การอบรมพัฒนาครูในรูปแบบครบวงจร
ปัจจุบัน เข้าสู่เดือนกันยายน หรือใกล้เข้าสู่ระบบใกล้สิ้นปีงบประมาณในการจัดการศึกษา สำหรับบางโรงเรียน บางหน่วยงาน ต้องรีบเร่งให้มีการใช้งบประมาณให้หมดภายในสิ้นปีงบประมาณ เพราะหากไม่มีการใช้ตั้งเบิกงบประมาณก็จะตกไป ต้องส่งกลับคืนเข้าสู่กระทรวง ทบวง กรม การพัฒนาบุคคลากรทางการศึกษาเพื่อให้ยกระดับความสามารถ เทคนิควิธีการที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยการจัดการอบรมสัมมนาตลอดเวลา โดยเฉพาะในวันหยุดราชการ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ด้วยเหตุนี้ ทาง สพฐ.จึงเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพครูตามความถนัด ความเหมาะสม ความสนใจ โดยมีการทำโครงการพัฒนาครูในรูปแบบใหม่แบบครบวงจร
โดยสำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ( Training Oิbec) หรือเรียกว่า อบรมคูปอง 10,000 บาท โดยให้ครูทั่วประเทศไทยสนใจ ในหลักสูตรที่เหมาะสมและคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษา โดยดำเนินการตามขั้นตอนในระบบ การลงทะเบียน >> รอการพิจารณาจากผอ. >> ฝ่ายบุคคลรับทราบการลงทะเบียน >> ฝ่ายคลังรับทราบการลงทะเบียน>> ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องเสร็จสิ้นทั้งหมด 5 ขั้นตอน ถึงจะทำเรื่องเพื่อขออนุญาต สพป.ในเขตพื้นที่ในการขออนุมัตยืมเงินในการเดินทางไปราชการ เนื่องจากบุคลากรบางท่านอาจจะต้องไปเข้ารับการอบรมในต่างอำเภอ ต่างจังหวัด ในบางสถานศึกษาก็มีบุคลากรได้ไปเข้าร่วมการอบรมตามหลักสูตรที่ลงทะเบียนไว้แล้ว บางสถานศึกษาก็มีบุคลากรแยกย้ายกันไปเข้ารับการอบรมตามความสนใจ ความเหมาะสม ความถนัด และยังมีบุคลากรบางท่านที่ยังไม่ได้เข้ารับอบรม เพราะทางสพฐ. จัดให้มีการเข้ารับการอบรมจนถึงสิ้นเดือนกันยายน หรือสิ้นปีงบประมาณนั่นเอง และยังมีบุคลากรบางท่าน ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งอันเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ ทั้งระบบที่ล่าช้า บุคลากรแย่งกันเพื่อเข้าระบบ เพื่อที่จะได้ไปอบรมในสถานที่ใกล้ๆ หรือ จังหวัดใกล้เคียง หรือบุคลากรยังหาหลักสูตรที่เหมาะสม ที่ตนเองสนใจ ที่ตนเองถนัด
แต่มีบางกรณีที่มีบุคลากรได้ลงทะเบียนตามระบบ 5 ขั้นตอนสมบูรณ์แล้ว มีปัญหาเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากผู้บริหารบางท่านไม่เข้าใจในวัตถุประสงค์ที่ของบุคลากรที่ต้องการจะพัฒนาการศึกษา เมื่อลงทะเบียนแล้วรอเวลาระยะหนึ่งที่ระบบตอบรับจนครบสมบูรณ์แล้ว บุคลากรได้ทำเรื่องเพื่อขออนุมัติยืมเงินในการเดินทางไปราชการเหมือนกับบุคลากรของสถานศึกษาอื่นทั่วไป มีผู้บริหารบางท่านไม่อนุมัติให้เบิกจ่ายอันเนื่องมาจากเหตุผลที่เข้าข้างตนเองอย่างเห็นได้ชัด เช่น ผมไม่อนุมัติให้คุณไปเนื่องจากเป็นหลักสูตรที่ไม่เหมาะสมกับคุณ ผมไม่อนุมัติให้คุณเนื่องจากไม่สอดคล้องกับวิชาเอกของคุณ ฯลฯ ทางบุคลากรก็ได้ชี้แจงเหตุผลแล้วว่า จะเข้ารับการอบรมหลักสูตรนี้เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาต่อไป ก็ไม่อนุมัติ แล้วก็มีการชี้แจงอีกว่า สถานศึกษาอื่นๆ ก็มีการอบรมไม่่ตรงตามวิชาเอก ก็สามารถเข้ารับการอบรมได้ เพราะว่า ทางหลักสูตรได้ระบุว่าสามารถรับได้ทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มเป้าหมาย หมวดหมู่ระบุรับได้ทุกกลุ่มสาระ ผู้บริหารบางท่านก็บอกว่า ผมไม่อนุมัติ ผมไม่ให้ไป
ผู้บริหารที่มีอัตตาในตนเองสูงบางท่านก็ยังคงยืนยันว่า ผมไม่อนุมัติ ใครจะทำไม ผมเป็นผู้บริหาร จะทำอะไรก็ได้ ทางบุคลากรก็ได้ชี้แจงเหตุผลที่แสดงความประสงค์ในการอบรมโดยระบุว่า สามารถอบรมได้ตามความถนัด ความสนใจ ความเหมาะสม ก็ยังคงยืนยันคำเดิมตามมาด้วยอำนาจที่มีอยู่ตามรูปแบบผู้บริหารที่มักจะเสียงดัง ตะคอกใส่ ตวาด แสดงอำนาจให้หวาดกลัว จากการที่จะสร้างขวัญกำลังใจการทำงาน ในการเข้ารับการอบรมครั้งนี้กลับกลาย เป็นการขัดขวางความก้าวหน้าของบุคลากร
บั่นทอนกำลังใจด้วยคำพูดต่างๆ นานา คุณคิดดีแล้วหรือที่จะมาวัดกำลังกับผมบ้างละ ใครงัดข้อกับผู้บริหารไม่มีทางเจริญบางละ นับวันยิ่งบั่นทอนขวัญและกำลังใจในการทำงานของบุคลากรไปทุกๆวัน จนมีวลีเด็ดจากผู้บริหารว่า ถ้าคุณไม่พอใจผมก็ย้ายไปสถานศึกษาอื่น ซึ่งยิ่งบั่นทอนขวัญกำลังใจ ตอกย้ำซ้ำเติมเข้าไปอีก จึงอยากจะทราบว่า
การอบรมพัฒนาบุคลากรในครั้งนี้ เงินงบประมาณเป็นของใครกันแน่
การอบรมพัฒนาบุคลากรในครั้งนี้ อบรมแล้วท่านได้อะไร
การอบรมพัฒนาบุคลากรในครั้งนี้ จะได้ประโยชน์เพื่อใคร
การอบรมพัฒนาบุคลากรในครั้งนี้ ใครมีอำนาจมากที่สุด
Any MOE big (high ranking officer) read this? Is it not time to work this out for benefits of "children" at school?