Way of life..."ยอป่า"กินได้...


ประสบการณ์ชีวิตเกี่ยวกับ"พืชอาหารจากป่า"เกิดขึ้นอีกครั้งจาก"ผู้มีประสบการณ์ชีวิต" นามว่า"ลุงสุนันท์ อินทพงษ์" เกษตรกรผู้ส่งต่อการกินอยู่จากรุ่นสู่รุ่น วันนี้ได้รู้จักคุณค่าของ"ยอป่า"และต่อแต่นี้จะมีพืชอาหารจากป่าเอาไว้หล่อเลี้ยงชีพต่อไปได้ด้วยอีก 1 ชนิดครับ ขอขอบคุณ"ผู้รู้"ที่ส่งต่อข้อมูลดี ดี และขอขอบคุณ G2K ที่ช่วยเก็บข้อมูลต่างๆ เอาไว้และส่งต่อไปยังผู้ที่สนใจต่อไปครับ..

                                                           -เปิดหน้าสมุดออนไลน์"อนุรักษ์ผักพื้นบ้าน"มาบันทึกเรื่องราวของ"พืชอาหารจากป่า"ต้อนรับสัปดาห์แห่งการออกพื้นที่เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงานตามโครงการของกระทรวงมหาดไทย เรื่อง "การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต หรือ Way of life กันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ....เอาเป็นว่าการทำงานแบบบูรณาการก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้อยู่ในระดับพื้นที่เช่นนี้ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้ช่วยงานของส่วนราชการภายใต้การนำของท่านนายอำเภอพรานกระต่าย อาทิตย์นีี้ตัวผมจึงมีแผนออกพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจตามกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายครับ เอาเป็นว่าพร้อมแล้วตามผมไปร่วมปฏิบัติงานและเพิ่มเติมประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ พร้อมๆ กันกับบันทึกนี้ได้เลยคร้าบ!!!!!

1.หลังจากเข้าสำนักงานเพื่อรับนโยบายและวางแผนการปฏิบัติงานรวมทั้งจัดเตรียมเอกสารต่างๆ แล้ว ตัวผมเองก็ได้รับมอบหมายให้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ ณ บ้านคลองห้วยยั้ง หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยยั้ง เพื่อปฏิบัติงานตามโครงการ"การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฎิบัติจนเป็นวิถีชีิวิต" ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติงานตามคู่มือที่ได้บอกเอาไว้ ตามนี้ครับ คู่มือปฏิบัติงานการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต กรมการพัฒนาชุมชน และงานนี้ได้รับความร่วมมือจาก"กำนันผ่องศรี  ยอดมา"กำนันตำบลห้วยยั้ง เป็นผู้ประสานงานและรับหน้าที่ในการจัดเตรียมสถานที่พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านมาร่วมกิจกรร และวันนี้ถือเป็นวันดีที่เป็น"วันพระ"ดังนั้นเราจึงได้กลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมคือคุณตา คุณยาย รวมทั้งน้องๆนักเรียนจาก"โรงเรียนบ้านคลองห้วยยั้ง"มาร่วมกิจกรรมด้วยครับ...การดำเนินกิจกรรมก็เป็นไปตามวิธีปฏิบัติตามคู่มือครับ ซึ่งบันทึกนี้ผมคงจะไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากจนเกินไปนัก เอาเป็นว่าขอให้ผู้อ่านที่สนใจเข้าไปติดตามกันได้ในคู่มือที่ผมได้แนบเอาไว้ในบันทึกนี้ก็แล้วกันนะครับ...เพราะว่าผมยังมีภารกิจที่น่าสนใจหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมนี้รออยู่นั่นเองคร้าบ....

2.ถือเป็นวิถีแห่งการต้อนรับขับสู้แขกผู้มาเยือนและบริการพี่น้องประชาชนของผู้นำหมู่บ้าน ดังนั้น วันนี้"กำนันผ่องศรี ยอดมา"จึงได้จัดทำอาหารและเครื่องดื่มมาบริการผู้ที่ร่วมกิจกรรมด้วยครับ โดยอาหารมืิ้อนี้"กำนันผ่องศรี"เล่าให้ผมฟังว่าวัตถุดิบต่างๆ ล้วนแล้วแต่เก็บมาจากบริเวณบ้าน ดูจากเมนูอาหารมื้อนี้แล้วก็ทำให้ผมประทับใจและรับรู้ถึงการน้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้สอดคล้องจนไปสู่การปฏิบัติเป็นวิถีชีวิต ได้เป็นอย่างดีเลยละครับ...ชื่นชมๆ คร้าบ....

3.หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเรียบร้อยแล้ว"ลุงสุนันท์  อินทพงษ์"ได้ชวนผมออกไปชมแปลงนาข้าวและเรียนรู้ผักพื้นบ้านของที่นี่กันต่อครับ โดยครั้งนี้ผมตั้งใจว่าจะไปดู"ต้นตะขบป่า"และไม่เพียงแต่ผมได้พบกับ"ต้นตะขบป่า"เท่านั้น ผมยังได้พบกับ"ผลไม้ป่า"ที่น่าสนใจมากๆ ดังนั้นผมจึงขอนำเสนอเรื่องราวของ"ผลไม้ป่า"ชนิดนี้ก่อน ส่วน"ตะขบป่า"และ"ต้นตวย"นั้น ผมจะได้นำเอามาบันทึกให้ผู้อ่านได้ติดตามกันในบันทึกต่อไปครับ...

4.และนี่ก็คือ"ต้นยอป่า"ครับ โดยที่ผ่านมาตัวผมเองก็ได้พบเจอกับ"ต้นยอป่า"อยู่เป็นประจำ แต่ไม่ค่อยได้สนใจอะไรไปกว่าชื่อที่ดูเหมือนกับ"ยอบ้าน"ที่พบเห็นอยู่ทั่วๆ ไป รวมทั้งลักษณะของใบก็มีลักษณะคล้ายๆ กัน สิ่งที่ได้รับรู้ก่อนหน้านี้ก็เพียงแค่การนำเอา"ต้นยอป่า"มาแปรรูปเป็นไม้กระดานปูพื้น ซึ่งลักษณะเนื้อของไม้ก็ดูสวยงามดีครับ แต่วันนี้ผมกลับได้เรียนรู้ประโยชน์ของ"ยอป่า"เพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง จาก"ลุงสุนันท์"ครับ โดย "ลุงสุนันท์"ได้บอกกับผมว่า"ลูกยอป่าสุกกินได้"พอได้รับฟังผมก็เริ่มสนใจขึ้นมาทันทีพร้อมกับขอให้"ลุงสุนันท์"เก็บ"ลูกยอป่าสุก"และ"ลิ้มลองผลสุกของยอป่า"ให้ผมได้ชมและเก็บภาพกันก่อนครับ 555

5.และนี่ก็คือ"ลูกยอป่าสุก"ครับ เท่าที่ดูลักษณะภายนอกผลสุกจะมีสีดำ ส่วนผลดิบก็จะมีสีเขียวครับ ส่วนเนื้อข้างในก็มีลักษณะเหมือนกับ"ลูกยอบ้าน"แต่ผลของยอป่าจะเล็กกว่ามาก แต่ขนาดของผลยอป่านั้น "ลุงสุนันท์"บอกกับผมว่าขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นหรือว่าช่วงนี้ลูกยอป่าใกล้าจะหมดแล้ว จึงเหลือแต่ลูกเล็ก ๆ ให้เราได้ลิ้มลองครับ หากถามว่า"ลูกยอป่ากินได้ไหม?"ตัวผมเองก็ไม่สามารถตอบได้หากผมไม่ได้รับรู้หรือสัมผัสด้วยตัวเอง แต่สำหรับวันนี้ผมได้รับความรู้และประสบการณ์จาก"ลุงสุนันท์"ที่บอกกับผมว่า"ลูกยอสุกกินได้จริงๆ"เพราะว่ากินมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ซึ่งตอนนั้นได้เรียนรู้วิธีกินจาก"สุนัข"ที่"ลุงสนันท์"บอกกับผมว่า"เห็นสุนัขกินลูกยอสุก"เพียงเท่านี้้ก็พอจะเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ"ลิ้มลองลูกยอป่าสุก"ดู แล้วก็พบว่ากินได้และไม่เป็นอันตรายใดๆ ครับ ดังนั้น"ลุงสุนันท์"จึงชอบกิน"ลูกยอป่าสุก"มาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ...

6.เพื่อเป็นการ"พิสูจน์ทราบ"ดังนั้น ผมจึงต้องลอง"ลิ้มรสลูกยอป่าสุก"กันสักหน่อยแล้วล่ะครับ โดยเท่าที่ได้รับรู้รสชาติก็จะให้ความรู้สึกได้ว่า"รสชาติจะเหมือนกับลูกยอบ้านสุก"ครับ มีกลิ่นและความเฝื่อนคล้ายๆกัน เมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะได้รับความรู้สึกร้อนในลำคอ และรู้สึกว่าจะขับเหงื่อได้ดีทีเดียวครับ...

7.ผมเก็บความสงสัยในพืชอาหารจากป่านามว่า"ยอป่า"กลับมาด้วยครับ และเมื่อมาถึงสำนักงานแล้ว ตัวผมเองจึงขอสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ"ต้นยอป่า"เพื่อศึกษาและเก็บเอาไว้เป็นข้อมูลยืนยันเสริมความมั่นใจกันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ และเมื่อลองสืบค้นข้อมูลดูจึงทำให้ผมได้รู้ว่า"ยอป่า"กินได้จริงๆ ครับ เพราะมีเอกสารวิชาการยืนยันเอาไว้อย่างชัดเจน ตามนี้ครับ ยอป่า และที่น่าสนใจก็คือยอป่าถือเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์หลายอย่างเลยครับ เห็นเป็นเช่นนี้แล้วผมจึงรู้สึกสบายใจและต่อไปจะได้นำเอา"ใบยอป่า"มาทำเมนูเอาไว้สำหรับหล่อเลี้ยงชีพได้อีกชนิหนึ่งครับ และนี่ก็คือ"ประสบการณ์ชีวิต" ที่ผมได้เรียนรู้และสัมผัสได้ในระหว่างเส้นทางเดินของชีวิตของผมครับ...

สำหรับวันนี้...ขอนำเสนอ"พืิชอาหารจากป่า นามว่า"ยอป่า"เอาไว้ให้ผู้อ่านได้รับรู้กันก่อน ส่วนผลไม้ป่าและพืชสมุนไพรจากป่าอีก 2 ชนิด นั้น ผมจะได้นำเอามาบันทึกให้ได้ติดตามอ่านกันต่อในโอกาสต่อไป เอาเป็นว่าอย่าลืมติดตามด้วยนะคร้าบ..

                                                                                                                                                                                      สวัสดีครับ

                                                                                                                                                 เพชรน้ำหนึ่ง

                                                                                                                                                 21/08/2560


คำสำคัญ (Tags): #ยอป่า#การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต#เศรษฐกิจพอเพียง#way of life#MRCF#T&V System#T&V#Change to the Best#ระบบส่งเสริมการเกษตร#นักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพ#กรมส่งเสริมการเกษตร#50 ปี กรมส่งเสริมการเกษตร#กระทรวงมหาดไทย#กำนันผ่องศรี ยอดมา#บุญส่ง จอมดวง#เจ้าพนักงานเคหกิจเกษตร#เกษตรตำบล#พอเพียง#ลูกยอป่าสุก#สุนันท์ อินทพงษ์#เกษตรหมู่บ้าน#อกม#โรงเรียนบ้านคลองหัวยยั้ง#บวร#บ้าน วัด โรงเรียน#วิทยากร#พืชสมุนไพร#ผลไม้ป่า#ภูมิปัญญาท้องถิ่น#ภูมิปัญญา#วิถีชีวิต#วิถีไทย#ความสุข#ประสบการณ์ชีวิต#อาหารพื้นบ้าน#อนุรักษ์ผักพื้นบ้าน#ผักพื้นบ้าน#ฐานข้อมูล#สมุนไพร#ใบยอ#ห่อหมกใบยอ#g2k
หมายเลขบันทึก: 634257เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2017 14:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม 2017 15:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ลูกดูน่ารัก สวย มีลายแปลกๆนะครับ ยอป่า

น่าสนใจมาก

เคยกินแต่ตะขบป่า แต่ยอป่าไม่เคยกิน

เฝื่อนๆนะครับ

-สวัสดีครับท่าน พ.แจ่มจำรัส

-เป็นผลไม้ป่าที่น่ารักมากๆ ครับ

-ความจริงแล้วตัวผมเองรู้จักมักคุ้นกับต้น"ยอป่า"มานานเหมือนกันครับ

-แต่ก็ยังไม่เคยได้รับรู้ว่าลูกยอป่ากินได้

-พอได้รับรู้และลองสืบค้นข้อมูลดูจึงได้รู้ถึงประโยชน์ของยอป่าครับ

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้นะครับ

-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต

-ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีมากๆ ครับ

-เอาไว้จะสืบหาข้อมูลของพืชพื้นบ้านมาบันทึกเอาไว้อีกครับ

-ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะคร้าบ...

-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต

-ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีมากๆ ครับ

-เอาไว้จะสืบหาข้อมูลของพืชพื้นบ้านมาบันทึกเอาไว้อีกครับ

-ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะคร้าบ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท