ขณะที่ผมพยายามปรับความรู้สึกเพื่อทำสื่อนำเสนออะไรบางอย่าง ปัญหาที่ผมคิดคือ ผมจะเสนออะไรให้ผู้ฟังเข้าใจในเวลาที่จำกัดแบบสั้นๆ ผมคลาย (ไม่ใช่ผ่อนคลาย) ความคิดนั้นด้วยการไปเปิด youtube ฟังจากคอนเสริ์ตของคาราวานที่มีน้าหงาและน้ามงคล อุทก และมาหยุดอยู่ที่คอนเสริ์ตหนึ่งก้าว 60 ของน้าพงษ์เทพ ตอนหนึ่งน้าหมูพูดถึงคนที่รอฟังเพลงสุดท้าย คำว่า "เพลงสุดท้าย" ตราขึ้นบนความคิด ที่ผนวกกับ (๑) ถ้าวันนี้ศิลปินตลอดถึงนักสร้างฝันเพื่อสังคมทั้งหลาย (หมายรวมถึงนักวิชาการด้วย) กำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ใกล้ตาย เขาจะทำอะไร เป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่เขาจะหยุดลมหายใจสุดท้าย (๒) ในวันหนึ่งๆ เราพบเจอกับสิ่งที่เข้ามากระทบความรู้สึกของเรามากมาย ทั้งพึงพอใจและไม่พึงพอใจ ถ้าเราคิดว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา เราจะมีท่าทีอย่างไรกับความพึงพอใจและไม่พึงพอใจนั้น
เพลงสุดท้ายฉันหวังว่าใจฉันจะว่างเปล่า สูญสิ้นความเหงาความโศกเศร้าโหยหาอาดูร ปล่อยและวางความคาดหวังความชิงชังให้มันสิ้นสูญ วางความรักความพอกพูนกันและกันให้มันผ่านไป แด่ชีวิตผ่าน..ลมฟ้าม่านเหมือนนานมากนัก ร้อนและหนาวคอยชี้ชักมานานแค่ไหน คำว่านานอาจชั่วครู่ผลรวมของลมหายใจ นานคืออะไรหยุดลมหายใจจะคือตำนาน สิ่งสุดท้ายอาจไม่ใช่อย่างที่ใจคิด เมื่อชีวิตจำถูกปิดสิ้นเพลงขับขาน สูญสิ้นท่าร่ายรำฝึกฝนสะสมใส่โตกใส่พาน คือสิ่งใดของวันวานจะเสาะค้นดูจะรู้จะเห็น เพลงสุดท้ายความหวังของใจจะมีหรือเปล่า อาจเต็มล้นความเหงาเศร้าโหยหาอาดูรทุกข์เข็ญ เคยอุ้มฟ้าอุ้มน้ำปกปักรักกูมาอย่างยากเย็น หลับตาน้ำตากระเซ็นเพลงสุดท้ายของหัวใจเจ้าเอยฯ
๕/๒๙/๒๕๖๐
๑๑:๒๖
ไม่มีความเห็น