3. ปัจจุบันขณะ


3. ปัจจุบันขณะ


ถาม ตามความคิดของผม ไม่มีอะไรผิดเกี่ยวกับร่างกายของผม หรือธรรมชาติเดิมของผม

ทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้เกิดจากผม และไม่ต้องทำให้มันดีไปกว่านี้

สิ่งที่ผิดคือภายในของผม หรือที่เรียกว่าใจ หรือสติ หรืออื่นๆ

ตอบ เธอคิดว่ามีอะไรผิดเกี่ยวกับใจของเธอหรือ?


ถาม มันไม่อยู่นิ่ง ไขว่คว้าแต่สิ่งที่ชอบ และหลีกหนีสิ่งที่ไม่ชอบ

ตอบ แล้วมันผิดอะไรกับการไขว่คว้าหาสิ่งที่ชอบและหลีกหนีสิ่งที่ไม่ชอบ?

ระหว่างสองฟากฝั่งแห่งความเจ็บปวดและความเพลิน แม่น้ำแห่งชีวิตไหลผ่านไป

เมื่อใจปฏิเสธที่จะไหลตามชีวิต และยึดติดอยู่กับฝั่ง เมื่อนั้นปัญหาจึงเกิดขึ้น

การไหลตามชีวิต เราหมายถึงการยอมรับ – สิ่งที่เกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น สิ่งที่ผ่านไปก็ปล่อยให้มันผ่านไป

ไม่ต้องการสิ่งใด ไม่กลัวสิ่งใด สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมันเกิดขึ้นอย่างที่มันเป็น เพราะเธอไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น เธอคือผู้เฝ้าดูเฝ้ารู้

และท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่ผู้รู้นี้ก็ไม่ใช่เธอ

เธอคือศักยภาพสูงสุดซึ่งแสดงตัวออกมาในรูปของธรรมชาติรู้ (สติ) อันไร้ขอบเขต


ถาม แม้เช่นนั้น ระหว่างร่างกายและธรรมชาติเดิม ยังมีเมฆหมอกแห่งความคิดและอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งไม่ได้เป็นของทั้งร่างกายและธรรมชาติเดิม

ความคิดและอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ล้วนบอบบาง เกิดขึ้นชั่วขณะ และไร้ความหมาย เป็นแค่ผงฝุ่นทางใจที่ทำให้ตามัวและสำลัก แต่มันก็อยู่ที่นั่น ทำให้มืดมนและทำลายล้าง

ตอบ แน่นอน ความทรงจำเหตุการณ์ในอดีต ความคาดหวังเหตุการณ์ในอนาคต ย่อมเกิดมีขึ้น

แต่มันมีบางอย่างซึ่งพิเศษ และเป็นเอกลักษณ์ สำหรับเหตุการณ์ในปัจจุบันขณะ ซึ่งเหตุการณ์ในอดีตหรือในอนาคตไม่มี

นั่นคือความมีชีวิต ความเป็นจริง ความเปล่งประกายโดดเด่น

เป็น “ตราประทับแห่งความเป็นจริง” ที่อดีตและอนาคตไม่มี


ถาม อะไรที่ทำให้เกิด “ตราประทับแห่งความเป็นจริง” สำหรับปัจจุบันขณะ?

ตอบ อันที่จริงไม่ได้มีอะไรพิเศษสำหรับเหตุการณ์ในปัจจุบันที่ทำให้มันแตกต่างจากอดีตและอนาคต

ในชั่งขณะหนึ่ง อดีตคือความเป็นจริงและอนาคตก็เช่นกัน

อะไรทำให้ปัจจุบันขณะพิเศษและแตกต่าง?

คำตอบคือ การมีอยู่ของเรา

เรามีอยู่จริง เพราะเราคือปัจจุบันเสมอ อยู่ในปัจจุบัน และสิ่งที่อยู่กับเราในขณะนี้ มีส่วนร่วมในความเป็นจริงของเรา

อดีตอยู่ในความจำ อนาคต – อยู่ในจินตนาการ

ไม่มีอะไรในเหตุการณ์ปัจจุบันที่จะทำให้มันโดดเด่นออกมาว่าเป็นจริง

มันอาจมีอยู่แค่เป็นช่วงๆ เหมือนนาฬิกาตีบอกเวลา

แม้เราจะรู้ว่าการตีแต่ละครั้งนั้นเหมือนกัน แต่เสียงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันย่อมแตกต่างจากเสียงที่เพิ่งผ่านไปและเสียงที่กำลังจะเกิดขึ้น – ในลักษณะของความจำ และความคาดหวัง

สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอยู่กับเรา เพราะเราเป็นปัจจุบันเสมอ มันเป็นความจริงของเรา และเรามอบมันให้กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน


ถาม แต่เรามักคิดถึงสิ่งที่เราจำได้เหมือนกับมันเป็นจริง

ตอบ เราจะคิดถึงความจำก็ต่อเมื่อมันเข้ามาอยู่ในปัจจุบัน

สิ่งที่เราลืมเราจะไม่เอามาคิดจนกว่าจะมีสิ่งมาเตือนความจำ – ซึ่งก็คือมันถูกนำเข้ามาอยู่ในปัจจุบัน


ถาม จริงครับ ผมเข้าใจแล้วว่ามีปัจจัยบางอย่างในปัจจุบันขณะที่ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดแล้วดับไปในอดีตกลับมาเสมือนเป็นปัจจุบัน ซึ่งก็เกิดแล้วดับไปเช่นกัน

ตอบ สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่เกิดจนตาย มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง สิ่งต่างๆและความคิดเปลี่ยนแปลงไป แต่ความรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันขณะเป็นสิ่งมีอยู่จริงนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้แต่ในความฝัน


ถาม เวลาหลับสนิท จะไม่มีประสบการณ์ความเป็นจริงของปัจจุบันขณะ

ตอบ ความว่างเปล่าเวลาหลับสนิทเกิดจากการไม่มีอยู่ของความจำเฉพาะเรื่อง

แต่ความจำทั่วไปของการดำรงอยู่ยังคงมี

มีความรู้สึกที่แตกต่างกันนะ เวลาพูดว่า “ฉันหลับสนิท” และ “ฉันไม่มีอยู่”


ถาม ขอทบทวนคำถามในตอนต้นอีกครั้ง – ระหว่างแหล่งกำเนิดของชีวิต และการแสดงออกของชีวิต มีสิ่งที่เรียกว่า ใจ ซึ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

การเปลี่ยนแปลงของใจเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นสาย ไม่มีที่สิ้นสุด ไร้ความหมาย และเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ความเจ็บปวดคือปัจจัยที่คงที่

สิ่งที่เราเรียกว่าความสุข เป็นแค่ช่องว่างระหว่างสภาวะความเจ็บปวด

ความปรารถนาและความกลัวเป็นความวิปริตแปรปรวนในการถักทอของผืนผ้าแห่งชีวิต และทั้งคู่เกิดจากความเจ็บปวด

คำถามของผมก็คือ – เราจะสามารถมีใจที่มีความสุขได้หรือไม่?

ตอบ ความปรารถนาคือความทรงจำของความสุข และความกลัวคือความทรงจำของความเจ็บปวด

ทั้งสองอย่างนี้ทำให้ใจกระสับกระส่าย

ชั่วขณะแห่งความสุข เป็นแค่ช่องว่างในกระแสแห่งความเจ็บปวด

แล้วใจจะมีความสุขได้อย่างไร?


ถาม นั่นเป็นความจริงเมื่อเราปรารถนาความสุขหรือคาดหวังความเจ็บปวด

แต่มันมีช่วงเวลาของความสุขที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้คาดคิด 

เป็นความสุขอันบริสุทธิ์ ปราศจากความปรารถนา – ไม่ได้ขอ ไม่ได้ควรแก่การเกิด ได้มาจากพระเจ้า

ตอบ อย่างไรก็ดี ความสุขก็คือความสุขที่เกิดขึ้นโดยมีความเจ็บปวดเป็นฉากหลัง


ถาม ความเจ็บปวดเป็นความจริงของจักรวาล หรือเป็นสภาวะทางใจล้วนๆ?

ตอบ จักรวาลสมบูรณ์อยู่แล้ว และในที่ที่สมบูรณ์ ไม่มีสิ่งใดขาด จะมีอะไรที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นมาได้?


ถาม จักรวาลอาจสมบูรณ์ในภาพรวม แต่ในรายละเอียดมันอาจไม่สมบูรณ์ก็ได้

ตอบ ส่วนเสี้ยวของทั้งหมดที่เห็นโดยเทียบกับทั้งหมดก็สมบูรณ์เช่นกัน

แต่เมื่อเห็นในลักษณะที่แยกออกมาจากทั้งหมด มันจึงจะไม่สมบูรณ์ และกลายเป็นที่เกิดของความเจ็บปวด

อะไรทำให้เกิดความแปลกแยกนี้?


ถาม แน่นอนว่าคำตอบคือขีดจำกัดของใจ

ใจไม่สามารถเห็นทั้งหมดเมื่อมันเป็นแค่เสี้ยวส่วน

ตอบ ใช้ได้ โดยธรรมชาติของใจ มันแบ่งแยกและต่อต้าน

เป็นไปได้ไหมที่จะมีใจอื่นซึ่งหลอมรวมและกลมกลืน ซึ่งมองเห็นทั้งหมดในเสี้ยวส่วนและเห็นเสี้ยวส่วนว่าสัมพันธ์กับทั้งหมด?


ถาม ใจอื่นนี้ – จะหามันพบได้ที่ไหน?

ตอบ ไปเหนือใจซึ่งมีขีดจำกัด แบ่งแยก และต่อต้าน

หยุดกระบวนการทางใจแบบที่เธอเคยรู้

เมื่อมันสิ้นสุดลง ใจอื่นจะเกิดขึ้น


ถาม ในใจนั้น ปัญหาของความสุขและความเศร้าจะไม่มีอยู่อีกต่อไปใช่ไหม?

ตอบ มีอยู่ แต่ไม่ใช่ในลักษณะที่เธอรู้จัก ว่าเป็นสิ่งที่น่าปรารถนาหรือผลักไส

มันกลายเป็นคำถามของการแสดงออกซึ่งการแสวงหาความรักและการพบกับอุปสรรค

ใจที่เปิดกว้างนี้คือการดำเนินการของความรัก ต่อสู้กับสถานการณ์ ช่วงแรกจะเครียดและผิดหวัง แต่ได้ชัยชนะในที่สุด


ถาม ระหว่างจิตวิญญาณและร่างกาย มีความรักเป็นสะพานใช่ไหม?

ตอบ จะมีสิ่งใดอีกเล่า? ใจสร้างหุบเหวแห่งความแบ่งแยก หัวใจข้ามมันได้



หมายเลขบันทึก: 630554เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2017 23:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน 2017 23:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท