เป็นครูบ้านนอกชายขอบมาแสนนาน ๓๗ ปีกว่า มองย้อนไปก็เหมือนเป็นเช่นวันวาร เฉกเช่นเดียวกับชีวิตทั่วๆ ไป ยุ่งๆ วุ่นๆ กับครอบครัว วุ่นวายกับการทำงาน เช้าสายบ่ายเย็นมิว่างเว้นสักวัน ถึงกระนันก็ยังมีความสุขล้นเปี่ยมกับลูกชายสุดที่รักทั้งสอง และสนุกกับงานตลอดมา จวบจบมาถึงเส้นชัยวัยเกษียณ วางภาระทุกอย่างลงแล้วค่อยมีโอกาสได้แง้มกะลาออกมาโลดแล่นตามแต่ใจถวิล โบยบินท่องเที่ยวซะหนำใจ
ตามสไตล์เดิม ลุยเดี่ยวมาตั้งแต่สมัยเรียน แม้แต่ช่วงทำงานก็สมัครไปอบรมคนเดียวหลายครั้ง อาสาสมัครร่วมงานค่ายวิชาการคนเดียวก็หลายรอบ ไกลๆ ทั้งนั้น การเดินทางสมัยก่อนก็ไม่สะดวก ลากกระเป๋าใบเขื่องตามหารถทัวร์ เฝ้ากระเป๋าดักรถประจำทาง ยกกระเป๋าขึ้นเบียดเสียดกันในรถตู้โดยสาร แย่งกันเรียกแท็กซี่ที่ขนส่ง บขส. จนกระทั่งได้นั่งเครื่องบินในรอบท้ายๆ ไฉนเลย แค่เดินทางท่องเที่ยวสบายๆ ไม่มีปัญหาใดให้กังวลแม้แต่น้อย มีผู้คนคอยให้ทำความรู้จักอยู่เบื้องหน้าอีกมากมาย
ทริปแรก....จางเจียเจี้ย
ไปจางเจียเจี้ยแป็บเดียว ขึี้นเครื่องจากเชียงรายบินตรงไปฉางซาเลย ๒ ชั่วโมงกว่าเอง เร็วกว่านั่งรถไปเชียงใหม่ซะอีก มีคณะร่วมเดินทาง ๔๐ กว่าคน ไปคนเดียวแต่ไม่เหงาเลย เจอรูมเมทช่างซักถามเหลือเกินแถมเป็นตากล้องให้ด้วย บรรยากาศที่นี่ยอดเยี่ยมมาก ละสายตาไม่ได้เลยทั้ง ๓๖๐ องศา มุมไหนก็น่ามอง สวย ทึ่ง อึ้ง เสียว ทุกที่เลยก็ว่าได้
ทริปที่ ๒....ฟูจิ-โตเกียว
อยากเที่ยวเมืองนิปปอนมานานแล้ว เคยแต่เขียนจดหมายร่อนไปหา penfriend เมือง Fuguoka เกาะ Kyushu เจ้าหล่อนชื่อ Michiko Hara
ที่นี่ก็ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศรอบทะเลสาปและฟูจิซังแสนสวย ชิมองุ่นเขียวเม็ดโตแสนอร่อย เห็นใบไม้เปลี่ยนสีนิดหน่อย ที่ขาดไม่ได้คือชิมไข่ดำที่ไกด์อุตสาห์เข้าแถวไปซื้อมาให้ลูกทัวร์กินกัน
Michiko Hara เมื่อ ๔๐ กว่าปีก่อน (พ.ศ.๒๕๒๐) คิดถึงเธออยู่นะ แต่ห่างหายกันมานานเกินไป เคยตามหาใน FB แล้วแต่มีชื่อซ้ำกันหลายคนมากเลยไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนไหน อ่านภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ออก
ทริปที่ ๓.... ฮอกไกโด
มาที่นี่ได้สัมผัสความหนาวเหน็บสมใจเลยทีเดียว ลมแรงและเย็นยะเยือกเกือบตลอดวัน ไปชิมนมสดฮอกไกโด
แทะกินแอปเปิ้ลลูกใหญ่ๆ แถมด้วยองุ่นเขียวอีกหลายพวง และไม่ลืมแวะชิมขนมอันเลื่องชื่อของที่นี่ "เลอเตา"
ยังไม่พอแพคเค็กไปชิมอีกชิ้นหนึ่งบนรถ.......อร่อยมาก
ไม่มีความเห็น