50. การตระหนักรู้คือการเฝ้ารู้เฝ้าดู


50. การตระหนักรู้คือการเฝ้ารู้เฝ้าดู


ถาม  ท่านบอกว่า ผมอยู่ภายใต้สามแง่มุม: ความเป็นบุคคล (vyakti) ความเป็นสิ่งอยู่เหนือบุคคล (vyakta) และความไม่เป็นบุคคล (avyakta)

ความไม่เป็นบุคคล คือสิ่งที่เป็นสากล และเป็น “ฉัน” ที่บริสุทธิ์ สิ่งอยู่เหนือบุคคล คือภาพสะท้อนภายในความรู้ตัวในรูปของ “ฉันเป็น” ความเป็นบุคคล คือองค์รวมของกระบวนการทางกายและทางชีวิต

ภายในขอบเขตอันคับแคบของปัจจุบันขณะ สิ่งอยู่เหนือบุคคลตระหนักรู้ถึงบุคคล ทั้งที่อยู่ในที่ว่างและเวลา ไม่ใช่แค่หนึ่งคน แต่คนจำนวนมากถูกร้อยเรียงต่อกันเป็นชุดด้วยเส้นเชือกแห่งกรรม

มันเป็นพยานเช่นเดียวกับกากเดนของประสบการณ์ที่สะสมทับซ้อน เป็นที่นั่งของความทรงจำ เป็นข้อต่อของความเชื่อมโยง (sutratma)

บุคลิกของบุคคลคือสิ่งที่ชีวิตสร้างขึ้นและก่อรูปขึ้นจากการเกิดครั้งแล้วครั้งเล่า

สิ่งที่เป็นสากล อยู่เหนือชื่อและรูปร่างทั้งปวง อยู่เหนือความรู้ตัวและบุคลิก เป็นการมีอยู่เป็นอยู่ที่ไร้ความรู้ตัวและบริสุทธิ์

ผมเข้าใจถูกไหม?

ตอบ  ถูกต้อง – ในระดับของใจ

เหนือระดับของใจ ไม่มีคำพูดใดจะบรรยายได้

 

ถาม  ผมเข้าใจได้ ว่าบุคคล คือสิ่งที่ใจสร้างขึ้น เป็นคำนามสำหรับชุดของความทรงจำและอุปนิสัยจำนวนมาก

แต่ธรรมชาติที่เฝ้ารู้เฝ้าดูอยู่ตรงศูนย์กลาง มองดูการเกิดขึ้นของบุคคล ไม่ใช่สิ่งที่ใจสร้างขึ้นด้วยหรอกหรือ?

ตอบ  สิ่งที่เกี่ยวข้องกับบุคคลต้องการฐาน ต้องการร่างกายเพื่อระบุถึงการมีอยู่ของมัน เช่นเดียวกับสีต้องการพื้นผิวเพื่อปรากฏขึ้น

การเห็นสี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสี – มันเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นสีอะไรก็ตาม

บุคคลต้องการนัยน์ตาเพื่อจะมองเห็นสี

สีมีมากมาย แต่นัยน์ตามีอันเดียว

ความเป็นบุคคลก็เหมือนแสงภายในสีและอยู่ภายในนัยน์ตาด้วยเช่นกัน แต่มันยังคงเป็นหนึ่งเดียว แบ่งแยกไม่ได้ และไม่สามารถมองเห็นได้ ยกเว้นเมื่อมันอยู่ในรูปแบบที่แสดงตัวออกมา

เป็นสิ่งที่รู้ได้ แต่รับรู้ไม่ได้ เป็นสิ่งที่ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ ไม่สามารถแบ่งแยกได้

มันไม่ใช่รูป แต่ก็ไม่ใช่นาม ไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ แต่ก็ไม่ใช่ผู้กระทำ มันเป็นรากของสสาร และเป็นแหล่งกำเนิดของความรู้ตัว

มันอยู่เหนือการเกิดและการตาย มันคือชีวิตซึ่งเป็นที่รวมลงของทุกสิ่ง และไม่รวมทุกสิ่ง เป็นที่ซึ่งการตายคือการเกิด และการเกิดคือการตาย

 

ถาม  สิ่งสูงสุด หรือชีวิตที่ท่านพูดถึง มันเป็นจริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่ทฤษฎีที่ปกปิดความไม่รู้ของเรา?

ตอบ  ทั้งสองอย่าง สำหรับใจ มันเป็นทฤษฎี สำหรับตัวมันเอง – มันเป็นความจริงแท้

มันเป็นความจริงแท้เพราะมันเกิดขึ้นเอง และมันปฏิเสธสิ่งที่ไม่จริง

เช่นเดียวกับที่แสงสว่างทำลายความมืด สิ่งสูงสุดก็ทำลายจินตนาการในลักษณะเดียวกัน

การเห็นว่าความรู้ทั้งหมดคือรูปแบบหนึ่งของความไม่รู้ นั่นคือการเคลื่อนไหวของความจริงแท้

สิ่งที่เฝ้ารู้เฝ้าดู ไม่ใช่บุคคล

บุคคลเกิดมีขึ้นเมื่อมีพื้นฐานสำหรับมัน สิ่งมีชีวิต ร่างกาย

ภายในบุคคล สิ่งสูงสุดสะท้อนออกมาในลักษณะของความตระหนักรู้

ความตระหนักรู้ที่บริสุทธิ์กลายเป็น ความตระหนักรู้ตัวเอง

เมื่อมีตัวตนขึ้นมา สิ่งที่เฝ้าดูเฝ้ารู้ตัวตนคือความตระหนักรู้ตัวเอง

เมื่อไม่มีตัวตนให้เฝ้ารู้เฝ้าดู ก็ไม่มีการเฝ้ารู้เฝ้าดูเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ง่ายมาก แต่การมีอยู่ของบุคคลนั่นแหละที่ทำให้มันซับซ้อน

จงมองให้เห็นว่า ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าบุคคลที่แปลกแยกและถาวร แล้วทุกอย่างจะชัดเจน

ความตระหนักรู้ – ใจ – สสาร – ทั้งหมดเป็นความจริงแท้หนึ่งเดียวในสองแง่มุม มุมหนึ่งเคลื่อนที่ไม่ได้ อีกมุมหนึ่งเคลื่อนที่ได้ และมีคุณลักษณะสามอย่างคือ ความเฉื่อย พลังงาน และความกลมกลืน

 

ถาม  อะไรมาก่อน: ความรู้ตัว หรือความตระหนักรู้?

ตอบ  ความตระหนักรู้จะกลายเป็นความรู้ตัว เมื่อมันมีสิ่งถูกรู้

สิ่งถูกรู้ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ภายในความรู้ตัว จะมีการเคลื่อนที่ แต่ความตระหนักรู้จะไม่มีการเคลื่อนที่ และไม่มีกาลเวลา ที่นี่ และเดี๋ยวนี้

 

ถาม  มีการสู้รบ ความทุกข์ยาก การนองเลือดมากมายในปากีสถานตะวันออกในช่วงนี้

ท่านมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?

ตอบ  ในความรู้ตัวที่บริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดเลยที่เกิดขึ้น

 

ถาม  ได้โปรดลงมาจากหอคอยของความเลื่อนลอยอันสูงส่งของท่าน

มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะบอกคนที่กำลังทุกข์ยากว่า ไม่มีใครอื่นตระหนักถึงความทุกข์ของเขา นอกจากตัวเขาเอง?

การผลักไสทุกสิ่งให้เป็นมายา เป็นความดูหมิ่นที่ทับถมลงไปบนบาดแผล

ชาวเบงกาลีของปากีสถานมีจริง และความทุกข์ของพวกเขามีจริง

ได้โปรดอย่าวิเคราะห์ว่ามันไม่มีจริง

ท่านก็อ่านหนังสือพิพ์ ท่านได้ยินคนพูดถึงมัน

ท่านจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้

แล้วท่านมีความคิดอย่างไรในสิ่งที่เกิดขึ้น?

ตอบ  ฉันไม่มีความคิด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ถาม  สักวันหนึ่งอาจมีจลาจลเกิดขึ้นต่อหน้าท่าน ผู้คนอาจฆ่ากัน

แน่นอนว่าท่านไม่สามารถจะพูดว่า: ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

ตอบ  ฉันไม่เคยพูดเรื่องของการทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

เธออาจเห็นฉันกระโดดเข้ารวมการต่อสู้และช่วยชีวิตคน และถูกฆ่าตาย

แต่แม้กระนั้น สำหรับฉัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ลองนึกภาพว่ามีอาคารใหญ่พังลงมา

ลางห้องพังทลาย บางห้องไม่เป็นอะไร

แต่เธอจะพูดว่า ที่ว่างพังลง หรือไม่พัง ได้อย่างไร?

มีแต่โครงสร้างเท่านั้นที่เดือดร้อน และคนที่อยู่ภายในนั้น

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับที่ว่าง

ในทำนองเดียวกัน ไม่มีอไรเกิดขึ้นกับชีวิตเมื่อรูปแบบพังลง และชื่อถูกลบเลือนไป

ช่างทอง หลอมเครื่องประดับเก่า เพื่อสร้างเครื่องประดับใหม่

แต่ไม่มีทองที่สูญหายไปไหน

 

ถาม  ผมไม่ได้ต่อต้านความตาย แต่ผมต่อต้านวิธีการตาย

ตอบ  ความตายเป็นธรรมชาติ วิธีการตายเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำ

การแยกกันทำให้เกิดความกลัวและความก้าวร้าว ซึ่งทำให้เกิดความรุนแรง

ถ้าเธอปล่อยวางการแยกกันที่คนสร้างขึ้น แล้วความน่ากลัวของการที่คนลุกขึ้นมาฆ่ากันเองจะสิ้นสุดลงอย่างแน่นอน

แต่ในความเป็นจริง ไม่มีการฆ่า และไม่มีการตาย

สิ่งจริงแท้ไม่ตาย สิ่งไม่จริงไม่เคยมีอยู่

จงวางใจให้ถูกต้อง แล้วทุกอย่างจะถูกต้อง

เมื่อเธอรู้ว่าโลกเป็นหนึ่งเดียว มนุษยชาติเป็นหนึ่งเดียว เธอจะกระทำสิ่งต่างๆไปตามนั้น

แต่ขั้นแรก ทั้งหมดของเธอต้องสอดคล้องกับความรู้สึก ความคิด และการมีชีวิตอยู่ของเธอ

ถ้าไม่มีความเป็นระเบียบในตัวเธอ มันก็จะไม่มีความเป็นระเบียบในโลก

ในความเป็นจริง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่บนจอฉายของใจ โชคชะตาจะฉายภาพของมันตลอดเวลา ความทรงจำของภาพฉายในอดีต และมายาภาพ จะรื้อฟื้นตัวเองขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อยๆ

รูปภาพมาแล้วก็ไป – แสงที่ถูกกั้นด้วยความโง่เขลา

จงมองให้เห็นแสง แล้วไม่ต้องสนใจภาพ

 

ถาม  ช่างเป็นวิธีมองดูสิ่งต่างๆอย่างแข็งกระด้างอะไรเช่นนี้

ผู้คนฆ่ากันและถูกฆ่า แล้วท่านพูดว่ามันเป็นแค่ภาพ

ตอบ  ถ้าอย่างนั้น เธอก็ไปและถูกฆ่าซะเองสิ – ถ้ามันคือสิ่งที่เธอคิดว่าเธอควรทำ

หรือไม่อย่างนั้นก็ไปไล่ฆ่าคนอื่นซะเลย ถ้าเธอคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอ

แต่นั่นไม่ใช่วิธีทำให้ความชั่วร้ายสิ้นสุดลง

ความชั่วร้ายคือกลิ่นเหม็นของใจที่เป็นโรค

จงรักษาใจของเธอให้หายจากโรค แล้วมันจะหยุดฉายภาพที่บิดเบี้ยวและน่าเกลียด

 

ถาม  ผมเข้าใจสิ่งที่ท่านพูด แต่ผมไม่สามารถยอมรับได้ สำหรับการมองชีวิตแบบอุดมคตินี้ ผมไม่สามารถรับได้ว่าชีวิตของผมเป็นแค่สภาวะที่เหมือนความฝัน

ตอบ  บุคคลจะอยู่ในสภาวะที่ไม่เปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ในเมื่อร่างกายของเขาเองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา?

สิ่งที่เธอเข้าใจผิด คือการคิดว่าเธอเป็นแค่ร่างกายนี้

จงศึกษาสังเกตความคิดนี้ เห็นไหมว่ามันขัดแย้งกันเองอยู่ในตัว ตระหนักว่าการดำรงอยู่ของเธอในขณะนี้ เป็นเหมือนประกายแสงเกิดดับสืบเนื่อง แต่ละประกายอยู่ได้ประมาณหนึ่งวินาที ความสืบเนื่องนั้นอยู่ได้ประมาณหนึ่งถึงสองนาที

สิ่งที่การเริ่มต้นของมันคือความสิ้นสุด ย่อมไม่สามารถมีตรงกลาง

จงเคารพสิ่งที่เธอเป็น

ความจริงแท้ไม่สามารถที่จะเป็นแค่สิ่งชั่วคราว

มันไร้กาลเวลา แต่ความไร้กาลเวลานั้นไม่มีระยะเวลาของการดำรงอยู่

 

ถาม  ผมยอมรับว่าโลกที่ผมอยู่ไม่มีอยู่จริง

แต่มันก็มีโลกที่มีอยู่จริง ซึ่งผมเห็นภาพที่บิดเบี้ยวของมัน

ความบิดเบี้ยวอาจเกิดจากความด่างพร้อยในกายหรือใจของผม

แต่เมื่อท่านพูดว่า มันไม่มีโลกที่เป็นจริง โลกเป็นเพียงความฝันในใจของผม ผมรับไม่ได้

ผมหวังเหลือเกินว่าผมจะสามารถเชื่อได้ว่าความดำรงอยู่ที่น่ากลัวทั้งหลาย เกิดขึ้นเพราะผมมีร่างกาย

ถ้าอย่างนั้น ทางออกจากโลกของผมก็คือการฆ่าตัวตายนะสิ

ตอบ  ตราบใดที่เธอยังให้ความสนใจกับความคิด ไม่ว่าจะเป็นความคิดของเธอเองหรือคนอื่น เธอจะประสบกับปัญหาอยู่ตลอดเวลา

แต่ถ้าเธอปล่อยวางการสอนทั้งหมด หนังสือทั้งหมด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากถ้อยคำ แล้วดำดิ่งลึกลงไปภายในตัวเธอเอง และพบตัวตนที่แท้ของเธอ เพียงแค่สิ่งนี้เท่านั้น ที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดของเธอได้ และเธอจะเป็นนายของทุกสถานการณ์ เพราะเธอจะไม่ถูกครอบงำโดยความคิดของเธอเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นๆ

ตัวอย่างเช่น เธออยู่เคียงข้างหญิงสาวสวยคนหนึ่ง เธอมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับหญิงนั้น ทำให้เกิดสถานการณ์ทางเพศขึ้น

ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว และเธอก็เริ่มมองหาทางออกจากหนังสือเกี่ยวกับความไม่มักมาก หรือความเพลิดเพลินของชีวิต

แต่ถ้าเธอเป็นเด็กทารก เธอทั้งสองอาจอยู่ด้วยกันแบบเปลือยเปล่าโดยไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น

แค่หยุดคิดว่าเธอคือร่างกาย แล้วปัญหาเกี่ยวกับความรักหรือเซ็กส์จะไร้ความหมาย

เมื่อความรู้สึกของการมีขอบเขตจำกัดหมดสิ้นไป ความกลัว ความเจ็บปวด และการแสวงหาความสุข – ทั้งหมดนี้จะสิ้นสุดลง

เหลือเพียงความตระหนักรู้

 

ศรี นิสาร์กะทัตตะ มหาราช

“I AM THAT”

หมายเลขบันทึก: 644897เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2018 17:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2018 17:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท