๕๔๔. ปรับวิธีเรียน..เปลี่ยนวิธีสอน..


ผมบอกครูว่า..ถึงเวลาแล้ว..ที่ครูต้องใช้..บทบาทสมมุติ ใช้ละครสั้น..มาใช้ในการเรียนการสอน โดยศึกษาเนื้อหากิจกรรมก่อนสอน สร้างสถานการณ์ให้เด็กได้เคลื่อนไหว..ทั้งร่างกายและสมอง

ช่วงนี้..กำลังฮิต PLC...ผมคิดเอาเองว่า..ผมนี่แหละ PLC ตัวจริง เพราะผมคุยกับครูทุกคนทุกวัน..เพื่อแก้ปัญหาการเรียนการสอน..คุยกันแบบไม่เป็นทางการ แต่สามารถแก้ปัญหาได้ทันที..

เพราะผมเป็นคนช่างสังเกต..ช่างพูดช่างคุย..และมีความกล้าทางวิชาการ อันเกิดจากอ่านหนังสือ ตลอดจนผ่านประสบการณ์การสอนมาบ้างพอสมควร..

หรือเป็นเพราะ..ผมจบ ป.โท..ด้านการประถมศึกษาก็อาจเป็นได้ เรื่องราววิธีสอนในโรงเรียนประถมขนาดเล็ก จึงค่อนข้างชัดเจน พูดแนะนำใคร ก็ทำได้เต็มปาก..

จึงพยายามทำให้ดูอยู่ให้เห็น..ใครไม่เห็น..เด็กก็เห็น ก็ถือว่าได้อานิสงส์เหมือนกัน และผมก็สอนทุกวัน..มากบ้างน้อยบ้าง..ก็ขึ้นอยู่กับการแบ่งเวลาของผม....

วันนี้มีโอกาสสอน ป ๔..ก่อนลงมือสอน ก็ให้เด็กนั่งสมาธิ..จากนั้นก็นำเข้าสู่กิจกรรมด้วยเพลง ให้นักเรียนร้องเพลงแล้วปรบมือ..วิธีง่ายๆ ที่ต้องการให้เด็กนิ่ง และรวมศูนย์กลางความสนใจไว้ที่การเรียนรู้..

ขณะที่สั่งสอน..ผมก็สอดแทรกการอบรมเข้าไปด้วย..ย้ำเตือนนักเรียนเสมอว่า..หมดชั่วโมงควรเข้าห้องน้ำ..ไม่ควรออกนอกห้องเรียนกลางคัน..ยกเว้นจำเป็นจริงๆ

ขณะที่เรียนทางไกลDLTVกับวังไกลกังวล (ครูตู้)..อย่านิ่งเฉยเกินไป จะทำให้บรรยากาศไม่น่าสนใจ..นักเรียนควรกระตือรือร้น และพร้อมด้านอุปกรณ์.. ดังนั้นขอให้นักเรียนปรับใหม่..

เมื่อครูตู้ถามอะไร..ให้ตอบดังๆ ชัดถ้อยชัดคำ ให้ครูและเพื่อนได้ยิน..จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว ซึ่งครูตู้ต้นทาง มักจะถามนักเรียนว่า..”เรียบร้อยหรือยังคะ”

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“เขียนวันที่เสร็จหรือยังคะ”

“เสร็จแล้วค่ะ”

ตอนบ่าย..ขอพบนักเรียน ป.๖..พร้อมครูประจำชั้น..ที่ชอบบ่นว่า นักเรียนไม่ชอบพูดอภิปรายและขาดภาวะผู้นำ..ผมจึงต้องอธิบาย ให้เข้าใจบ่อเกิดของปัญหา..ให้ฟังพร้อมกันทั้งครูและนักเรียน..

ปัญหาครู..คือครูไม่ใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย หมายความว่า ใช้ให้ตรงธรรมชาติของเนื้อหาและกิจกรรม และตรงตามความสนใจของผู้เรียน..

เข้าใจได้ว่า..ภาระงานครูมีมากมาย และครูก็มักจะไม่ศึกษาเพิ่มเติม ขาดการเก็บข้อมูล ใช้แต่นวัตกรรมและพะวงแต่จะก้าวไปข้างหน้า..จนลืมไปว่า..ที่ก้าวผ่านมา ก้าวข้ามผ่านของดีมาเยอะแยะ..

ปัญหานักเรียน..รับฟังแต่คำสั่ง..ตอบผิดไม่ได้ ขาดโอกาสที่จะพูด ไม่มีเวทีให้พูดอภิปราย..และท้ายที่สุด..นักเรียนก็มักจะวัดคุณค่าตัวเอง..ที่คะแนน..และคิดแต่ว่า..ตัวเองเรียนไม่ได้เรื่อง..

ผมบอกครูว่า..ถึงเวลาแล้ว..ที่ครูต้องใช้..บทบาทสมมุติ ใช้ละครสั้น..มาใช้ในการเรียนการสอน โดยศึกษาเนื้อหากิจกรรมก่อนสอน สร้างสถานการณ์ให้เด็กได้เคลื่อนไหว..ทั้งร่างกายและสมอง

มีวิธีการสอนมากมายที่ใช้แล้วได้ผล..แต่วิธีนี้ง่ายสุด ไม่ต้องลงทุนมาก เด็กชอบ เพราะเรียนแล้วสนุกสนาน จะทำให้เด็กกล้าพูดกล้าคิดและกล้าแสดงออก..เป็นตัวของตัวเอง ช่วยปรับปรุงวิธีคิดและสร้างบุคลิกใหม่ได้..ที่ผ่านมา..เด็กผ่านกระบวนการท่องจำจนคุ้นชิน..

ผมพูดจบ..ครูและนักเรียนนั่งอมยิ้ม..ผมรู้ว่าครูเห็นด้วย..นักเรียนเองก็ชอบ..แต่ไม่กล้าบอกครู..

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐

หมายเลขบันทึก: 628807เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2017 20:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2017 20:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ที่ไหน ๆ ก็คงใช้ plc ได้ผลแน่ๆ

ยกเว้นที่บ้านฉันนั้น " พี แอล ซี้...." จ้าา

ผอ.ทำเรื่องนี้มานานแล้ว

ปรับเปลี่ยนวิธีสอนให้นักเรียนเสมอ

มาชื่นชม

มีโอกาสจะหาคุณครูไปแลกเปลี่ยนด้วยครับ

เอามาฝากจ้าาา ไม่ทราบว่า เป็นการปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอนไหมเนาะ ?





พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท