K II
มังกรนิทรา- คนเก่งฟ้าประทาน

สวัสดีคุณครู


" สวัสดี คุณครู "

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายหน้าที่ ให้เป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์ "ครูผู้ช่วย"ที่มีการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ และนี่คือสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากการเป็นบุคคลภายนอกที่ได้เข้ามา ทำหน้าที่พูดคุย สอบถามว่าที่แม่พิมพ์ของชาติ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที …

1) เรียนและงาน : ผู้สมัครหลายคนเพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ไม่มีประสบการณ์การทำงานเลย บางคนเป็นลูกจ้าง พนักงานของรัฐ ผ่านการทำงานมาแล้ว พวกเขาต่างรอคอยการ เป็น ตัวจริง ด้วยกันทุกคน การสอบครั้งนี้ คือโอกาสที่สำคัญในชีวิต
2) หนึ่งในร้อย : ในสนามสอบของจังหวัด มีผู้เข้าสอบประมาณ 5000 คน รับประมาณ 100 คน บางสาขาวิชารับแค่คนเดียว ผู้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ต้องสอบผ่าน แต่ละภาควิชา ร้อยละ 60
3) จำขึ้นใจ : แม้ยุคสมัยเปลี่ยนไป คนใน generation หลังๆ ก็ยังคง มุ่งมั่นในการสมัครเข้ามาทำงานเป็นข้าราชการ ด้วยเหตุผลและองค์ประกอบหลายๆ อย่าง การได้ทำงานเป็นข้าราชการ ได้ทำภาระหน้าที่ที่สำคัญ คือ ความภาคภูมิใจในชีวิต มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี มีหน้ามีตาทางสังคม รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่า รัฐมี สวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล บำนาญเมื่อเกษียณอายุ เหมือนที่มีคนบอกว่า งานข้าราชการนั้น เหมือน น้ำซึมบ่อทราย
4) คิดถึงวิทยา : "การเป็นครูมันไม่ใช่แค่การสอนหนังสือจริงๆ นะ”
5) สายโลหิต : ผู้เข้าสอบบางคนพ่อแม่เป็นครู การส่งต่อความเป็นครู สืบทอดผ่านทางสายเลือดได้ มีผู้เข้าสอบหนึ่งท่านเลือกเรียนสาขาวิชา ที่พ่อแม่ ตนเองสอนอยู่ และมาสอบเพื่อจะได้เป็นครู เหมือนพ่อแม่ สอนวิชาเดียวกับพ่อแม่สอน (ขนลุก)
6) พรหมลิขิต : ผู้เข้าสอบบางคนเป็น ลูกสะไภ้ครู มาสอบในสาขาวิชา ที่แม่สามีสอนอยู่ ซึ่งก็แสดงว่า ลูกชาย ก็เลือกภรรยา โดยอ้างอิงแม่ เป็น reference. ในขณะที่ ผู้เข้าสอบบางคน มาสอบสนามนี้ เพราะมีคนรัก มีภูมิลำเนาที่นี่ เวลานี้หมั้นหมาย เพาะบ่มความรักจนสุกงอม สิ้นปีนี้ จะแต่งงานแล้ว ถ้าสอบได้ คือ การมาลงหลัก ปักแหล่ง และเริ่มต้นชีวิตคู่ ประธานกรรมการสอบสัมภาษณ์ หันมาบอกผมว่า “ความรักทำให้คนเราทำอะไรก็ได้ ” (โรแมนติก !)
7) วันแรกเจอเลย : ประธานกรรมการในการสอบสัมภาษณ์ จะถามเพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้เข้าสอบสัมภาษณ์ ได้แนะนำตัว บอกเล่าประวัติส่วนตัว ประวัติการเรียน-การทำงาน. ในสาขาวิชาที่สอบสัมภาษณ์ ผู้เข้าสอบเป็นสุภาพสตรีเกือบทั้งหมด ทำให้นึกถึงคำพูดของ เจ้าหน้าที่ที่สำนักงาน บอกผมก่อนจะมาทำหน้าที่นี้ ว่า “หมอ ตำรวจแถวบ้านผมก็แบบนี้ล่ะ มีครูสอบใหม่จะไปบรรจุ มาปั้มลายนิ้วมือที่สถานีตำรวจ ทุกวันนี้ ปั้มกันจนลูกสอง สามคนแล้ว” การเจอกันครั้งเดียวก็เพียงพอให้จดจำไปตลอดชีวิต
8) โสด กระปริบกระปรอย : ผู้เข้าสอบหลายท่านบอกสถานภาพว่า ยังโสด คือบอกกรรมการว่า “โสด” แต่หลังจากลงมาจากตึก ทำไมแฟนมารับกลับบ้าน ?? (การบอกสถานภาพว่าโสด หรือสมรส ไม่มีผลต่อการให้คะแนน) บอกความจริงจะดีกว่า กรรมการก็จะได้ไม่คาดหวังอะไร
9) คืนความสุขประเทศไทย –กรรมการสอบสัมภาษณ์ มีทั้งหมด 3 ท่าน ผ่านการจับสลาก มาเจอกันโดยมิได้นัดหมาย ผมได้รับมอบหมายในการถามคำถามที่แสดง ปฏิภาณไหวพริบ หนึ่งในคำถามที่ถามทุกคน คือ “คุณรู้จักนโยบายไทยแลนด์ 4.0 หรือไม่ แล้วครูในยุคไทยแลนด์ 4.0 ควรเป็นอย่างไร” ผู้เข้าสอบหลายคนตอบได้ตรงประเด็น และหลายคนตอบไม่ตรงคำถาม บางคนไม่รู้จัก นโยบายนี้เลย ซึ่งก็สะท้อน ถึงความรอบรู้รอบตัวของผู้เข้าสอบเอง รวมถึง การประชาสัมพันธ์นโยบายนี้ของลุงตู่ อาจจะยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร (ค่ำๆวันศุกร์คนชอบปิดโทรทัศน์กัน)
10) พระคุณที่ 3 : กรรมการอีกท่าน จะถามคำถามเกี่ยวกับ เจตคติต่อวิชาชีพ ถามถึงแรงบันดาลใจการมาเป็นครู “ทำไมถึงอยากเป็นครู” ทุกคนตอบคำถาม ไปในทิศทางเดียวกัน คือมีความประทับใจต่อครู ที่สอนหนังสือมาในวัยเด็ก สมัยเรียนหนังสือมีครู เป็น idol ทำให้อยากทำงานด้านนี้ ฟังแล้วดีต่อใจ แม้จะเป็นคำตอบที่ผ่านการตระเตรียม มาแล้ว ก็ทำให้คนฟังรู้สึกดี inspire ๆ
11) ปราสาททราย : ผู้เข้าสอบสัมภาษณ์ ส่วนมากจะทำแผ่นพับแนะนำตัว เกือบทุกคน มีอยู่ท่านหนึ่ง บอกไว้ในแผ่นพับว่า ชอบการอ่านและการเขียนหนังสือ ผมเลยให้บอกหนังสือที่ชอบ มาหนึ่งเล่มพร้อมเล่ารายละเอียดของเรื่อง พอสังเขป หญิงสาวตอบว่า ชอบหนังสือชื่อ “ก่อกองทราย” ของ “ไพฑูรย์ ธัญญา” (หนังสือรางวัลซีไรท์ ปี 2530) หลังจากนั้น เธอก็ปล่อยพลัง ในการถ่ายทอด เนื้อหา ใจความสำคัญของหนังสือ และยังปล่อยหมัดเด็ด ด้วยการ เปรียบเทียบ การเมือง การปกครองของไทย กับการ ก่อปราสาททรายของเด็กริมน้ำ ไม่นาน น้ำก็สาดก็ซัดจนพัง” ผมเอาใจช่วยเธอเป็นพิเศษ หวังว่าเธอ จะได้เป็นครูภาษาไทย สมดังใจ
12) ทศกัณฑ์ : หนึ่งในคำถามที่จะทำให้ได้แสดงปฏิภาณไหวพริบ ของ ผู้เข้าสอบครู สาขาวิชา ภาษาไทยคือ ให้บอกตัวละคร ใน วรรณคดี ไทยที่ชื่นชอบ พร้อมกับวิจารณ์ ตัวละคร ในแง่มุม ต่างๆ คำตอบที่ได้รับ มีมุมมองความเห็นที่หลากหลาย บางเรื่องราวก็ไม่เคยรู้มาก่อน ตัวอย่าง เช่น 'ขุนแผน' ชายชาติทหาร ผู้จงรักภักดีต่อชาติ แต่มีกิ๊กหลายคนจนทำให้เมียตัวเองต้องตาย 'นางพิมพิลาไล' (นางวันทอง) หญิงสองใจที่ตายเพราะถูกรุมรัก 'นางแก้วกริยา'ที่ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้างแล้วเข้าผิดห้อง (มีความอิโรติก) 'ขุนช้าง'ที่รักหญิงสาวจริง แต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ทั้งหมดจากเรื่อง ขุนช้างขุนแผน 'หนุมาน'กับความ ฉลาด ปราดเปรื่อง เก่งกาจ 'ทศกัณฑ์'กับความรักมากมายที่มอบให้นางสีดา จากเรื่อง รามเกียรติ์ 'นางละเวง'กับบทบาทภาวะผู้นำ จาก เรื่องพระอภัยมณี 'นางบุษบ'าผู้มาพร้อมความงาม จากเรื่อง อิเหนา ในหลายๆประเด็น มีการหยิบยกมาเปรียบกับ สภาพสังคมปัจจุบัน เช่น ทุกวันนี้ ถ้าเป็นนางพิม การเลือกคู่ครองของคนปัจจุบัน นางพิมอาจจะต้องเลือก ขุนช้าง ถึงรูปชั่ว ตัวอ้วน แต่ก็มีเงินทองให้อยู่สุขสบาย เป็นต้น
13) ชั่วโมงต้องมนต์ : เวลาของการสัมภาษณ์ผ่านไปรวดเร็ว เหมือนเราตกไปอยู่ในโลกที่มีผู้คน ที่มีแนวคิด แนวทาง ชอบ พออะไรคล้ายๆ กัน มีคนรู้ อะไร "รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว จะให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล" จำนวนมาก…ที่รอรับโอกาสที่ดีดีในชีวิต จากการบอกเล่าทำให้รู้ ว่าแต่ละคนมีปัญหาอุปสรรค อะไรในชีวิต ผ่านโลก ผ่านอะไรมาบ้างแล้ว หลายคนสอบครั้งแรก ชีวิตเหมือนผ้าขาวบาง หลายคนสอบมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ยังไม่ท้อถอย มองโลกในแง่บวกเสมอ และทำให้รู้ว่า สาขาวิชาที่แต่ละคนร่ำเรียนมา ก็คัดแยกคนแต่ละประเภท ออกจากกัน ครูวิทยาศาสตร์ มีกระบวนการคิดการตอบเป็น เหตุเป็นผล ครูคณิตศาสตร์ ที่ดูมีหลักการ ตรรกะ หรือครูภาษาไทยก็เป็นอีกแบบ ที่ ดูอ่อนไหว emotional กว่าสาขาอื่น

14) บทเรียนสอนใจ : ผู้เข้าสอบหลายคนมีประสบการณ์ในการเป็นครู อยู่แล้ว ทำให้มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ พูดจาฉะฉาน ตอบได้ตรงประเด็น มีวิญญาณของความเป็นครูเต็มร้อย แต่กับหลายคน เพิ่งเรียนจบ มาใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ ปฏิภาณ ไหวพริบ การพูดจา ตอบคำถาม ก็อาจจะไม่ไหลลื่น บางคนพูดคุยกับกรรมการเหมือนพูดคุยกับคนอยู่บ้าน เหมือนคุยกับเพื่อน บางคนกระดิกเท้าตลอดเวลา บางคนตื่นเต้น อย่างเห็นได้ชัด พูดตะกุกตะกัก การตอบคำถามหรือการวางตัวในการสอบสัมภาษณ์ อาจจะไม่ได้มีหลักเกณฑ์ ตายตัว หากแต่มองที่ความเหมาะสมกับภาระหน้าที่ ที่จะได้ทำแล้ว คนที่มีประสบการณ์ย่อมได้เปรียบกว่าและ ถ้ามีอะไรที่ผิด อะไรที่พลาด ก็ถือว่า “ผิดนั้นเป็นครู”
15) คะแนนแห่งชีวิต : คะแนนสัมภาษณ์มีผล ต่อคะแนนสอบในภาพรวมไม่มาก (แต่มี) การทำข้อสอบ รายวิชาในภาค ก. ภาค ข. ได้สูงกว่าคนอื่นๆ ก็น่าจะมีผลต่อลำดับ ในการขึ้นบัญชี ทุกคะแนนมีความหมาย
16) สุดท้าย : ก่อนจากลากันในวันนั้น มีคำพูดที่ได้บอกกับทุกคน ไม่ว่าผลสอบจะออกมาเป็นอย่างไร “เป็นกำลังใจและขอให้ทุกคนโชคดี”


" สวัสดี คุณครู "

หมายเลขบันทึก: 628065เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2017 15:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน 2017 20:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ครูผู้ช่วยแตกต่างจากครูทั่วไปอย่างไรเหรอค่ะ

อ่านแล้วสนุกมากเลยครับ

ไปเป็นกรรมการที่ไหนครับ

อาจารย์จันทวรรณครับ

ครูที่สอบบรรจุได้ใหม่ๆเรียกว่าตำแหน่งครูผู้ช่วย หลังจากทำงานไปประมาณ 2 ปี ก็จะประเมินเป็นครูคศ 1 คือครู ต่อไปเป็น คศ 2 ครูชำนาญการและ คศ 3 ครูชำนาญการพิเศษ ตามลำดับครับ

อ๋อค่ะ เพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้จาก อ. ขจิต นี่เองค่ะ ขอบคุณค่ะ

ดิฉันเข้ามาอ่านโดยมิได้ตั้งใจ แต่พออ่านแล้วได้ใจกับแนวการนำเสนอที่แตกต่าง ชวนลูกและสามีมานั่งฟังแม่อ่านพร้อมอาหารเช้า .. มีบทความสนุกๆ แบบนี้ระหว่างจิบกาแฟ สุนทรีย์ขึ้นเยอะเลยค่ะ

สุดยอดครับ ทั้งประเทืองความรู้ เป็นประโยชน์ต่อลูกหลานที่อยากเป็นครู ... ขอแชร์นะครับ... ขอบพระคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท