My way 1


--------- "My Way" ---------- การเดินทางของผม
.
การหล่อหลอมเป็นธีระวุฒิ 
ผมเติบโตมาจากครอบครัวชาวนา พ่อแม่ผมเป็นคนขยัน เอาจริงเอาจัง ทำให้ผมเติบโตมาพร้อมกับความคิดที่จริงจังในการดำเนินชีวิต ช่วงวัยมัธยมผมถูกโค้ชด้วยรูปแบบการศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑ มา ๓ ปีผ่านโครงการที่ชื่อปลูกใจรักษ์โลก โรงเรียนวันสุข ละครเพื่อการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผมรู้สึกว่าตนเองอยากเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสังคมและได้ทำงานเพื่อสังคม ช่วงอุดมศึกษา ผมเรียนรู้ที่จะอ่อนโยน โลกของผมกว้างขึ้น ผมมีเพือน ไม่แข็งตึง ผมอ่านมูซาชิ นางนวล และได้เรียนรู้ปรัชญา ทำให้อ่อน นุ่มนวลขึ้น มันเป็นผลดีที่ทำให้ผมรู้สึกเข้าใจตนเองและผู้อื่นมากยิ่งขึ้น เข้าใจกระบวนการมากยิ่งขึ้น
.
ประสบการณ์ที่ผ่านมา
๑) สมัยมัธยม ผมเองได้เรียนรู้บนฐานปัญหา(PBL) เรียนรู้เรื่องการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นมา ๓ ปี ผ่านโครงการปลูกใจรักษ์โลกมูลนิธิสยามกัมมาจลและกองทุนไทย ตั้งกลุ่มเยาวชนที่ชื่อกลุ่มฮักนะเชียงยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ขึ้นเพื่อทำงานกับชุมชนและเยาวชนในพื้นที่เป้าหมาย แก้ปัญหาสารเคมีในการทำเกษตร ตลอดระยะเวลา ๓ ปี สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านความคิด จากเดิมที่คิดแบบคนปกติ ผมรู้สึกว่าโครงการนี้ทำให้ผมคิดแบบ "โจนาธาน อิฟวิงสตัน"
๒) สมัยปี ๑-๒ ผมเองได้เรียนรู้ความเป็นองค์กรที่ใหญ่ขึ้น เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร โลกของผมกว้างขึ้นมาก ผมทำกิจกรรมหลายรูปแบบ หลายอย่าง พยายามถอดบทเรียนตนเองเป็นชุดความรู้ของตนเอง พยายามจะสื่อสารว่า "กิจกรรม คือ การเรียนรู้"
๓) ปัจจุบันอยู่ปี ๓ ผมชอบความเป็นอิสระในการทำกิจกรรม สามารถทำงานได้อย่างเสรี อาจรับงานวิทยากรบ้างในการอบรมเยาวชน อบรมครู รับงานเป็นโครงการบ้าง งานทดลองหลักสูตรบ้าง ทั้งนี้ก็มีกลุ่มที่ทำงานในมหาลัย ชื่อ ชมรมต้นกล้าพันธุ์ดี และเครือข่ายทีมยุวชนกระบวนกรที่เดินไปด้วยกัน
.
สิ่งที่ได้เรียนรู้สำคัญต่อกิจกรรมทางสังคม 
๑) โครงการแก้ปัญหาสังคมสอนผมว่า "พลวัตรของสังคม ที่พร้อมจะเกิดปัญหา เกิดการแก้ไขปัญหาอยู่เสมอ เราเองมีบทบาทเป็นผู้ดู ผู้ช่วย หรือผู้นำการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับสมดุลในช่วงนั้นๆ"
๒) งานวิทยากรสอนผมว่า "เราเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แม้ไม่มีเราอยู่ โลกก็ยังหมุนต่อไป แต่สิ่งที่เราทำ มันทำให้โลกสวยงามขึ้น" 
๓) ทุกๆกิจกรรม ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันด้าน กาย ความคิด และหัวใจ รู้สึกว่าฐานคิดตัวเองแน่นมากกว่าคนรอบข้าง
๔) จากการทดลองทำหลายอย่าง ทำให้ผมยิ่งรู้สึกมั่นใจในการเรียนรู้แบบ PBL ABL จิตตปัญญา และ Active learning เพิ่มมากขึ้น
.
ไอดอลของผม 
๑) ในหลวง รัชกาลที่ ๙
๒) พ่อกับแม่ของผม
.
ครูกระบวนการของผม 
๑) ครูเพ็ญศรี ใจกล้า
๒) ดร.ฤทธิไกร ไชยงาม
๓) เครือข่ายกองทุนไทย พี่แอ๋ว พี่เปิ้ล พี่โจ้ พี่ใหม่ 
๔) ทีม กชส พี่หนุ่ม พี่จุ้ย
.
คิดแบบคนรุ่นใหม่ 
คนรุ่นใหม่คิดมีลักษณะและคิดไม่เหมือนคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่มีความก้าวหน้ในการพัฒนาสังคม คิดแบบเสรี เชื่อในประชาธิปไตย ในขณะที่คนรุ่นเก่าส่วนใหญ่เป็นอนุรักษ์นิยม ยึดปัญญาในอดีต ซึ่งก็ถือว่าดี แต่สังคมไม่โต "ตามทฤษฎีไข่ดาว" ดังนั้นคนรุ่นใหม่จึงเป็นพลังแห่งความท้าทายที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาและการเมือง ด้วยปัญญาอนาคต
.
การเดินทางต่อ
อนึ่ง ได้ฟังถ้อยคำของกวีท่านหนึ่งว่า กล่าวไว้ว่า "เรียนรู้รูปแบบ ค้นหาความไร้รุปแบบ เรียนรู้แนวทาง แล้วหาแนวทงของตนเอง ไม่ใช่เส้นทางของพ่อแม่เธอ ไม่ใช่เส้นทางของอาจารย์เธอ ไม่ใช่เส้นทางของไอดอลเธอ แต่มันเป็นเส้นทางของเธอ เธอสร้างเส้นทางของเธอเอง" ยังไงก็ต้องเดินทางต่อ ..




<p></p>

คำสำคัญ (Tags): #my way
หมายเลขบันทึก: 638043เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2017 21:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กันยายน 2017 21:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่น่ายกย่องมากๆ ...ขอปรบมือให้ดัง ๆ

ยินดีและภูมิใจมากที่ได้รู้จักและมีส่วนร่วมในการสร้าง "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" แห่งกระบวนการเรียนรู้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท