ธนาคารสมองกับโรงเรียนชาวนา
ได้เล่าแล้ว (click) ว่า ศ. ดร. สิปปนนท์ เกตุทัต ประธานคณะกรรมการอำนวยการธนาคารสมอง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะ ได้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนชาวนาสุพรรณบุรีของ มขข. เมื่อวันที่ 15 ก.ย.48 บัดนี้ ธนาคารสมองได้กรุณาส่งรายงานสรุปการไปเยี่ยมชมดังกล่าว โดยมีบทสรุปและข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
บทสรุป
จากกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันของนักเรียนชาวนาดังกล่าว สามารถสะท้อนให้เห็นว่าความแตกต่างด้านพื้นฐานความรู้ สภาพแวดล้อม
และวัฒนธรรมของนักเรียนชาวนามิได้เป็นอุปสรรคต่อการจัดการความรู้ของโรงเรียนชาวนาแต่อย่างใด การนำความรู้ที่ฝังลึก (Tacit Knowledge) และความรู้ที่แจ้งชัด (Explicit Knowledge) ผนวกกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ภายใต้กระบวนการจัดการความรู้ ทำให้นักเรียนชาวนาสามารถนำองค์ความรู้ที่มีอยู่มาจัดการอย่างเป็นขั้นตอนและปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยมีนักเรียนชาวนาเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และมีสถานะเป็นทั้งครูและนักเรียนตามแต่โอกาสและเวลา จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของชาวนาได้หันมาปรับเปลี่ยนทัศนคติการทำนาตามกระแสหลักมาสู่การพึ่งพาตนเองบนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ นักเรียนชาวนายังผนึกกำลังร่วมถักทอโรงเรียนแห่งนี้ให้เป็นสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ เพื่อให้ชาวนาได้คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นให้สังคมมีคุณภาพ สมานฉันท์และเอื้ออาทรต่อกัน รวมทั้งสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ผลพลอยได้คือ ชาวนาเข้าใจถึงพิษภัยจากเคมี หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อมรอบตัวในชุมชน ได้เกิดกัลยาณมิตรกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าในหมู่ชาวนานำมาซึ่งความเข้มแข็งของชุมชน และความมั่นคงทั้งวิถีชีวิต สังคม สุขภาพและสิ่งแวดล้อม อันนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ข้อเสนอแนะ
1.
การเพิ่มศักยภาพทุนทางสังคม
ซึ่งเป็นวิถีสำคัญในการพัฒนาสังคมต้อง Identify
"ผู้นำตามธรรมชาติ" เช่นในกรณีของโรงเรียนชาวนา
นักเรียนทุกคนเป็นผู้นำธรรมชาติได้
หากได้รับการกระตุ้นให้แสดงศักยภาพออกมา
2. ควรสนับสนุน "ผู้นำธรรมชาติ"
ผ่านมูลนิธิ/องค์กรสาธารณะประโยชน์ที่ดี, สคส., สกว.
ฯลฯ และ สศช. ทำหน้าที่ติดตามและประเมินผล
3.
สนับสนุนให้เกษตรกรทำการเกษตรแบบไร้สารเคมี
ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งทำนา ทำไร่
ทำสวน เพื่อลดการนำเข้าสารเคมี
สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ
4. ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงาน
ชุมชน นำกระบวนการจัดการความรู้ไปใช้ในเรื่องต่าง ๆ
อย่างแพร่หลาย
กรณีโรงเรียนชาวนาถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้
ก่อให้เกิดผลดีต่าง ๆ มากมายในสังคม
หากนำแนวทางตัวอย่างดังกล่าวไปประยุกต์ใช้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านอื่น
ๆ โดยอาศัยกระบวนการจัดการความรู้
ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
5.
ควรให้มีการถอดบทเรียนจากเนื้อหาในแต่ละหลักสูตรของโรงเรียนชาวนา
เช่น การจัดการแมลง
การปรับปรุงบำรุงดิน การทำปุ๋ยชีวภาพโดยวิธีต่าง ๆ
รวมทั้งการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจได้นำไปปฏิบัติตามแนวทางเกษตรยั่งยืนต่อไป
ขอขอบพระคุณ ศ. ดร. สิปปนนท์ เกตุทัต เป็นอย่างสูงในความเมตตาของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อเสนอแนะข้อ 4
วิจารณ์ พานิช
4 พ.ย.48
ไม่มีความเห็น