สายตาของเขามีแววอ่อนโรย แปลกใจ แต่ซึ้งเข้าไปข้างในผมเชื่อว่าเขาจำผมได้ ตอนที่ผมพบเขาครั้งแรกที่ผมชะเง้อลงไปมองเขา ในหลุม และเขาก็แสดงท่าทีว่าเห็นผมด้วยเช่นกัน
เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษแบบกุก ๆ กัก ๆ เป็นใจความว่า คุณช่วยชีวิตผมมไว้ใช่ใหม ?
ผมก็ตอบเขาไปว่า " คุณจำได้ " เขาตอบมาว่า ' จำได้ไม่มีวันลืม ตอนนั้น ผมกำลังจะสำลักน้ำตายอยู่แล้ว จำคนมาช่วยได้ไม่ผิดหรอกครับ "'
ผมยิ้มให้เขา ตอบไปว่า ' ไผมช่แล้ว ไม่เป็นไรหรอกเราเป็นเพื่อนร่วมโลกเดียวกัน' เขาไอแคก ๆแล้วพูดต่อไปว่า'ผมถูกสะเก็ดระเบิดที่หัวและหน้าอก เจ็บมาก ๆ "ผมถามเขาต่อไปว่า"แล้วตอนนี้ค่อยยังชั่วหรือยัง' เขาตอบว่า 'ยังเจ็บมากอยุ่ครับ'เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะบอกต่อว่า "เขาเป็นสิบโทอาสาสมัครรักษาดินแดนจากเมืองนากาโน ทางตอนเเหนือของกรุงโตเกียว ถูกส่งไปรบหลายประเทศก่อนจะถูกส่งมาประเทศไทย ก่อนเครื่องบินอเมริกันจะมาทิ้งระเบิดสถานีรถไฟบางกอกน้อย000 เขาได้รับคำสั่งให้มารักษาการ์ณบริเวณถนนจากหน้าโรงพยาบาลไปสู่สถานีรถไฟซึ่งเป็นที่ตั้งกองรักษาการณ์ใหญ่ ระเบิดลูกหนึ่ง ลงใกล้ บริเวณที่เขาอยู่ ทำให่เขากระเด็นไปหลายเมตร เพื่อน ๆ ก็๋กระเด็นไปคนละทิศละทาง มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อได้รับการปฐมพยาบาลจากเสนารักษ์ ที่รุดออกตระเวณหาทหารที่บาดเจ็บ ทำการปฐมพยาบาลไว้ก่อน พยาบาลแล้วขุดหลุมเอาเขาหลบลงในหลุมเป็นการชั่วคราวไว้ก่อนเพราะพวกเขาจะรีบตระเวณไปช่วยคนเจ็บอื่น ๆอีกหลายคน โดยจะกลับมารับภายหลัง แต่โชคร้ายที่เกิดฝนตกเสียก่อน จึงถูกน้ำฝนไหลลงมาท่วงม ตอนนั้นผมเจ็บปวดทั่วใบหน้าและหน้าอกตลอดจนลำตัว จนบัดนั้ไม่ทราบเลยว่าผมถูกระเบิดที่ที่ส่วนใดบ้างเพราะมันเจ็บไปหมด'
'คุณมีครอบครัวหรือยัง ' ผมเปลี่ยนเรื่องถาม
'ยังเลยครับ แต่...' เขาตอบแล้วหยุดสักพักแล้วกล่าวต่อไป ' ผมมีพ่อ,แม่ ที่แก่มากและ น้องสาวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ผมมีรูปพวกเขาติดตัวอยุ่ตลอดเวลา'พูดจบเขาก็พยายามแกะกะดุมเสื้อล้วงเอาภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดออกมาดูครู่หนึ่งแล้วส่งภาพให้ผมดูบ้าง ผมรับภาพนั้นมาดู ภาพนั้นเป็นภาพหมู่ของพ่อ-แม่เขา-ตัวเขาในชุดเครื่องแบบทหาร และน้องสาวของเขาที่ยังเล็กมากในชุดกิโมโน แล้วก็ส่งคืนเขาไป 000
'พวกเขารู้ใหมว่าตอนนี้คุณรบอยู่ที่ไหน'ผมถามต่อ
'
ไม่มีความเห็น