โครงการป้องกันโรคเบาหวานเป็นนโยบายระดับชาติของอเมริกาอย่างเป็นทางการเริ่มปี 2018 นี้
เห็นข่าวนี้แล้วอยากบอกต่อค่ะ
ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศเป็นนโยบายระดับชาติ โดยมีเป้าหมายหลักสามประการคือ
1.ลดน้ำหนักให้ได้ 7% ภายใน 1 ปี
2.เพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
3.ลดปริมาณพลังงานไขมัน
โดยผลลัพธ์ที่ต้องการคือการลดอัตราการเกิดโรคเบาหวาน type 2 รายใหม่
เขาทำเป็นนโยบายที่หน่วยงานประกันสุขภาพก็สนับสนุนครอบคลุมถึงนโยบายการป้องกันการเกิดใหม่ของโรคเบาหวานด้วย
เพราะมีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่าการป้องกันด้วยการปรับวิถีชีวิตนั้น ลดอัตราการเกิดได้จริงและทำได้ในคนทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี พบว่าเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากโครงการป้องกันนี้มากที่สุด คือสามารถลดอุบัติการณ์เกิดโรคเบาหวาน type 2 ได้ถึง 71% เลยทีเดียว
เราคนไทยที่อัตราการเกิดโรคเบาหวานก็น้องๆอเมริกาแล้ว ควรจะรีบตระหนักกันให้ไวๆเช่นกัน
Credit: https://www.medscape.com/viewa...
ความเห็น (5)
ออกกำลัง150 นาที เท่ากับวันทำการละ 30 นาที... น่าจะทำได้รับ แต่ทำได้ยากยิ่ง... ขอบคุณครับ
ขอบพระคุณครับ พยายาม ครับ
According to a National Geographic article, USA's main food types are (processed) sugars and carbohydrates and fats. (Thailand's main food types are grains and vegetables.) The uptake of western style foods in Thailand may be a BIG factor in increase of diabetes in Thailand population.
Countries around the world are trying to reduce health spending on preventable diseases. Perhaps, promotion (and control) of 'correct' foods and exercises are more effective than blaming people or sugar.
It is better to invest in cultural 'diabetes-safe' practices.
On controlling intake of sugar (as tradionally advised), this may reduce blood sugar 'spikes' (ie. 'high peaks'), but some people may need that (higher level) to trigger insulin production which regulates the sugar.
Fasting (going without food - but just water) for 24 hours or more has been reported as very helpful in both reducing sugar level and increase insulin sensitivity.
Many thanks to Khun sr for you additional information. I think people know what we should do but to break the normal habits in the current environment is so hard. The nation wide campaign has been implemented but still not so effective. We all have to be a part of this both to our self and to the public.
