วนอีกรายการหนึ่งคือกอล์ฟระดับมาสเตอร์ ซึ่งก็เป็นกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เล่นที่ออกัสตาในรัฐจอร์เจีย สนามสวยมาก นักกอล์ฟหรือคนที่ชอบกอล์ฟถ้ามีโอกาสไปดูบ้างก็จะดี  มีนักกอล์ฟไทยด้วยคือ   กิรเดช อภิบาลรัตน์ เล่นได้ดีพอสมควร ช่วงที่ออกอากาศรายการวิทยุครั้งนี้เป็นวันที่ 3 ของการแข่งขันยังเหลืออีกวันหนึ่ง คนที่นำอยู่ชื่อ Patrick Reed เป็นนักกอล์ฟชาวอเมริกัน และกำลังจะแข่งสูสีกับ Rory McIlroy ซึ่งเคยชนะระดับแกรนด์สแลมมาแล้วแต่ยังไม่เคยชนะระดับมาสเตอร์ สนุกมาก Patrick Reed นำอยู่ประมาณ 3 แต้ม สนามนี้มีข้อดีคือถ้าเสี่ยงแล้วประสบความสำเร็จก็ชนะ ถ้าไม่สำเร็จก็หลุดไปเลย ซึ่งเป็นความท้าทาย กรีนที่นั่นจะไหลลง มีน้ำมาก ยาก เป็นสนามที่ไม่ไกล 

เรื่องสงครามการค้า สิ่งที่คนต้องปรับตัวมากคือปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง เคยคิดมาก่อนว่าหลังจากมีองค์การการค้าระหว่างประเทศ หรือ WTO ซึ่งมีดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ไปเป็นผู้อำนวยการ แต่ก่อน การค้าเสรีมีการลดภาษี หรือ tariff แล้วก็ตกลงกันระหว่างโลก แต่โดนัลด์ ทรัมป์ก็มีความคิดประหลาดโดยเฉพาะกับประเทศจีน คิดว่าประเทศจีนส่งสินค้ามากกว่าซื้อสินค้าจากอเมริกา เรียกว่า ขาดดุลการค้า จริงๆแล้วเรื่องการขาดดุลการค้าเป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้น จริงๆแล้วประเทศไทยก็ขาดดุลการค้ากับประเทศอื่นมากมาย นโยบายที่คิดว่าประเทศหนึ่งขายแล้วต้องได้มากกว่าประเทศอื่นเป็นนโยบายแบบโบราณ เรียกว่า Mercantilism ประเทศนั้นส่งสินค้ามามากกว่าประเทศนั้นก็รวย มันไม่ได้แค่ส่งสินค้าไป ส่งสินค้ามา สินค้าบางตัวก็กลายเป็นวัตถุดิบ แล้วมันก็ทำให้ราคาหรือการบริโภคของคนในประเทศนั้นถูกลง จีนส่งสินค้าจำนวนมากมาอเมริกา ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคถูกลง แล้วก็มีปัจจัยการผลิต เอามาใช้ในการผลิตจึงไปสร้างเศรษฐกิจในด้านอื่น ถ้าประเทศใดก็ตาม สามารถบริหารดุลการค้าถึงแม้ว่าจะขาดดุลอยู่บ้าง แต่ว่าประชาชนได้ประโยชน์ หรือนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ประเทศก็อยู่ได้ แต่โดนัลด์ ทรัมป์รู้สึกว่า ประเทศที่ชนะ ส่งสินค้ามามากกว่า จะต้องเป็นประเทศที่เอาเปรียบเขา โดนัลด์ ทรัมป์จึงตั้งกำแพงภาษี เหมือนวันนี้ถ้าประเทศไทยตั้งกำแพงภาษีทุกๆอย่าง สินค้าเข้ามาในประเทศก็แพง ผู้บริโภคก็ลำบาก การค้าก็ต้องลดการกีดกันการค้า ถ้าตั้งกำแพงภาษีมากการค้าก็ไม่เกิด การค้าก็ดีต่อประเทศในโลก แต่ที่น่ากลัวก็คือ การเมืองยุคโดนัลด์ ทรัมป์เขาหาเสียงมา เมื่อหาเสียงแล้วก็จะทำตามโดยไม่ศึกษา คิดอะไรก็ทำ เขาชอบดูทีวี ทีวีในอเมริกามี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งสนับสนุนเขา ส่วนหนึ่งต่อต้านเขา เขาจึงด่าพวกนี้ว่า Fake News เขาหาเสียงไปเรื่อยๆ การค้าในโลกมีการกีดกันอยู่ 2 อย่าง อันหนึ่งก็คือการตั้งกำแพงภาษี อีกอันหนึ่งคือปัจจัยอื่นๆที่ไม่ใช่ภาษีซึ่งประเทศจีนเก่ง โดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้เพราะการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ถ้าเป็นประเทศที่ไม่ได้ศึกษาหรือเจรจามาก่อน ก็ทำลำบาก อย่างเช่นวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ให้ไทยนำเข้าหมูจากอเมริกา แต่ไทยมีระเบียบคือไม่ให้ใช้สารเร่งเนื้อแดง เป็นกฎทางด้านสุขอนามัยของไทย ครั้งเราก็ต้องป้องกันเรื่องอย่างนี้เหมือนกัน เมื่อเกิดปัญหามันก็ลุกลามเร็วและกระทบไปทุกประเทศ มันพัวพันไปกันหมด เศรษฐกิจก็เหมือนสมัยที่ไทยมีปัญหาวิกฤตต้มยำกุ้ง เกิดขึ้นมาลุกลามและไปกระทบเศรษฐกิจ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกจริงๆแล้ว ช่วงหลังโดยเฉพาะปีนี้ก็ถือว่าเราขยายตัวดีขึ้นพอสมควร จึงเป็นห่วงความบ้าคลั่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อเมริกาประธานาธิบดีมีอำนาจมาก ตอนนี้ตลาดหุ้นของเมริกาก็ผันผวนมาก แล้วก็จะมากระทบตลาดหุ้นในประเทศไทยด้วย โดนัลด์ ทรัมป์ไม่รู้ว่าประเทศจีนกับอเมริกามีความสัมพันธ์ด้านการค้าเท่านั้น อเมริกาเป็นหนี้จีนมากมายไปหมด เป็นประเทศที่ขาดทุนหมด ทั้งด้านงบประมาณ ดุลการค้า และด้านอื่นๆ เป็นประเทศที่ใช้จ่ายเกินตัว เพราะทำตัวเป็นตำรวจโลก

คุณวิชัย วรธานีวงศ์กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์มีนิสัยมุทะลุด้วยความเป็นพ่อค้ามาก่อน เพราะฉะนั้นตอนที่เขาหาเสียงโดยที่มีฐานเป็นเกษตรกร และสิ่งต่างๆที่เขานำเสนอนโยบายมา ในมุมที่เขาเป็นนักการเมือง ก็พยายามไปทำให้ความรู้สึกของประชาชนที่เลือกเขาเห็นว่าทำตามสัญญาแล้วแต่จริงๆแล้วเขาพลิ้ว อีกไม่นานเขาก็ต้องเปิดทางเพื่อหาวิธีการที่จะลดความร้อนแรงลงมิฉะนั้นอเมริกาจะมีแต่เจ็บหนัก

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ กล่าวว่า คนที่ได้รับผลกระทบจริงๆจากการตอบโต้ของสีจิ้นผิงกลายเป็นภาคเกษตรเพราะสินค้าอย่าง ถั่วเหลืองซึ่งเป็นสินค้าที่จีนต้องซื้อโดยตรง คือจริงๆแล้ว ฐานเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์เป็นภาคเกษตรส่วนใหญ่ ตอนนี้ที่จีนโต้ตอบด้วยกำแพงภาษีสินค้าเกษตร คนที่เป็นฐานเสียงของเขาก็เดือดร้อน จริงๆแล้วอเมริกาต้องการส่งออกสินค้าเกษตรค่อนข้างมาก อยากให้คนไทยศึกษาการเมืองแบบเลือกตั้งด้วย ถ้ามีปัญหาขึ้นมาแล้วแก้อย่างไร อย่างน้อยเมืองไทยยังมีปฏิวัติซึ่งหลายคนบอกว่าปฏิวัติไม่ดี แต่หลายครั้งปฏิวัติก็เข้ามาช่วยสถานการณ์เป็นช่วงๆและทำให้ประเทศไม่ล้มเหลว อย่างอเมริกาในขณะนี้ ถ้าคนคิดได้แล้วหาทางกำจัดทรัมป์ด้วยวิธีต่างๆ อเมริกาก็จะดีขึ้น ทรัมป์เป็นเหมือนนักปลุกระดม คือไม่ได้บริหารประเทศ การบริหารประเทศต้องมีคณะที่ปรึกษาหารือกัน มองแล้วทุกมุม สมัยโอบาม่าหรือจอร์จ บุช มีการปรึกษาหารือกัน แต่สมัยทรัมป์ คณะที่ปรึกษาก็เหมือนกับลูกน้อง เมื่อทำอะไรไม่ถูกใจก็ปลดออก วิธีการปลดก็ใช้ Twitter เป็นคนที่ไม่มีมารยาท ใช้คำพูดชวนหาเรื่อง ด่าคน กฎหมายหมิ่นประมาทของอเมริกาอ่อน ถ้าเป็นในเมืองไทยไม่มีใครยอมเพราะใช้คำพูดที่หยาบคายมาก คนเราต้องไม่รู้เฉพาะเรื่องภายในประเทศของตนเองแต่ต้องรู้เรื่องระดับโลกด้วย ระดับโลกก็มากระทบกับประเทศเราด้วย ตลาดหุ้นก็ตก เพราะฉะนั้นเวลาที่ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์เขียนสมรรถนะของคนที่มีความสามารถในทำงานปัจจุบัน บางคนอาจจะเขียนว่า จะต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ อันนั้นก็สำคัญ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เขียนไว้ 2 อันที่แตกต่างจากคนอื่นและก็จำเป็น โดยเฉพาะครูประถมและมัธยมต้องมีโลกทัศน์ที่กว้าง กระตุ้นให้เขาแสวงหาความรู้ที่มันเป็นเรื่องของโลกภายนอก แล้วต้องมีจิตวิญญาณผู้ประกอบการด้วย เรามักจะคิดว่าผู้ประกอบการต้องออกไปเป็นเถ้าแก่ แต่จิตวิญญาณผู้ประกอบการหมายถึงคนที่แสวงหาโอกาสใหม่ๆ บริหารความเสี่ยง สร้าง networking สร้างลูกค้าใหม่ ทำไมคนไทยที่ทำธุรกิจขยายไม่ได้ เพราะ เขาไม่กล้าเสี่ยง เพราะ ฉะนั้นเรื่องจิตวิญญาณผู้ประกอบการต้องส่งไปยังชุมชนด้วย ลูกศิษย์ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ คนหนึ่งเป็นอดีตผู้ว่าตอนนี้กำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ ได้เชิญทีมของศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ไปดูงานในโครงการไทยนิยมยั่งยืน โครงการนี้ทำให้คนมีส่วนร่วม แล้วก็ปรับปรุงโครงการเหล่านี้ให้มันต่อเนื่อง โครงการนี้ไปทุกหมู่บ้าน แต่ว่าทำครั้งเดียวแล้วเลิก ยุคนี้เป็นยุคดิจิตอล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยก็เก็บข้อมูลไว้ แล้วก็ให้นักวิชาการเข้าไปสังเคราะห์ดูว่ามีโครงการอะไรบ้างที่น่าจะทำต่อ เพราะว่าไปลงทุนหมู่บ้านละ 200,000 บาททหารก็พูดเรื่องความมั่นคง ประชาธิปไตยจะเลือกคนอย่างไร ก็ไม่เป็นไร มีเรื่องความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย ขณะเดียวกันก็ต้องมีเรื่องเกี่ยวกับการทำมาหากินด้วย ถ้าราชการไปฝ่ายเดียว ชาวบ้านฟังอย่างเดียว ก็ได้ประโยชน์ระดับหนึ่ง ถ้าเราทำให้ต่อเนื่อง ขณะนี้มีคณิตศาสตร์แบบ Algorithm สามารถเอาตัวเลข Big Data สังเคราะห์ดูว่าในหมู่บ้านไหนบ้างมีแววแล้วทำอย่างต่อเนื่องให้เขามีความเป็นมืออาชีพ ให้เขาเป็นผู้ประกอบการจริงๆแล้ว คนต่างจังหวัดไม่ได้ฝึกเรื่องนี้มา แต่เป็นสังคมที่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ.ควบคุมอยู่ คำว่า ประชารัฐ ต้องให้ภาคเอกชน ภาควิชาการเข้าไปร่วมด้วย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ โชคดีที่ได้รับเกียรติจากทางโครงการให้ไปเยี่ยมชม และถ่ายทำรายการมาออกอากาศ แม้ว่าโครงการนี้จบภายในปีนี้ แต่ว่าฐานข้อมูลก็น่าจะอยู่ ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นนโยบายรัฐบาลก็ต้องมีจุดอ่อน ตอนนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนคล้ายๆกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม ก็คือประชารัฐรอบ 2 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเรียกว่าไทยนิยม ไม่ควรจะมองว่าเป็นการหาเสียงแต่เป็นความหวังดีที่อยากจะให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะประชาชนไม่ได้ถูกเกณฑ์ไปนั่งฟัง เวลาศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ทำอะไร ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ก็กระตุ้นให้เขามีส่วนร่วมมีชาวบ้านที่เป็นลูกศิษย์ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์  เขาก็ได้ความรู้ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ให้เขาคิด เมื่อคิดเป็นก็ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง มีตัวละคร ต้องเน้นจากปริมาณมาเป็นคุณภาพ ต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พัฒนาทุนมนุษย์ ถ้าไม่พัฒนาชาวบ้าน เขาก็ต้องแบมือขอ โครงการไทยนิยมมีตัวละครภาครัฐมาก ไม่มีความต่อเนื่อง แล้วก็ทำทุกหมู่บ้าน ขอบคุณท่านผู้ตรวจซึ่งอดีตเป็นผู้ว่าและปัจจุบันเป็นลูกศิษย์ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์  ท่านได้จัดให้ไปดูงานที่อำเภอบางเลน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ก็ได้ความรู้มาก ในอนาคตข้างหน้า เราก็เป็นคนกลาง นักวิชาการอย่างศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ถ้ามีโอกาสรับใช้ประเทศ ก็ทำโดยไม่คาดหวังตำแหน่งใด ขอแค่ได้ทำประโยชน์ แล้วเราก็มีทีมงานด้วย แล้วก็สอนหนังสืออย่างต่อเนื่อง จะช่วยได้ไม่มากก็น้อย

ที่มา: บทความจากรายการวิทยุ Human Talkประจำวันที่ 8 เมษายน 2561

โปรดคลิกที่ลิ้งค์นี้เพื่อดูภาพประกอบ

Human_Talk_08042018.pdf


<p></p>

หมายเลขบันทึก: 646542เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2018 11:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 เมษายน 2018 11:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท