ประวัติย่อๆหลังท่านนบีมุฮัมมัด วะฝาต (وَفاتٌ)


อบู บักร อัศศิดดิก คือเคาะลิฟะห์คนที่ 1

 

ประวัติย่อๆหลังท่านนบีมุฮัมมัด วะฝาต (وَفاتٌ)

ท่านนบีมุฮัมมัด [1] صلى الله عليه وسلم ประกาศศาสนาอิสลามอยู่ 20 ปี ท่านวะฝาต (สิ้นชีพตักษัย) ด้วยการถูกวางยาพิษ โดยหญิงคนหนึ่งที่คิดว่า ถ้าเป็นนบีผู้วิเศษ ก็จะรอดพ้นจากพิษภัยไปได้ แต่ท่านนบี คือ คนธรรมดาที่อัลลอฮ์แต่งตั้งให้เป็นศาสดา ประกาศศาสนาอิสลาม ผู้ที่สืบอำนาจการปกครองต่อมา ท่านนบีฯ เคยบอกไว้ว่า ให้เป็น เคาะลิฟะห์ (خَلِيْفَةٌ successor ผู้สืบตำแหน่ง) ไม่ใช่ราชาหรือกษัตริย์ (มีคำอังกฤษเรียก Caliph มันมาจากเคาะลิฟะห์นั่นเอง)

อบู บักร อัศศิดดิก คือเคาะลิฟะห์คนที่ 1 ก่อนขึ้นครองตำแหน่งมีข่าวโคมลอยจากกลุ่มกบฏ (اِرْتَدَادٌ) ว่าท่านนบีมุฮัมมัดแต่งตั้ง อะลี เป็นเคาะลิฟะห์คนที่ 1 แต่จากการเจรจาของอาอิชะห์ภรรยาท่านนบี ได้ยินได้รู้ทุกอย่างที่ท่านนบีพูดอะไร สั่งเสียอะไร เพราะโดนยาพิษไม่ได้สิ้นชีพทันที ยังทุกข์ทรมานอยู่หลายวัน เรื่องเคาะลิฟะห์คนที่ 1 ก็จบโดย อบู บักร    การปกครองโดยทั่วๆ ไป ราบเรียบดี มีกลุ่มต่อต้านบ้างเล็กน้อย (اِرْتَدَادٌ) ไม่พอใจที่ชาวกุเรชได้เป็นผู้นำ แต่ทุกอย่างจบด้วยการปราบปราม ท่านครองตำแหน่งได้สองปีก็ สิ้นชีพ

อุมัร บิน ค็อฎฎ็อบ คือเคาะลิฟะห์คนที่ 2 อุมัรปกครองด้วยระบบเดินสุ่มตรวจตามบ้านเรือนยามดึก ว่าประชาชนทุกข์ร้อนอะไรบ้าง ขยายอาณาจักรอิสลามไปรอบๆ คาบสมุทรอาหรับ ทางตะวันตกไปถึง อิยิปต์ ทางเหนือถึงซีเรีย ทางตะวันออกถึงอิรัก ทางใต้สุดเยเมน และเอธิโอเปีย (อะบิสเนีย) ในที่สุดท่านก็ถูลอบสังหาร ครองตำแหน่งได้ สิบปี

อุษมาน บิน อัฟฟาน คือเคาะลิฟะห์คนที่ 3 การขยายอาณาจักรกว้างไกลขึ้นกว่าสมัยอุมัรมาก การศาสนาก็รุ่งเรืองมากขึ้น แต่เริ่มมีกลุ่มก่อกบฏ กลุ่มนอกคอกศาสนา ท่านอุษมาน ได้เคยแต่งตั้งมุอาวิยะห์ไปปกครองซีเรียตั้งแต่ต้นสมัยปกครอง เมื่อกลุ่มกบฏลอบสังหารท่านอุษมาน มุอาวิยะห์ก็ไม่ได้ยกทัพมาช่วย กลุ่มกบฏป้ายความผิดไปให้ท่าน อะลี บิน อบี ตอลิบ ท่านหญิงอาอิชะห์และข้าราชการใหญ่ก็เร่งให้ อะลี สอบสวน ค้นหาคนผิดมาลงโทษ แต่คดีไม่คืบหน้า แผ่นดินเรามระส่ำระสาย

อะลี บิน อบี ตอลิบ คือเคาะลิฟะห์คนที่ 4 เป็นข้าหลวงใหญ่ที่บัสเราะห์ อิรัก สถาปนาตนเป็นคือเคาะลิฟะห์คนที่ 4 มุอาวิยะห์และอาอิชิ และข้าราชชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายก็บีบบังคับ อะลี เร่งทำคดีท่านอุษมาน แต่ก็เงียบ อาอิชะห์และแม่ทัพนายกองชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายเห็น อะลี นิ่งเฉย ก็จึงจัดทัพเพื่อจะไปบีบบังคับให้ อะลี ดำเนินคดี แต่ฝ่ายแม่ทัพนายกอง อะลีกลับเข้าใจกับผิดว่า จะยกทัพอูฐมาทำสงคราม จึงจัดทัพต่อต้าน แม่ทัพนายกองใหญ่ๆ หลายคนสิ้นชีพในสงครามนี้ เป็นที่โศกเศร้าเสียใจแก่ทั้ง อะลี และอาอิชะห์ผู้แพ้สงคราม มุอาวิยะห์ เห็นทีว่า อะลีเป็นเคาะลิฟะห์โดยการสถาปนาตนเองได้ มุอาวิยะห์ก็คิดจะทำสงครามกับ อะลี โดยยกทัพมา บัสเราะห์ แต่ อะลีถูกลอบสังหารถูกฟันที่ศีรษะใน มัสญิด ตอนเช้ามืด ลูกหลานรีบจักการศพโดย ด่วน นำไปฝังที่เมืองนาจาฟห่างจากบัสเราะห์มาก เพราะกลัวข้าศึกขุดศพไปเป็นประกัน

หะซัน บิน อะลี บิน อะบี ตอลิบ (ลูกชายคนโต อะลี) คือเคาะลิฟะห์คนที่ 5 ครองตำแหน่งได้ไม่นาน ถูกมุอาวิยะห์ บีบบังคับสละตำแหน่ง แต่ในที่สุดก็โดนวางยาพิษสิ้นชีพ เมื่ออายุ 47ปี ฝังที่กุโบร์บะเกี๊ยะห์ (แปลว่าสวรรค์) ในนครมะดินะห์

ฮุเซน บิน อะลี บิน อะบี ตอลิบ น้องชาย อพยพ ไปอยู่ในมักกะห์เพื่อหลบหลีกการปะทะกับ มุอาวิยะห์ แต่ในที่สุด ก้มีการทำจารกรรมข่าว เขียนจดหมายลวงจากแผนมุอาวิยะห์ ว่าประชาชนชาวบัสเราะห์เดือดร้อนมาก จาการที่กองทัพมุอาวิยะห์จะมาโจมตี อาอิชะห์และ ฮุเซน รีบยกทัพไปช่วย แต่ถูกดักก่อนที่เมืองกัรบะลาอ์ (Karbala-a كَرْبَلاَءُ) สิ้นชีพที่เมืองนี้ *ชาวชิอะห์ทั้งหลายจะรำลึกถึงท่านด้วยการนำดิน หินจาก กัรบะละอ์มารองหน้าผากเวลาสุญูด (ก้มกราบ)

เรื่องราวต่างๆ ช่วงคดีอุษมาน ถ้าท่าหญิงอาอิชะห์วางมือเฉยๆ สงครามอูฐที่ยกทัพไปปราบ อะลี ซึ่งท่าน อะลี อิหม่านและรู้ศาสนามากกว่าอาอิชะห์ที่เป็นสตรี ซึ่งนบีก็เคยสั่งสอนไว้แล้วว่า การบ้านการเมืองห้ามผู้หญิงออกมายุ่งเกี่ยว ให้พวกผู้ชายเขาจัดการ ก็จะไม่เกิด ฮุเซนก็จะไม่ต้องยกทัพหลงกลไป กัรบะละอ์

มุอาวิยะห์ สถาปนาตนเป็นเคาะลิฟะห์ต่อไป (ราชวงศ์อุมัยยะห์) แต่เป็นเคาะลิฟะห์จอมปลอม ผู้ละโมบอำนาจ ไม่ยองช่วยเหลือคดีท่านอุษมาน บีบบังคับ อะลี ทำคดีที่ยากแสนเข็ญ เพราะเกิดจากกลุ่มกบฏที่กลุ่มใหญ่ แต่การเมือง การศาสนาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมามาก มี นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เหรียญกษาปณ์ ถูกสร้างขึ้นแทนเม็ดเงิน เม็ดทอง การศึกษา การแพทย์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  การชลประทาน การเมืองมีการขยายอาณาจักรถึง อัลดาลุเซีย ในเสปน

ราชวงศ์อุมัยยะห์ ของมุอาวิยะห์ครองราชย์นาน 89ปี ก็เสื่อมอำนาจลง

ราชวงศ์อับบาสิยะห์ ก่อตั้งโดยผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากอับบาส อิบน์ อับดุลมุฏฏอลิบ (العباس بن عبد المطلب‎ – Abbas ibn Abd al-Muttalib) ลุงคนเล็กของมุฮัมมัด โดยก่อตั้งขึ้นในฮาร์ราน แบกแดดในปี ค.ศ. 750 ครองอำนาจ150ปี วิทยาการเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น มีการทำกระดาษเขียนอัลกุรอานแจกไปตามหัวเมืองต่างทั่วทั้งหมดในอาณาจักร แผ่อำนาจไปถึงอินเดีย เอเชียกลาง คีกิสตาน คาซัคสตาน

แต่มาล่มสลายเพราะ เจงกิสข่าน และต่อมาราชวงศ์ซาซาเนียนก็รุ่งเรือง เป็นกลุ่มชิอะห์ แผ่อำนาจชิอะห์ไปถึง อิยิปต์  และเสียอำนาจแก่เซลจุค ซึ่งต่อมาเป็น อาณาจักร “ออโตมาน” ที่ยิ่งในโลก จนถึงปี 1914 เสียอาณาจักรแก่อังกฤษ เพราะเข้าร่วมสงครามกับเยอรมันแล้วแพ้สงคราม

...........................................................................

[1] เป็นอักษรอาหรับ เขียนว่า ศ็อลลัลอฮุ อ้าลัยฮิ วะ ซัลลัม แปลว่า ขอสรรเสริฐและความศานติจงมีแด่ท่านนบีมุฮัมมัด

 

หมายเลขบันทึก: 637902เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2017 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม 2022 18:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท