เมื่อวานผมเข้าร่วมประชุมกับทีมคุณเอื้อจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ผอ.โสภณ(ธกส.) ผอ.วิมล(กศน.) พี่วีณา จากสธ. พี่เกรียงไกรจากเกษตร ท่านพัฒนาการจังหวัด จ่าจังหวัด พมจ.(คุณธีรศักดิ์) อาจารย์ชมภูและอาจารย์เป้าจากกศน. โดยผมชวนดร.ทิพวัลย์ สีจันทร์จากมก.กำแพงแสนที่ลงมาตามดูลูกศิษย์ทำวิทยานิพนธ์ที่ปากพนังเข้าร่วมด้วย
ท่านผู้ว่าเปลือยหน้าตักงบบูรณาการในปี50ที่ทุกจังหวัดได้รับเท่ากันจังหวัดละ10ล้านบาท (ปีที่แล้วประมาณ540ล้านบาท)ให้ทีมคุณเอื้อรับทราบ และหารือการจัดงบเพื่อดำเนินโครงการต่อเนื่องจัดการความรู้ไปสู่ชุมชนอินทรีย์จังหวัดนครศรีธรรมราช
เราทำเป็นปีที่3ต่อเนื่องกันมา
รุ่นแรก จำนวน 400 หมู่บ้านแรกปี48ปกครองกับเครือข่ายยมนารับ
ปี49 กศน.รับช่วง ปี50 เกษตรกับธกส.รับช่วง
รุ่นที่2 จำนวน 600 หมู่บ้านปี49ปกครองกับเครือข่ายยมนารับ
ปี50กศน.รับช่วง
รุ่นที่ 4 จำนวน 553 หมู่บ้าน ปี50ปกครองกับเครือข่ายยมนารับ
ปี50มีงบแบ่งมาให้3ล้านจาก10ล้าน
ให้ปกครอง1ล้าน กศน. 2ล้าน
สำหรับรุ่นแรก 400 หมู่บ้านไม่มีงบ
ที่ผมเห็นว่าน่าสนใจคือ ทุกคนคุยกันโดยไม่ได้สนใจเรื่องงบกันสักเท่าไร แต่ละหน่วยงานได้เล่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกรม โดยจะนำมาบูรณาการเข้ากับโครงการจัดการความรู้ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ลงไปในพื้นที่เป้าหมายอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งพี่วีณารับเป็นเจ้าภาพหลักเรื่องการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อประสานการทำงาน พัฒนาการจังหวัดได้รับมอบหมายให้ดูภาพรวมงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งจะมีการนำแผนงานโครงการของแต่ละหน่วยมานำเสนอ สรุปจัดทำแผนบูรณาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัดในวันที่26ธ.ค.เป็นวงเรียนรู้คุณเอื้อครั้งที่2 โดยท่านผู้ว่าเสนอให้จัดห้องเรียนกันในห้องรับรองของท่านเลย
เป็นการพูดคุยที่สนุกสนาน น่าตื่นเต้นมากครับ
พอขับรถออกมาจากศาลากลางก็พบกับอาจารย์จำนงขี่มอเตอร์ไซด์กลับจากการพูดคุยกับทีมงานสธ.จะเข้าสำนักงาน พวกเราเลยชวนกันไปนั่งกินโรตีคุยกันข้างทาง
ผมข้ามถิ่นเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาจารย์เพราะเป็นมื้อเล็ก ไว้มื้อใหญ่จะให้อาจารย์เป็นเจ้ามือครับ
คุณภีม
มื้อเล็กมื้อใหญ่เลี้ยงกันได้ทั้งนั้นแหละครับ สำหรับทีมงานคนคอเดียวกัน กินกันคุยกันอย่างไม่เป็นทางการอย่างนี้ไม่ใช่หรือครับที่ทำให้งานนำร่องสามตำบลของเราประสบผลสำเร็จ ต้องควบคู่กันระหว่างเป็นทางการกับไม่เป็นทางการ คุยบนศาลากลางได้ คุยกันข้างถนนก็ต้องได้ซิ ขับรถกระบะกับขับรถเครื่องก็จอดกินโรตีคุยกันได้ แข็งทื่อแบบท่านประธานที่เคารพ กระผม.....ซี ชั้นยศ ตำแหน่ง ถอดๆออกเสียบ้างก็จะมีบรรยากาศเรียนรู้นะครับ ไม่เห็นจะแปลกอะไร แต่ อ.ดร.ทิพวัลย์ แกจะคิดอย่างไรบ้างก็ไม่รู้..อ่านที่ อ.เขียนก็รู้สึกว่าส่งสัญญาณบวกมากๆเลยนะครับ.....