เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเราพ่อแม่ลูกและเจ้าทอฟฟี่ออกเดินทางไปเที่ยววัดถ้ำเสือเจ็ดโมงกว่าเกือบแปดโมง หลังจากสำรวจเส้นทางว่าจากอำเภอกำแพงแสนไปวัดถ้ำเสือซึ่งขึ้นอยู่ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทางเพียง 51 กิโลเมตร เตรียมถาดให้น้ำ อาหารเจ้าทอฟฟี่ ส่วนคนทั้งสาม ไปหากินเอาดาบหน้า ซึ่งก็ได้ข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ปั้ม ปตท.รวมทั้งกาแฟเย็นเจ้าเก่าอเมซอนลาเต้ แค่นั้นท้องก็อิ่มพร้อมเดินทางต่อไป
เส้นทางไปวัดถ้ำเสือไม่ยาก ไม่ซับซ้อน มีป้ายบอกทางตลอด ถึงวัดประมาณสิบโมงเช้าต้องขับรถวนอยู่รอบหนึ่งกว่าจะได้ที่จอด มีรถทัวร์ท่องเที่ยวห้าหกคันก็กินพื้นที่ไปเยอะ รถเล็กจึงต้องขับวนหาที่จอด ผู้เขียนได้ที่จอดข้างรถทัวร์ ซึ่งมีเก๋งสองคันจอดด้านใน ถามคนจัดบอกเป็นรถที่จอดนาน ไม่ต้องห่วงว่าจะขวาง ก็วางใจได้
การขึ้นไปด้านบนมีสองวิธี คือนั่งรถกระเช้ากับเดินบันไดที่สูงชันมาก น่าจะร้อยกว่าขั้น ผู้เขียนกะจะเดินแต่คุณแม่กับคุณลูกเลือกจะนั่งกระเช้า แพ้เสียงข้างมากเจ้าทอฟฟี่งดออกเสียงเลยต้องยอมนั่งกระเช้า เสียค่าบริการคนละ 10 บาท ทอฟฟี่นั่งฟรี ระหว่างนั่งมีให้เสียวตรงที่มันชันมาก จนคิดว่าขาลงยังไงขอเดินดีกว่า ฉุกฉินยังไงก็เกาะบันไดอยู่ได้
พอขึ้นไปด้านบนเดินเข้าไปลานด้านนอกสิ่งแรกที่เห็นก็ทำเอาตะลึง องค์พระสวยงามมาก คือ หลวงพ่อชินประทานพร หน้าตัก 5 วา3 ศอก 9 นิ้ว สูง 9 วา 9 นิ้ว พุทะลักษณะงดงามมาก พระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ ปางประทานพร องค์พระประดับกระเบื้องสีทอง ให้มองเห็นอร่ามระยิบระยับ มีซุ้มครอบองค์พระทั้งองค์ไว้อีกชั้นหนึ่ง
ด้านขวาจะเป็นวิหารสำหรับพุทธศาสนิกชนเข้าไปทำบุญสังหทาน ในวันนั้นผู้เขียนเห็นฝรั่งนักท่องเที่ยวเข้าไปกราบไหว้ ปิดทองด้วย
อีกมุมหนึ่งขององค์พระ หลวงพ่อชินประทานพร
เจดีย์เกศแก้วปราสาทด้านซ้าย ที่ชั้นบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ผู้เขียนไม่ได้ขึ้นไปเพราะเห็นว่าไม่มีคนขึ้นไปกันเลยรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ขึ้น เพราะมุมกล้องด้านบนน่าจะสวยเมื่อถ่ายลงมาด้านล่าง
อีกมุมหนึ่งเป็นเจดีย์องค์เ็ล็กสวยงาม....
รอบนอกด้านล่างหลังฤดูเก็บเกี่ยว สวยงามอีกแบบหนึ่ง
ด้วยอากาศที่ร้อน และต้องอุ้มเจ้าทอฟฟี่ด้วย วันนั้นจึงใช้เวลาอยู่บนนั้นได้ไม่นาน ไว้โอกาสดีๆคงได้ไปเที่ยวใหม่อีกรอบ
..................
เคยไปวัดนี้มาสองสามครั้งแล้วจ้ะ
ใกล้ ๆ กันมีวัดจีนด้วย
เป็นวัดที่ ใคร ๆ ที่ไปเมืองกาญจน์
ก็มักจะแวะไหว้พระขอพรกันจ้ะ