แนวการสอน ศักยภาพ


สวัสดีครับ ที่กล่าวนี้เป็นเพียงความคิดส่วนตัว วันนี้ขอเสนอแนวการสอน (ศึกษา) เพื่อให้ความรู้นักศึกษาได้มีศักยภาพสูงสุด....กล่าวคือ


****แนวคิด คุณคงเคยได้เล่าเรียนมาแล้ว จากครูผู้สอน และ คุณได้คะแนน เกรด A มาแล้วใช้ไม๋ครับ นั้นหมายความว่า คุณได้คะแนน 80 % ขึ้นไป คุณไม่จำเป็นต้องได้ 100 จริงไม๋ครับ จึงมีคำกล่าวที่ว่า ครูสอน  ร้อย นักศึกษาได้ แปดสิบ แสดงให้เป็นว่ายังไง ศิษย์ก็ไม่สามารถเก่งกว่าอาจารย์ได้ (หากสูงกว่าจะคิดล้างครูได้) ผมจึงเกิดแนวคิดที่จะสอนให้ นักศึกษา มีความสามารถมากกว่าครู ตามศักยภาพที่ นักศึกษาทำได้ โดยแนวการสอน แบบสร้างศักยภาพนักศึกษา ซี่งจะได้ นักศึกษาที่เก่งกว่าครูอีก แนวนี้เป็นแนวการสอนที่ได้แนวคิดจากการสอนนักกีฬา หรือที่เรียนกันว่าการสอนแบบโค๊ช กล่าวคือ ... ขอยกตัวอย่างการสอนฟุตบอล โค้ชสามารถสอนให้ นักกีฬาเตะให้ลูกไซร์โค้ง เข้าประตูได้ แต่โค้ชเองไม่สามารถทำได้แต่สอนให้คนอื่นทำได้นั้นเอง ด้วยการจัดองค์ประกอบการฝึก บริบทต่างๆ ให้ฝึกตามกระบวนการจนกระทั่งสามารถทำได้ ยกตัวอย่าง ถ้าผมเป็นโค้ชฟุตบอล

**ผมจะให้กองหน้าไปฝึกเป็นโกล และให้โกลไปฝึกเป็นกองหน้า (ถ้ากองหน้าได้ฝึกเป็นโกล จะมีความรู้สึก และบริบทที่เป็นโกล ก็จะเข้าใจว่าโกล คิดอย่างไร ในทางกลับกันให้โกลเป็นกองหน้าก็จะหัดให้โกลรู้สึกถึงกองหน้าคิดอย่างไร เตะอย่างไร อย่างไรทำได้ และอย่างไรทำไม่ได้)

**หรือ ให้กองหน้าไปฝึกเป็นกองหลัง แล้วนำกองหลังมาฝึกเป็นกองหน้าบ้าง (เช่นเดียวกัน กองหน้าก็จะรู้ว่ากองหลังคิดอย่างไรบริบทเป็นอย่างไร กองหลังก็จะรู้เช่นกันว่ากองหน้าคิดอย่างไร และควรทำอย่างไร)

///[ขอเสริม สารสนเทศเพื่อการกีฬา การเอาชนะใดๆ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เช่น เรามักได้ยินว่า จะมีการฝึกยิงลูกโทษของกองหน้า กับประตูตัวเอง ถ้าเป็นสโมสรใหญ่ๆ มืออาชีพก็จะไม่ให้ใครเข้าไปดูเลย เป็นระบบปิด เพราะอะไรหรือครับ ก็เพราะระบบสารสนเทศการกีฬานี้แหละครับ กล่าวคือ ถ้าใครเข้าไปดูได้ก็สามารถเห็นได้ว่า กี่ครั้งที่กองหน้าคนนี้เตะลูกโทษ เตะกี่ครั้งไปทางซ้าย กี่ครั้งไปทางขวา เข้าก็จะจดบันทึกไว้ว่า คนนี้เตะอย่างไร แล้วนำข้อมูลที่ไปแจ้งให้โกลฝ่ายตรงข้าม ในกรณีที่ต้องเตะลูกโทษตัดสิน ทราบ หากโกลรู้ว่าส่วนใหญ่จะเตะไปทางขวาเขาก็จะมีข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะกระโดนไม่ดักทางไหนดีที่สุด....เช่นเดียวกันกับโกล ถ้าเราสามารถรู้ได้ว่าโกลชอบกระโดดไม่ทางไหน ก็ไปบอกกองหน้าว่าโกลชอบกระโดดไปทางไหน ให้กองหน้าตัดสินใจเตะไปทางได้ หรือโกลมักป้องกันไม่ได้ตรงจุดไหน ก็จะแจ้งจดบันทึกไว้ ในช่วงตัดสินโดยลูกโทษก็จะได้เปรียบนั้นเอง]

**การศึกษาก็เช่นกัน ครูไม่จะเป็นต้องสอนทุกอย่างแบบตรงๆ อาจเน้นองค์ประกอบ ให้งาน ให้โครงงาน หรือร่วมทำเป็นโครงการ ซึ่งผู้สอนมีหน้าที่ จัดเครื่องมืออุปกรณ์ และบริบนในชั้นเรียน ต่างๆ ให้พร้อมที่จะให้นักศึกษาใช้ บางท่านกลัวเครื่องเสียก็เก็บเครื่องมือไว้ ไม่จำเป็นก็ไม่เอาออกมาให้ใช้  ซึ่งสมัยผมสอนนั้น ไม่เคยกลัวว่าเครื่องจะเสีย  เสียก็ซ่อม ซื้อมาต้องใช้ ไม่ได้ซื้อมาเก็บ พอเสียนักเรียนก็ได้ฝึกซ่อมอีกต่างหาก จริงไม่ครับ  เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และนักเรียนอาจมีความสามารถทำได้ดีกว่าครูสักอีก จริงไม๋ครับ.......

[เสริม เพื่อไม่ให้นักเรียนต้องทำงานเยาะ ให้ครูในพลายๆ วิชาขอแนะนำการสอนแบบหัวกลับ https://www.gotoknow.org/posts/507902
]
ลองอ่านๆ ดูน่ะครับ.......

หมายเลขบันทึก: 645974เขียนเมื่อ 26 มีนาคม 2018 11:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 สิงหาคม 2019 22:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท