ตำนานห่งรัก


เมื่อคิดถึงสถานที่ เกี่ยวกับความรัก ที่ยิ่งใหญ่ จากสถานที่ทั่วโลก หลายคนจะนึกถึง ทัชมาฮัล ซึ่ง ทัชมาฮัล คือตัวอย่างของตำนานแห่ง “ ความรัก” ทำให้"ทัชมาฮาล"  เป็น1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก แห่งประเทศอินเดีย

      สำหรับผู้ที่สร้างตำนานความรักอันยิ่งใหญ่คือ กษัตริย์ชาห์ญะฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์โมเลกุล ที่ทรงโปรดให้สร้าง ทัชมาฮัลขึ้นเป็นอนุสรณ์แทนความรักที่พระองค์มีต่อมเหสีคือ พระนางมุมตาซ มะฮัล จนสถานที่แห่งนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่งดงามที่สุดในโลก              
                เพื่อเป็นการเรียนรู้วันนี้จะขอนำประวัติของกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน มาเล่าให้ฟัง  กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ทรงเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ญะฮางงีร์ ทรงประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1592 มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อทรงพระเยาว์นั้นพระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงเคร่งขรึม ในพระทัยเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ความเป็นคนอมทุกข์ของพระราชโอรสสร้างความหนักพระทัยให้กับพระราชบิดาเป็นอย่างมาก

                กษัตริย์ญะฮางีร์ ทรงแนะนำให้พระราชโอรสดื่มน้ำจัณฑ์และหาความสำราญพระทัยด้านต่างๆ มาสู่พระราชโอรส แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ชาห์ ญะฮาน ยังทรงเคร่งขรึมไม่เบิกบานพระทัยเช่นเดิม     
                จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าชายได้เสด็จประพาสตลาดและได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี นามว่า อรชุนด์ บาโน เบคุมเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1592 เป็นบุตรสาวของ อะซีฟ ข่าน ซึ่งมีเชื้อสายเปอร์เซีย เพียงได้เห็นดวงหน้าของนางครั้งแรก เจ้าชายก็เกิดรักแรกพบขึ้นที่ตลาดนั่นเอง อีก3 ปีต่อมา พิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายก็ถูกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1612 หลังจากพิธีอภิเษก อรชุนด์ บาโน เบคุม ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า มุมตาซ มะฮัล ซึ่งแปลว่า อัญมณีแห่งปราสาท

                หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าชายก็ทรงเปลี่ยนไป เพราะเบิกบานพระทัยยิ่งนัก อีกทั้งสองพระองค์ก็เป็นคู่รักที่ไม่เคยแยกจากกันเลย ในปี ค.ศ. 1628 เจ้าชายเสด็จขึ้นครองราชบังลังก์ ทรงพระนามว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โดยมีพระนางมุมตาซ มะฮัล เป็นพระมเหสีคู่พระทัย พระนางทรงเป็นทั้งคู่คิดและที่ปรึกษา และ มีส่วนในการช่วยเหลือพระสวามีในการปกครองบ้านเมือง อีกทั้งยังทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรทั่วหล้า     ทรงครองคู่กันมาเป็นเวลา 18 ปี มุมตัช มาฮาลก็ได้ให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 ตลอดเวลาที่พระนางมุมตาซ มะฮัล เป็นพระมเหสีนั้นทรงติดตามไปทุกหนทุกแห่ง แม้แต่ทรงเสด็จร่วมกรีธาทัพกับพระสวามี  ในช่วงปี ค.ศ. 1631  ณ เมืองเดคข่าน พระนางมุมตาซ มะฮัล ได้ตามเสด็จเช่นเคย แต่ระหว่างเสด็จกลับพระนครพระนางก็ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์

                การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระมเหสีสุดที่รักสร้างความโทมนัส เป็นอย่างมากให้กับกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน พระองค์ไม่ทรงเสวยและไม่ทรงพระบรรทม ทรงแต่ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องนุ่มห่มสีขาวเป็นการไว้ทุกข์ และทรงเสด็จเยี่ยมหลุมฝังศพของพระนางทุกวันศุกร์ด้วยความอาลัยรักอย่างยิ่ง  และโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์แห่งความรักขึ้นมาอย่างวิจิตรอลังการ และพระองค์ก็ทรงให้ชื่อว่า "ทัชมาฮาล" (taj mahal)สร้างอยู่บนพื้นที่ 42 เอเคอร์ ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา     
                ในการก่อสร้างนั้น กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้ระดมช่าง ศิลปิน และสถาปนิกที่ได้ชื่อว่าฝีมือดีเยี่ยมที่สุดจากหลายๆ ที่ ประมาณ 20,000 คน ใช้เวลาการในก่อสร้าง 22 ปี หมดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปประมาณ 45 ล้านรูปี พระอนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างด้วยศิลาขาวทั้งหมดมีโดมทรงกลมเด่นอยู่ตรงกลาง สูงถึง 72 เมตร บริเวณโดยรอบมีผนังศิลาแลงล้อมรอบ ประตูทางเข้าวางอยู่บนฐานศิลาแลง บริเวณทางเข้ามีสระน้ำหินอ่อนสีขาวรอบทางเดินเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์           
                ตำแหน่งที่เป็นที่วางพระศพของพระนางมุมตาซ ทำเป็นแท่นรูปบัวตูม ส่วนหีบพระศพเป็นหินอ่อนสีขาวแกะสลักอย่างงดงาม 

          หลายปีต่อมาหลังจากสร้างอนุสรณ์แห่งความรักทัชมาฮาลเสร็จสิ้น ได้เกิดศึกชิงราชบัลลังก์ระหว่างพระโอรสของพระองค์เอง ในระหว่างนั้นเจ้าชายโอรังเซบ (aurangzeb) พระโอรสของพระองค์ก็ได้จับกษัตริย์ชาห์ญะฮาน ไปกักขังอยู่ที่ป้อมเมืองอัคราซึ่งอยูฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกับทัชมาฮาล ด้วยข้อกล่าวหาว่าพระองค์เสียสติ และขึ้นครองบัลลังก์แทน
  
                ระหว่างที่ถูกกักขังพระองค์ทรงมองทัชมาฮาลและรำพันถึงพระมเหสีของพระองค์ตลอด 8 ปี จนกระทั่งในปี ค.ศ.1666 ในวันสุดท้ายก่อนสวรรคตกษัตริย์ชาห์ญะฮานใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล หลังจากนั้นพระโอรสก็ได้นำพระศพของพระองค์มาฝั่งไว้เคียงข้างพระมเหสีที่พระองค์รักใคร่มิเคยลืมเลือน
       แต่ก่อนที่กษัตริย์ชาห์ญะฮานจะสิ้นพระองค์มีพระราชดำริจะสร้างสุสานของพระองค์เองด้วยหินอ่อนสีดำที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำยมุนา พระราชโอรสของพระองค์ทราบก็ทรงกลัวกับค่าใช้จ่ายอันมหาศาลจึงทำการยึดบัลลังก์พร้อมกักขังกษัตริย์ชาห์ญะฮานจะไว้ที่ป้องอัครา

          มีการกล่าวขานว่ากษัตริย์ชาห์ ญะฮาน สร้างทัชมาฮัลขึ้นมาด้วยความเห็นแก่ตัว โดยไม่คิดถึงหลักมนุษยธรรม และทัชมาฮัลก็กลายเป็นที่เกลียดชังของทุกคนเพราะในการสร้างทัชมาฮัล กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ระดมช่างฝีมือดีมาเป็นจำนวนมากและมีกฎว่าต้องสร้างให้เสร็จตามกำหนดเวลา ถ้าสร้างไม่เสร็จก็จะถูกลงโทษ เมื่อสร้างทัชมาฮัลเสร็จแล้ว กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ก็ฆ่าช่างเสียชีวิตเป็นจำนวนมากส่วนที่รอดตายจะถูกทำให้ตาบอดและตัดมือจนหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ไปสร้างสถานที่ที่งดงามเช่นนี้เลียนแบบไว้ที่ไหนอีก ดังนั้นทัชมาฮาลจึงมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้

                แม้ในภายหลัง     ออรังเซป  ได้สร้างทัชมาฮาล ที่เมืองออรังคบาด แต่ก็ไม่เหมือนและมีขนาดที่แตกต่างกันมาก      

คำสำคัญ (Tags): #ตำนานแห่งรัก
หมายเลขบันทึก: 646282เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2018 14:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2018 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท