17. สิ่งที่มีอยู่ตลอดกาล
ถาม พลังสูงสุดของใจคือความเข้าใจ ปัญญา และความเห็นแจ้ง
คนเรามีสามกาย – กายเนื้อ กายใจ และสิ่งที่เป็นมูลเหตุ (the causal) (prana, mana, karana)
กายเนื้อ-สะท้อนถึงการมีอยู่ กายใจ – สะท้อนถึงการรู้ และสิ่งที่เป็นมูลเหตุ – สะท้อนถึง ความคิดสร้างสรรค์ที่เบิกบาน
แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดคือรูปแบบภายในการรู้ตัว
แต่มันก็แลดูแยกออกจากกัน โดยมีคุณภาพเฉพาะตัว
ปัญญา (buddhi) คือภาพสะท้อนในใจของอำนาจในการรู้ (chit)
มันคือสิ่งที่ทำให้ใจมีความรู้
ยิ่งปัญญาสว่างมาก ความรู้ก็จะกว้างมาก ลึกมาก และจริงมาก
การรู้สิ่งต่างๆ การรู้ผู้อื่น และการรู้ตัวเอง ล้วนเป็นฟังก์ชั่นของปัญญา: การรู้ตัวเองนั้นสำคัญที่สุด เพราะมันรวมการรู้สิ่งต่างๆและรู้ผู้อื่นไว้ด้วย
การเข้าใจตัวเองผิด ทำให้โลกนำเราไปสู่ความคิดผิด และความต้องการที่ผิด ซึ่งนำไปสู่การยึดมั่นถือมั่น
การเข้าใจตัวเองถูก เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอิสรภาพจากการยึดมั่นในภาพมายา
ผมเข้าใจทั้งหมดนี้ในเชิงทฤษฎี แต่เมื่อมาถึงการปฏิบัติ ผมพบว่าผมล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการตอบสนองต่อสถานการณ์และต่อผู้อื่น และการตอบสนองที่ไม่เหมาะสมนี้ ทำให้ผมมีการยึดมั่นเพิ่มมากขึ้น
ชีวิตมันรวดเร็วมากกว่าใจที่โง่เขลาและเชื่องช้าของผม
ผมเข้าใจ แต่มันช้าไป เพราะความผิดเดิมๆได้เกิดขึ้นไปแล้ว
ตอบ แล้วปัญหาของเธอคืออะไร?
ถาม ผมต้องการการตอบสนองต่อชีวิต แบบที่มีปัญญา และรวดเร็วมากๆ
มันจะเร็วไม่ได้ถ้ามันไม่เกิดขึ้นในฉับพลันด้วยตัวของมันเอง
ผมจะเข้าถึงสภาวะเช่นนั้นได้อย่างไร?
ตอบ กระจกไม่สามารถทำสิ่งใดเพื่อดึงดูดดวงอาทิตย์
มันได้แต่รักษาความสว่าง
เมื่อใดที่ใจพร้อม ดางอาทิตย์ก็จะฉายแสงอยู่ในมัน
ถาม แสงสว่างนั้นเป็นของตัวตนที่แท้ หรือเป็นของใจ?
ตอบ ทั้งสองอย่าง มันไร้ต้นตอ และไม่เปลี่ยนแปลงด้วยตัวของมัน และมีสีสันขึ้นด้วยใจ ในขณะที่มันเคลื่อนที่และเปลียนแปลง
มันเหมือนภาพยนตร์
แสงไม่ใช่ฟิล์ม แต่ฟิล์มให้สีต่างๆแก่แสง และทำให้มันดูเหมือนเคลื่อนที่โดยการบดบังมันเป็นช่วงๆ
ถาม ตอนนี้ท่านอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์แบบหรือเปล่า?
ตอบ ความสมบูรณ์แบบคือสภาวะของใจ เมื่อมันบริสุทธิ์
ฉันอยู่เหนือใจ ไม่ว่ามันจะมีสภาวะเช่นใด บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์
การตระหนักคือธรรมชาติของฉัน ท้ายที่สุดแล้ว ฉันอยู่เหนือการมีอยู่และไม่มีอยู่
ถาม การทำสมาธิจะช่วยให้ผมเข้าถึงสภาวะของท่านได้หรือเปล่า?
ตอบ การทำสมาธิจะช่วยให้เธอพบความยึดมั่นของเธอ คลายมันออก ปลดเปลื้องมัน และโยนเรือของเธอทิ้งไป
เมื่อเธอไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆเลย เธอได้ทำส่วนที่ต้องทำแล้ว
ส่วนที่เหลือจะถูกจัดการให้เธอเอง
ถาม โดยใครหรือ?
ตอบ โดยพลังเดียวกันกับที่นำเธอมาจนถึงตรงจุดนั้น อำนาจที่กระตุ้นหัวใจของเธอให้ต้องการเข้าถึงความจริง และกระตุ้นใจของเธอให้ค้นหามัน
มันคือพลังเดียวกันกับพลังที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่
เธออาจเรียกมันว่า ชีวิต หรือ ความสูงสุด
ถาม พลังเดียวกันนี้ฆ่าผมเมื่อถึงเวลาที่เหทาะสม
ตอบ เมื่อเธอเกิด เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอกหรือ?
เมื่อเธอตาย เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอกหรือ?
จงหาผู้ซึ่งอยู่ตรงนั้นตลอดเวลาให้พบ และเธอจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับการตอบสนองที่เกิดขึ้นเองและสมบูรณ์แบบได้
ถาม การลุถึงซึ่งความเป็นนิรันดร์ และการตอบสนองที่ไร้ความพยายามและเหมาะสมต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเกิดดับตลอดเวลา เป็นสองคำถามที่ต่างกันและแยกจากกัน
ดูเหมือนว่าท่านจะม้วนรวมมันเข้ามาเป็นเรื่องเดียวกัน
อะไรทำให้ท่านทำอย่างนั้น?
ตอบ การลุถึงซึ่งความเป็นนิรันดร์ คือ การกลายเป็นความเป็นนิรันดร์ ความเป็นหนึ่งเดียว จักรวาล รวมทั้งทุกอย่างที่อยู่ภายในนั้น
ทุกเหตุการณ์คือผลและการแสดงออกของความเป็นหนึ่งเดียว และมีอยู่อย่างกลมกลืนในพื้นฐานกับความเป็นหนึ่งเดียว
การตอบสนองทุกอย่างจากความเป็นหนึ่งเดียวจะถูกต้อง ไร้ความพยายาม และฉับพลัน
มันจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ถ้ามันถูกต้อง
การตอบสนองที่ล่าช้า คือการตอบสนองที่ผิด
ความคิด ความรู้สึก และการกระทำ ต้องเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมกันกับสถานการณ์ที่ทำให้มันเกิดขึ้น
ถาม แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ตอบ ฉันได้บอกเธอไปแล้ว
จงหาผู้ซึ่งอยู่ตรงนั้นตลอดเวลาทั้งตอนที่เธอเกิดและตอนที่เธอตายให้พบ
ถาม ท่านหมายถึงพ่อแม่ของผมหรือ?
ตอบ ใช่ พ่อ-แม่ของเธอ แหล่งที่มาของเธอ
ในการแก้ปัญหา เธอต้องสืบสาวไปจนถึงแหล่งที่มาของมัน
มีเพียงการละลายปัญหาลงในตัวทำละลายแห่งการสอบสวนและความปราศจากอคติของจักรวาลเท่านั้น ที่จะทำให้พบคำตอบที่ถูกต้อง
ศรี นิสาร์กะทัตตะ มหาราช
“I AM THAT”
ไม่มีความเห็น