คน ไม่ใช่ความจริงแท้


12. คน ไม่ใช่ความจริงแท้


ถาม  กรุณาเล่าให้เราฟังว่าท่านเข้าถึงความจริงแท้ – realized - ได้อย่างไร

ตอบ  ฉันพบครูของฉันเมื่ออายุ 34 และฉันเข้าถึงความจริงแท้ เมื่ออายุ 37

 

ถาม  เกิดอะไรขึ้น?  มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?

ตอบ  ความสุขและความทุกข์ไม่มีผลต่อฉันอีกต่อไป

ฉันเป็นอิสระจากความต้องการและความกลัว

ฉันพบความเต็มบริบูรณ์ภายใน ไม่ต้องการอะไร

ฉันเห็นว่าภายในมหาสมุทรแห่งความตระหนัก

บนผิวหน้าของการรู้ตัวแห่งจักรวาล

คลื่นจำนวนนับไม่ถ้วนของโลกแห่งปรากฏการณ์

เกิดขึ้นและดับไปอย่างไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีที่สิ้นสุด

ในฐานะของความรู้ตัว ทั้งหมดนั้นคือฉัน

ในฐานะของเหตุการณ์ ทั้งหมดนั้นเป็นของฉัน

มีพลังลึกลับอย่างหนึ่งดูแลสิ่งเหล่านั้นอยู่

พลังนั้นคือความตระหนัก ตัวตนที่แท้จริง ชีวิต พระเจ้า

หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เธอจะตั้งให้มัน

มันคือฐานราก คือสิ่งสนับสนุนสูงสุดที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทั้งหมด

เหมือนกับที่ทองเป็นพื้นฐานของเครื่องประดับทองทั้งหมด

และมันเป็นเราอย่างแนบสนิท

เครื่องประดับและทองอาจมีชื่อและรูปร่างต่างๆกันไป

จงเป็นอิสระจากชื่อและรูปร่าง และความต้องการและความกลัว ที่มันก่อให้เกิดขึ้น

แล้วจะเหลืออะไรเล่า?

 

ถาม  ไม่เหลืออะไรเลย

ตอบ  ใช่ เหลือแต่ความว่างเปล่า แต่เป็นความว่างเปล่าที่เต็มปริ่ม

มันเป็นศักยภาพนิรันดร์ เช่นเดียวกับที่การรู้ตัวเป็นความเป็นจริงนิรันดร์

 

ถาม  คำว่า ศักยภาพ ท่านหมายถึงในอนาคต ใช่ไหม?

ตอบ  อดีต ปัจจุบัน และอนาคต – มันอยู่ที่นั่นทั้งหมด และมีอีกมากมายไม่สิ้นสุด

 

ถาม  แต่ความว่างเปล่า คือความว่างเปล่า มันไม่มีประโยชน์อะไรต่อเรา

ตอบ  เธอพูดอย่างนั้นได้อย่างไร?

ถ้าไม่มีลมหายใจในความต่อเนื่อง จะมีการเกิดใหม่ได้อย่างไร?

ถ้าไม่มีการตาย จะมีการเริ่มใหม่ได้อย่างไร

แม้ความมืดแห่งการหลับก็ยังทำให้สดชื่นและกระปรี้กระเปร่า

ถ้าไม่มีความตาย เราคงจมดิ่งอยู่อยู่ในความแก่ชราไม่สิ้นสุด

 

ถาม  แล้วไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความอมตะหรือ?

ตอบ  เมื่อเห็นว่าชีวิตและความตายเป็นสิ่งจำเป็นต่อกันและกัน

เหมือนเป็นสองแง่มุมของสิ่งเดียวกัน

นั่นคือความอมตะ

การเห็นจุดจบในการเริ่มต้น และเห็นการเริ่มต้นในจุดจบ

นั่นคือการแจ้งในความเป็นนิรันดร์

แน่นอนว่า ความอมตะ ไม่ใช่ความต่อเนื่อง

มีเพียงกระบวนการของความเปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่ดำเนินไป

ไม่มีสิ่งใดจีรัง

 

ถาม  ความตระหนักเป็นนิรันดร์หรือ?

ตอบ  ความตระหนักไม่ขึ้นกับเวลา เวลามีอยู่ในการรู้ตัวเท่านั้น

เหนือการรู้ตัว เวลาและความว่างจะอยู่ที่ไหน?

 

ถาม  ภายในพื้นที่ของการรู้ตัว ร่างกายอยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน

ตอบ  แน่นอน แต่แนวคิดว่า “ร่างกายของฉัน” เป็นส่วนที่แปลกแยกจากร่างกายของคนอื่น จะไม่อยู่ที่นั่น

สำหรับฉัน มันเป็นแค่ “ร่างกาย” ไม่ใช่ “ร่างกายของฉัน”

เป็นแค่ “ใจ” ไม่ใช่ “ใจของฉัน”

ใจจะดูแลร่างกายอนู่แล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องเข้าไปสอดแทรก

สิ่งที่จำเป็นต้องทำจะถูกทำเรียบร้อยแล้ว ในวิถีทางที่เป็นปกติและเป็นธรรมชาติ

เธออาจไม่ค่อยรู้ว่าร่างกายของเธอทำงานอย่างไร

แต่ถ้าเป็นเรื่องความคิดและความรู้สึก ความต้องการและความกลัว

เธอจะรับรู้มันได้อย่างชัดเจนมาก

สำหรับฉัน สิ่งเหล่านี้ไม่อยู่ในความรู้ตัวของฉัน

ฉันพูดคุยกับคน หรือทำสิ่งต่างๆอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยไม่ไหลตามมัน

มันดูเหมือนฉันมีชีวิตทางกายภาพที่ตื่นรู้โดยอัตโนมัติ

มีปฏิกิริยาอย่างฉับพลันและแม่นยำ

 

ถาม  การตอบสนองที่เป็นไปเองนี้เป็นผลมาจากการเข้าถึงความจริงแท้ หรือจากการฝึกฝน?

ตอบ  ทั้งสองอย่าง ความซื่อสัตย์ต่อเป้าหมายทำให้เราดำรงชีวิตอย่างสะอาดและเป็นระเบียบ

เพื่อค้นหาความจริงและช่วยเหลือผู้คน

และการเข้าถึงความจริงแท้ ทำให้การเข้าถึงคุณธรรมขั้นสูงเป็นไปได้ง่ายและไม่ต้องใช้ความพยายาม

โดยการกำจัดอุปสรรคในรูปของความต้องการและความกลัว และความเห็นผิดออกไปโดยสิ้นเชิง

 

ถาม  ท่านไม่มีความต้องการหรือความกลัวเหลืออยู่เลยหรือ?

ตอบ  ชะตาชีวิตของฉันคือการเกิดเป็นคนที่มีชีวิตเรียบง่าย เป็นคนธรรมดา

เป็นพ่อค้าเล็กๆคนหนึ่ง มีการศึกษาเพียงน้อยนิด

ชีวิตของฉันเป็นแบบธรรมดา มีความต้องการและความกลัวแบบธรรมดา

ด้วยความศรัทธาในครูของฉัน และความเชื่อฟังในคำสอนของท่าน ฉันจึงเข้าถึงธรรมชาติเดิมแท้

ฉันทิ้งธรรมชาติความเป็นคนไว้เบื้องหลัง ให้มันดูแลตัวเอง จนกว่าชะตาของมันจะสิ้นสุดลง

บางครั้งบางคราว ปฏิกิริยาเดิมๆ ทั้งทางอารมณ์และทางจิตใจ อาจเกิดขึ้นภายในใจ

แต่มันก็จะถูกสังเกตเห็นโดยทันทีและทิ้งไป

ตราบใดที่คนเรายังแบกอัตตาตัวตนไว้

ก็ยังตกอยู่ในอิทธิพลของตัวตนและนิสัยเดิมๆ

 

ถาม  ท่านไม่กลัวความตายหรือ?

ตอบ  ฉันตายอยู่แล้ว

 

ถาม  ในแง่ไหน?

ตอบ  ฉันตายซ้ำสอง ไม่เพียงแค่ตายต่อร่างกาย แต่ต่อใจด้วย

 

ถาม  แต่ท่านไม่ได้ดูว่าตายตรงไหนเลย!

ตอบ  นั่นเป็นสิ่งที่เธอพูด เธอดูจะรู้จักสภาวะของฉันดีกว่าตัวฉันเองซะอีก

 

ถาม  ขอโทษครับ แต่ผมไม่เข้าใจเลย

ท่านบอกว่าท่านไม่มีร่างกาย ไม่มีใจ แต่ผมก็เห็นท่านมีชีวิตอย่างชัดแจ้ง

ตอบ  ในสมองและร่างกายของคุณมีงานที่ซับซ้อนจำนวนมากมายเกิดขึ้นตลอดเวลา

คุณรู้ตัวหรือเปล่า? เปล่าเลย

แต่สำหรับคนนอก ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างชาญฉลาดและอย่างมีเป้าหมาย

ทำไมเธอไม่ยอมรับว่าชีวิตส่วนตัวทั้งหมดของเธอ ส่วนใหญ่อาจจมอยู่ภายใต้ธรณีประตูแห่งการรู้ตัว

แต่ก็ยังดำเนินไปอย่างมีเหตุผลและราบรื่น?

 

ถาม  นั่นเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?

ตอบ  ปกติคืออะไร? ชีวิตของเธอ – ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับความต้องการและความกลัว

เต็มไปด้วยการต่อสู้และฝ่าฟัน ไร้ความหมาย ไร้ความเบิกบาน – นั่นหรือที่ว่าปกติ?

การมีสติรู้ตัวอย่างเต็มเปี่ยมต่อร่างกายเธอ-นั้นปกติหรือ?

การถูกทำร้ายด้วยความรู้สึก ถูกทรมานด้วยความคิด – นั่นปกติหรือ?

ร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์มีอยู่โดยที่ผู้เป็นเจ้าของแทบจะไม่รู้เห็นเลย

มีเพียงบางครั้ง เมื่อเกิดความเจ็บปวด หรือไม่สบาย

มันจึงจะได้รับความสนใจและความเข้าใจอย่างถ่องแท้

ทำไมจึงไม่ขยายสิ่งนี้ออกไปจนครอบคลุมทั้งชีวิตของผู้คน?

บุคคลสามารถทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง ตอบสนองอย่างดี และเต็มที่กับทุกอย่างที่เกิดขึ้น

โดยไม่ต้องนำมันมาเป็นจุดสนใจของการตระหนัก

เมื่อการควบคุมตัวเองกลายเป็นธรรมชาติที่สองของเธอ

การตระหนักจะเลื่อนจุดสนใจของมัน

ไปสู่ระดับของการมีอยู่และการกระทำที่ลึกมากขึ้น

 

ถาม  ท่านจะไม่กลายเป็นหุ่นยนต์ไปหรือ?

ตอบ  การทำให้สิ่งที่ทำอยู่แล้วเป็นนิสัยและซ้ำซากเป็นอัตโนมัติ มันมีอันตรายตรงไหน?

ยังไงมันก็เป็นอัตโนมัติอยู่แล้ว

แต่สิ่งนี้มันมีความวุ่นวายสับสนเป็นลักษณะ ทำให้เกิดความเจ็บปวดและทุกข์

และเรียกร้องความสนใจของเธอ

วัตถุประสงค์ทั้งหมดของชีวิตที่สะอาดและเป็นระเบียบคือ การทำให้มนุษย์เป็นอิสระ

ความเป็นทาสของความวุ่นวายสับสนและการแบกรับความเศร้าโศก

 

ถาม  ดูเหมือนท่านจะชอบชีวิตที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์

ตอบ  แล้วชีวิตที่เป็นอิสระจากปัญหามันไม่ดีตรงไหน?

บุคลิกภาพเป็นแค่ภาพสะท้อนของความจริง

แล้วทำไมภาพสะท้อนจึงไม่ซื่อสัตย์ต่อความจริงเดิมด้วยความเป็นอัตโนมัติล่ะ?

บุคคลจำเป็นต้องมีรูปแบบจำเพาะของตัวเองด้วยหรือ?

ชีวิตของสิ่งที่ก่อเกิดภาพสะท้อนนี้จะนำทางมันเอง

เมื่อเธอตระหนักว่าบุคคลเป็นเพียงแค่เงาของความจริงแท้ แต่ไม่ใช่ความจริงแท้

เธอจะหยุดกลุ้มและกังวลใจ

เธอจะยินยอมให้ความจริงแท้ภายในนำทางเธอ

และชีวิตจะกลายเป็นการเดินทางไปสู่สิ่งที่ไม่มีใครรู้จัก

 

ศรี นิสาร์กะทัตตะ มหาราช

“I AM THAT”

 

หมายเลขบันทึก: 630775เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2017 17:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม 2017 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท