กาลเวลาและมิตรภาพ...ในเมืองย่าโม


ความรู้ ประสบการณ์และมิตรภาพสิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวในตัวของพวกเราทุกคน และในวันหนึ่งข้างหน้าเราคงได้ใช้ประสบการณ์เหล่านี้ถ่ายทอดให้กับผู้อื่น ที่สำคัญขอให้ทุกคนจดจำแต่สิ่งดีๆ ในการเดินทางครั้งนี้และจงอย่าลืมว่าเราทุกคนคือ “ครู”

            

เพื่อนๆ นักศึกษาทุน

    หลังจากสอบปลายภาคเรียนที่ 1/2548 เสร็จอาจารย์ได้เรียกพวกเรานักศึกษาทุนมาประชุมเพื่อเตรียมจัดกิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียนที่ 1 ที่ประชุมมีมติว่าจะไปร่วมนิทรรศการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากประชุมเสร็จพวกเราทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะการจัดกิจกรรมในครั้งนี้พวกเราจะได้มีโอกาสไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดก็คือ การได้ไปเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับพวกเราทุกคน วันเวลาเคลื่อนผ่านและแล้ววันเดินทางก็มาถึง               

       18 ตุลาคม 2548 เราออกเดินทางจากคณะครุศาสตร์และได้แวะรับประทานอาหารเช้าที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่เรารับประทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปยังปราสาทเขาพนมรุ้งที่ จ. บุรีรัมย์ ในระหว่างการเดินทางพวกเราได้จัดกิจกรรมบนรถเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนๆ โดยกิจกรรมดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน ตัวผมเองได้สังเกตเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ก็พลอยทำให้ตัวเองมีความสุขไปด้วย ในระหว่างสองข้างทางผมมองออกไปเห็นท้องทุ่งนาอันเขียวขจี ก็อดที่จะนึกถึงรอยยิ้มของชาวนาไม่ได้เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนพวกเขาก็จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ตนเองได้อดทนทำมา สิ่งนี้ยิ่งทำให้ผมคิดถึงคุณพ่อและคุณแม่ที่อยู่ทางบ้านไม่รู้ว่าจะมีใครคอยช่วยท่านบ้างหรือเปล่า เราก็เดินทางกันต่อและมาถึงที่ปราสาทเข้าพนมรุ้ง ในเวลาประมาณ 5 โมงเช้า ความรู้สึกแรกที่มาถึงที่นี่ผมรู้สึกตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกของผม หลังจากที่เราตกลงกันในเรื่องเวลาเสร็จเราก็ได้เข้าไปเที่ยวชมภายในบริเวณตัวปราสาท คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของผมก็คือ คนสมัยโบราณสร้างสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างไรแล้วได้ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งนับว่านี่เป็นความมหัศจรรย์ของคนโบราณที่หลงเหลือไว้ให้ชนรุ่นหลังอย่างเราๆ ได้ศึกษา หลังจากที่เที่ยวชมปราสาทเขาพนมรุ้งเสร็จ เราก็รับประทานอาหารเที่ยงกันที่นี่และออกเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครราชสีมา เรามาถึงจังหวัดนครราชสีมาและเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ซึ่งพิพิธแห่งนี้ได้จัดแสดงซากฟอสซิลต่างๆ รวมทั้งโครงกระดูกไดโนเสาร์ สิ่งที่ผมและเพื่อนๆ ได้พบเห็นล้วนแล้วแต่มีคุณค่าและสามารถนำไปถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้รับรู้ได้ จากนั้นเราได้เข้าพักค้างคืนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น               

        19 ตุลาคม 2548 พวกเราตื่นแต่เช้าเก็บข้าวของเตรียมตัวเดินทางไปที่ ตำบลคลองไผ่ วันนี้ผมสังเกตเห็นเพื่อนๆ แต่ละคนแต่งตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อเตรียมรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ เมื่อเรามาถึงบริเวณงานพวกเราได้เตรียมตั้งแถวรับเสด็จอยู่บริเวณซุ้มที่มหาวิทยาลัยของเราจัดนิทรรศการอยู่ เมื่อขบวนเสด็จมาถึงผมและเพื่อนๆ รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากและถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะมิได้มีพระปฏิสัณฐานกับพวกเรา แต่ผมก็ยังรู้สึกปลาบปลื้มอยู่ในใจคนเดียวด้วยเหตุผลที่ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตมีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ จากนั้นผมและเพื่อนๆ ได้เข้าชมนิทรรศการที่หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดขึ้น ภายในงานก็จะมีซุ้มต่างๆ มากมาย ให้เราไปศึกษาหาความรู้ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องเวลาทำให้พวกเราชมนิทรรศการได้ไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร พวกเราออกจากงานที่คลองไผ่เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปซึ่งก็คือที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อไปถึงบริเวณเชิงเขา พวกเราต้องเปลี่ยนไปนั่งรถที่ทางอุทยานจัดไว้ให้เนื่องจากว่ารถของพวกเรามีขนาดใหญ่ซึ่งถนนก็คดเคี้ยวและมีความลาดชันสูง พวกเรานั่งรถขึ้นมาถึงบนเขาและนำสัมภาระต่างๆ เก็บเข้าที่พักจนเรียบร้อยแล้วจึงเปลี่ยนชุดเพื่อออกเดินสำรวจป่าโดยในการเดินป่าครั้งนี้พวกเราได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ทหารประจำอุทยานที่คอยเป็นวิทยากรในระหว่างเดินทาง สิ่งที่พวกเราได้พบเห็นในระหว่างการเดินทางก็คือ สภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ รอยเท้าสัตว์ป่าที่มากินน้ำในตอนกลางคืน และประสบการณ์ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ การได้รู้จักกับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ทุกคนต่างกลัวก็คือ ทาก ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่พบได้ทั่วไปในป่าดิบชื้น และการเดินป่าครั้งนี้ก็มีเพื่อนของเราคนหนึ่งโดนทากดูดเลือด ซึ่งทำให้พวกเราทุกคนหวาดระแวงในทุกฝีก้าวของการเดินทาง สิ่งที่พวกเราได้รับจากการเดินป่าในครั้งนี้นอกจากความรู้เกี่ยวกับพันธ์ไม้แล้ว ผมยังได้เห็นความสามัคคีและความมีน้ำใจระหว่างเพื่อนที่คอยช่วยเหลือฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ร่วมกัน ภาพที่เพื่อนผู้ชายช่วยประคองเพื่อนผู้หญิงให้ข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ยังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ ซึ่งผมก็หวังว่าพวกเราจะไม่ทิ้งกันแม้ในยามที่ยากลำบาก เพื่อนต้องคอยช่วยเหลือเพื่อน และสิ่งสำคัญที่เราได้รับจากการเดินป่าครั้งนี้คือ จิตสำนึกในการเป็นนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งพี่ทหารก็คาดหวังว่าพวกเราในฐานะที่จะไปเป็นครูในอนาคต อยากให้ช่วยปลูกฝังนักเรียนให้รู้ถึงคุณค่าของป่าไม้และคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้คงไว้ตลอดไป  หลังจากกิจกรรมเดินป่า  ตอนกลางคืนเราได้ไป ส่องสัตว์ เพื่อสังเกตพฤติกรรมการหาอาหาร ตลอดจนวิถีชีวิตต่างๆ ของสัตว์ป่า สัตว์ที่พวกเราพบส่วนมากจะเป็นพวก เก้งและกวาง แต่ถึงอย่างไรก็ตามกิจกรรมในคืนนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนหลายๆ คน รวมทั้งตัวผมด้วย หลังจากกลับจากการส่องสัตว์พวกเราได้แยกย้ายกันกลับเข้าที่พักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในเช้าวันต่อไป      

myfriends
         

        20 ตุลาคม 2548 เราตื่นแต่เช้าเดินทางออกจากที่พัก และมุ่งหน้าสู่ฟาร์มโชคชัยพอไปถึงเราก็ได้เข้ารับการฟังบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของฟาร์ม จากนั้นก็ได้เข้าไปเที่ยวชมภายในฟาร์ม สิ่งแรกที่เราเห็นคือ การบริหารจัดการที่เป็นระบบของฟาร์ม มีการวางแผนการพัฒนาฟาร์มในระยะยาว นอกจากความสนุกสนานที่เราได้รับแล้วเรายังได้รับความรู้ต่างๆ มากมาย เช่น การรีดนมวัว ขั้นตอนการแปรรูปผลผลิต เป็นต้น และก่อนที่เราจะเดินทางกลับเราก็ไม่ลืมที่จะซื้อของฝากต่างๆ ไปฝากคนที่เรารักซึ่งก็คือคุณพ่อกับคุณแม่นั่นเอง                

        ตลอดระยะเวลา 3 วันกับอีก 2 คืนที่ผ่านมานั้นไม่ได้สูญเปล่าไปเลยแม้แต่น้อย ความรู้ ประสบการณ์และมิตรภาพสิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวในตัวของพวกเราทุกคน และในวันหนึ่งข้างหน้าเราคงได้ใช้ประสบการณ์เหล่านี้ถ่ายทอดให้กับผู้อื่น ที่สำคัญขอให้ทุกคนจดจำแต่สิ่งดีๆ ในการเดินทางครั้งนี้และจงอย่าลืมว่าเราทุกคนคือ ครู               

ครู

ใครคือครูครูคือใครในวันนี้                              ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล

ใช่อยู่ที่เรียกว่าครูอาจารย์                                   ใช่อยู่ที่สอนนานในโรงเรียน

ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด                                    ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน

ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร                                   ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้สร้างงาน

ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์                         ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน

ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์                                     ปณิธานเพื่อคนอื่นใช่ตัวเอง

ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ยิ่งใหญ่                              สร้างคนดีสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง 

สร้างคนให้เป็นแบบอย่างของตัวเอง              ขอมอบกลอนนี้มาบูชาครู  

คำสำคัญ (Tags): #การเดินทาง
หมายเลขบันทึก: 64097เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2006 11:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท