ประสบการณ์ตรงที่ต้องบอกต่อ : ตอนที่ 2
เหตุที่เกิด
สนุกสนานกับกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ 3 วัน จู่ๆก็ลื่นล้มบนถนนที่มีหิมะละลาย พยายามฝืนตั้งหลัก รู้สึกได้ว่าข้อเท้าบิดอย่างแรง ถึงกับทรุดไปนั่งกองกับพื้น บริเวณข้อเท้าบวมเป่งขึ้นมาทันทีทั้งสองด้าน ต้องให้เพื่อนพยุงไปร้านอาหารอย่างยากลำบาก ไม่สามารถลงเท้าข้างขวาได้ ไกด์นำเที่ยวถามว่าไหวไหม จะไปโรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในเมืองห่างไกลไปสัก 50 กิโลเมตรไหม
…. สรุปใช้น้ำแข็งประคบไว้ รอดูอาการหนึ่งคืน เพื่อนๆให้ยามารับประทาน และยาทาแก้อักเสบ พร้อมทั้งผ้าพันพยุงเท้า...
ภาพแห่งความสุข....ใฝ่ฝันมาเนิ่นนานที่จะมาเที่ยวที่รัสเซีย ก่อนหน้านี้กังวลเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายฯ เนื่องจากมีข่าวการลอบวางระเบิด ข่าวเรื่องการทำสงครามกับหลายประเทศ
ช่วงยังไม่เกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม หน้าเบิกบาน 360 องศาเลย เกือบโดนมิจฉาชีพสาวฟันทอง ฉกของมีค่าในกระเป๋าแบบเนียนๆ หล่อนมาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวทำเป็นเดินถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ และเดินเฉียดกายมาประชิดตัวยามเผลอ ขณะที่หล่อนกำลังใช้มือสอดเข้ากระเป๋าถือของตน เป็นช่วงจังหวะที่ตนเองขยับตัวพอดีจึงรู้สึกได้ว่ามีมือคนสอดเข้ามา หล่อนจึงชักมือกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ค่อยๆเดินห่างออกไป ตนเองจึงตะโกนบอกไกด์ให้คนในคณะฯ ระวังตัว พี่ในกลุ่มท่านหนึ่งบอกว่าสังเกตเห็นหล่อนตั้งกล้องขึ้นมาทำท่าถ่ายภาพ แต่ไม่เคยกดถ่าย สายตาคอยเพ่งมองผ่านเลนส์แว่นตาดำ
อุณหภูมิเฉลี่ย 0 องศาเซนเซียส บางวันติดลบ เรียกว่าหนาวยะเยือกสุดหัวใจ หิมะโปรยปรายมาทักทายอยู่ 2-3 ครั้งระหว่างทริป
รุ่งเช้า เท้าก็ยังบวมอยู่เดินลงเท้าไม่ได้ ขณะที่ทุกคนไปเล่นกิจกรรมข้างนอก ตนเองก็พักผ่อนอยู่ในโรงแรม ทำใจยอมรับกับโชคชะตา ช่วงบ่ายมีคณะหมอ 3 คนมาตรวจอาการ จับเท้าและให้ขยับเท้า จากนั้นฉีดยาให้ 1 เข็มที่สะโพกบน อาการปวดก็ทุเลาลง พร้อมกำชับไม่ให้ใช้เท้าข้างนี้ และให้เซ็นชื่อรับการรักษา และไม่ประสงค์จะไปตรวจที่โรงพยาบาล โดยไม่คิดค่ารักษา แม้ตนเองพยายามบอกว่ามีประกันสุขภาพอยู่นะ
ฝืนสังขารไปร่วมกิจกรรมสนุกๆอยู่ 2 กิจกรรม เนื่องจากคุณ V ไกด์ท้องถิ่นยินดีจะอุ้มพาไปนั่นเอง...เข้าทางเราเลยนะเนี่ย
การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านที่น่าสนใจ ของหมู่บ้านซามิ
กำลังใจเพียบ ...ช่วยกันเข็น - ช่วยกันพยุงอุ้มห่อเป็นอย่างดี
โชคดีที่ไกด์ขอวีลแชร์จากทางสนามบินคอยบริการพาไปส่งขึ้นเครื่องและคอยรับเมื่อต่อเครื่องที่สนามบินดูไบ และผ่านขั้นตอนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผ่านช่องทางพิเศษเลยนะนั่น เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของชีวิตจริงๆ มองเห็นผู้โดยสารชาวต่างชาติท่านหนึ่งนั่งวีลแชร์รอขึ้นเครื่องที่สนามบินเมืองเซนต์ปีเตอร์เบริ์ก มีเฝือกปูนปลาสเตอร์ โปะที่เท้า ราวกับการสร้างภูเขาไฟเล่นในวัยเด็กของตน นึกดีใจว่าตนเองยังไม่บาดเจ็บถึงขั้นนั้น แค่ใช้ผ้าพันและผ้าพยุงข้อเท้าไว้
ข้อเท็จจริง
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย จึงหาข้อมูลว่าควรจะไปหาแพทย์ที่ไหนตรวจรักษาดี โทรฯไปถามโรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้านว่าแพทย์รักษากระดูกมาตรวจรักษาหรือไม่ พอรับรู้ว่ามา จึงรีบเรียกแท็กซี่ไป เพราะคิดว่าคงไม่เป็นไรมาก กว่าจะถึงคิว คุณหมอที่พนักงานนัดให้ก็กลับไปแล้ว จึงไปต่อคิวคุณหมออีกท่านหนึ่ง คุณหมอสั่งให้ไปเอ็กซเรย์ดู และอธิบายให้ฟังว่า กระดูก ร้าว ข้อต่อเคลื่อน เพราะคุณใช้เท้านี้เดิน ขยับข้อเท้าครั้งหนึ่งเลือดก็ซึมออกมา จึงไหลไปลงที่ปลายเท้า นิ้วเท้าจึงเป็นสีม่วงและบวม การรักษามี 2 วิธี คือ 1. ใส่เฝือกประมาณ 4 เดือน แต่มีโอกาสที่เท้าจะผิดรูปได้ 2. ผ่าตัดเพื่อใช้เหล็กดามไว้ ใช้เวลา 2 เดือน ... คุณหมอจึงให้ใส่เฝีอกอ่อน 6 วันเพื่อรอดูอาการว่ากระดูกจะประสานกันดีไหม และนัดให้ไปพบอาจารย์หมอ เพื่อพิจารณาดูว่าจะต้องรักษาอย่างไร...
?ระหว่างรอญาติมารับ ก็ลองโทรฯหาคุณหนุ่มจากบริษัททัวร์ ช่วยสอบถามบริษัทประกันฯ ว่ากรณีของตนเบิกค่ารักษาได้หรือไม่ เพราะอาจต้องผ่าตัด และคงมีค่าใช้จ่ายที่เบิกจากทางรัฐฯไม่ได้ ได้รับการตอบกลับว่าบริษัทจะคุ้มครองต่ออีก 6 วันหลังการกลับจากต่างประเทศ ควรจะผ่าตัดภายในกำหนด ?.. ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงแนะนำว่าไม่ควรรออีกตั้ง 6 วัน น่าจะไปหาแพทย์ที่อื่นให้ได้คำตอบเลยดีกว่า และโรงพยาบาลของรัฐอาจต้องรอคิวผ่าตัด...??
สุดท้ายการรักษาก็ไปจบลงที่โรงพยาบาลวิภาวดี หลังเอ็กซเรย์พบว่ากระดูกเคลื่อนและหัก เอ็นฉีก นัดผ่าทันที่ ได้เป็นมนุษย์ขาเหล็กมีสกรูยึดให้ประสาน แพทย์บอกว่ากระดูกคุณบางมาก เมื่อล้มก็หักง่ายมาก สมควรไปออกกำลังกาย และกินแคลเซียมเสริม ?*** ขอขอบคุณคุณหนุ่ม จากบริษัทแกรนด์ทัวริสโม่ จำกัด ที่ช่วยประสาน-ติดต่ออย่างดี ขอบคุณบริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์จำกัด ( มหาชน) ที่จ่ายค่ารักษาให้อย่างครอบคลุมนะคะ ขอบคุณเพื่อนๆ ร่วมทริปที่คอยช่วยเหลือ คอยดูแล ฯ คุณออโต้ ไกด์ไทยที่ช่วยเป็นม้าให้ขี่ยามจำเป็นและช่วยอำนวยความสะดวกให้ คุณ V ไกด์ท้องถิ่นที่คอยอุ้มและบริการอย่างดี รวมทั้งพี่ๆ น้องๆ ที่ส่งกำลังใจมาให้นะคะ *** ?
*** ขอแนะนำให้ทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุชั่วคราวก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมันคุ้มค่ากว่า มากมาย เป็นประสบการณ์ตรงที่ต้องบอกต่อค่ะ ***
?....ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ ...?
ความเห็น (4)
บวร รอดเข็ม
น่าสงสารจัง
? ขอบพระคุณค่ะ สงสารตนเองเช่นกัน ?
.อาจเกิดประโยชน์ กับคนอื่น ๆ หรือ แก้ไขการเจ็บป่วย
กรณีนี้ กระดูกหลังเท้านิ้วนาง หัก ต้องใช้ไม้คำยัน พอกดคลายเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ ให้หายเกร็ง เส้นเอ็นต่างที่แข็งตัว ทำให้เจ็บปวดลงน้ำหนักไม่ได้ ก็คลายตัว หายเจ็บ ถอดผ้ารัดข้อเท้า เก็บไม้เท้า เพราะกระบวนการการทำงานของร่างกายกลีบมามีประสิทธิภาพเพราะเลือดไหลเวียนได้ดีครับ
? ขอบพระคุณนะคะ ที่แบ่งปัน ?