ถอดบทเรียน: กระบวนการเรียนรู้ผ่านวิทยากรกระบวนการ KM NOTE TAKER
31 มีนาคม 2560
ดิฉันได้รับมอบหมายจากท่านรองคณบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคล คณะแพทยศาสตร์ รศ. นพ. บัญฑิต ชุมวรฐายี และ ผู้ช่วยคณบดี ฯ ผศ. ดร. ปิยธิดา คูหิรัญญรัตน์ ให้จัดกระบวนการเรียนรู้ ผ่านวิทยากรกระบวนการ KM NOTE TAKER ในหัวข้อ บันทึกง่ายๆ..Style คุณลิขิต
หลังจากที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดให้บุคลากรเป็น KM Supporter, KM facilitator มาก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้เป็นคิวของเราที่จะจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยมีวัตถุประสงค์ให้บุคลากรที่เป็น Note taker ของหน่วยงานมีทักษะทั้ง ฟัง จับประเด็น คิด เขียน เพื่อดึงความรู้ที่อยู่กับตัวออกมา แล้วเก็บเป็นคลังความรู้ ให้คนเข้าถึง อ่าน คิด เขียน นำไปใช้ได้อีก
การจัดกระบวนการเรียนรู้ ผ่านทีมวิทยากร 3 ห้อง มีวิทยากร 3 ทีม ผู้เข้าเรียนรู้ มี 3 กลุ่ม เราโชคดีที่มีน้องในทีมงาน เคยทำงานร่วมกันหลายคน เราชักชวนมาได้รวม 12 คน เริ่มต้นทำงานในฐานะหัวหน้าทีม เราก็ต้องทบทวนหลักสูตรว่า มีใครทำมาแล้วบ้าง ก็พบว่ามีหลายหน่วยงานทำกิจกรรมแบบนี้มาบ้าง แต่เรามีโจทย์ที่แตกต่างกัน และต้องใช้เวลา 1 วัน ทำอย่างไร เราถึงจะสามารถจัดให้บุคลากรที่เข้ากระบวนการกับเราเรียนรู้ได้ครบ ตามวัตถุประสงค์ มีโจทย์อีกอย่างหนึ่งเราต้องให้ทีมงานคิดเป็น ทำเป็นอีกด้วย
ดังนั้นเราก็เริ่มต้นที่ คุณเรวัฒน์ เอกวุฒิวงศา หรือน้องหมีนั่นเอง จากการที่เคยทำงานร่วมกัน เราเห็นแววกันมาก่อน อย่ากระนั้นเลย ให้น้องคิดมาก่อนดีกว่า น้องหมี คิดกระบวนการเรียนรู้ผ่านการ: 1) ฟังเพลง คิด แล้วเขียน 2) ดูหนัง ฟังเพลง คิด แล้วเขียน 3) จับคู่เล่าเรื่อง โดยให้คุยกันผ่านเรื่องเล่าของตนเอง คิด แล้วเขียน และ 4) มองภาพคุณลิขิต ผ่านกระบวนการ World Café
ทีมหลักเริ่มค้นหาเพลงที่มีความหมาย หนังที่น่าสนใจไม่ยาวนัก เราช่วยกันเลือกเพื่อไปนำเสนอกับกลุ่มใหญ่ ได้เพลงของขวัญจากก้อนดิน ได้หนังสั้น ไม่มีเสียงพูด ตอนนำเสนอกับทีมใหญ่ผ่านฉลุย
เราคุยกัน 2-3 ครั้ง ไม่นับการคุยกันผ่านไลน์ จากนั้นก็ชวนวิทยากรหลักมาคุยกัน วิทยากรกลุ่ม 1 มีคุณกรรณิกา ชาธรรม คุณกชกร ผลาชีวะ และคุณวีระวรรณ อึ้งอร่าม กลุ่ม 2 คุณเรวัฒน์ เอกวุฒิวงศา คุณสุภาพ อิ่มอ้วนและน้องอีกสองคน กลุ่ม 3 คุณพนอ เตชะอธิก คุณคำหยาด ไพรีและคุณถาวร ภาวงศ์
แต่เราต้องมีคนที่ทำได้ทั้งพิธีกรและวิทยากร ที่จะนำพาผู้เข้าร่วมผ่อนคลาย คนที่เหมาะสมคือ คุณเกสร เหล่าอรรคะ นั่นเอง
สิ่งจะต้องคิดต่อ คือ ทำอย่างไร วิทยากรทั้ง 3 ห้องจะจัดกระบวนการเรียนรู้ให้คล้ายกัน แต่อาจไม่เหมือนกันก็พอได้ หลังจากคุยกับทีมงานจนได้บทสรุปแล้ว
น้องแพรวก็ไปโหลดเพลงและหนังมาให้ เราก็รวบรวมใส่ Handy drive 3 ชุด ให้วิทยากรหลักและส่งทั้งไลน์และ e mail ให้กับทีมวิทยากรประจำกลุ่ม เพื่อจะได้จัดกระบวนการเรียนรู้ให้ลื่นไหลไปได้ น้องทีมงาน KM หาผ้าปูพื้น ผ้าถุงให้คนที่ใส่กระโปรงมาได้ใส่กันโป๊ จัดหาอุปกรณ์ได้ครบถ้วนดี ต้องขอบคุณ ทีมงาน KM เป็นอย่างมาก
วันทำงานจริง เราก็ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่เข้าอบรมให้ เกิดความอยากที่จะเขียน ดิฉันก็ต้องมาคิดหาวิธี อย่ากระนั้นเลย เล่าเรื่องบทเรียนของตัวเอง ผ่านเรื่องเล่า โดยการถอดบทเรียนตนเอง และ คนที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากเขียนและเรียนรู้ผ่านผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นศ นพ วิจารณ์ พานิช ปรมาจารย์ KM ดร ประพนธ์ ผาสุขยืด และท่านอื่นๆอีกมากมาย หลังจากพูดเสร็จ เหมือนจะจุดไฟติด อย่างน้อยมีน้องหลายคนบอกอยากเรียนการเข้าไปเขียนในเวปไซด์ GOTOKNOW รอแป๊บนะคะน้อง
จากนั้น เริ่มต้นแบ่งกลุ่ม ห้อง 1 กลุ่มบุคลากรในสังกัด สำนักงานคณบดี ห้องกลุ่ม 2 บุคลากรสังกัดโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ภาควิชาและศูนย์หัวใจสิริกิติ์ และ กลุ่มที่ 3 กลุ่มแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ฯลฯ ดิฉันและคุณเกสร จะต้องเป็นผู้สังเกตการณ์กระบวนการเรียนรู้ ทั้ง 3 ห้อง พบว่า ห้อง 1 และห้อง 2 จุดไฟติดได้ไว อาจเป็นเพราะวิทยากรและผู้เข้าเรียนรู้ ค่อนข้างเด็ก อายุรวมกันไม่มาก ส่วนห้อง 3 อาจเป็นเพราะเป็นกลุ่มที่เป็นมืออาชีพ ต้องคิด วิเคราะห์เป็นอย่างดี ค่อยลงมือทำ แต่เมื่อจุดไฟติด กระบวนการเรียนรู้ก็วิ่งได้ฉลุยค่ะ
สรุป
การจัดกระวนการเรียนรู้แบบเดียวกัน วิทยากรและคนเข้าต่างกัน ผลลัพธ์ก็อาจแตกต่างกันได้
................
ผู้ถอดบทเรียน อุบล จ๋วงพานิช
ภาพ จากทีม KM
มีตอนที่ 2 กระบวนการเรียนรู้ผ่านวิทยากร ทั้งสามห้องค่ะ รออ่านนะคะ
ความเห็น (2)
สวัสดีครับพี่แก้ว
ได้ทราบข่าวกิจกรรมนี้จากน้องพยาบาลคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนในเฟส(น้องนก) เธอสนใจมากครับ
สอบถามขอปรึกษาวิธีการเขียนมา พอทราบว่าพี่แก้วเป็นหัวหน้า ลีมแนะไปว่า พี่แก้วนั่นล่ะที่จะให้คำปรึกษาที่ดีที่สุด 555
ดีใจที่ Gotoknow เป็นประโยชน์และเป็นที่สนใจอยู่เสมอ.
ขอบคุณครับ
ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้เข้าอบรม ค่อนข้างดีและเห็นประโยชน์จากการเขียน
อาจมีการจัดอีกครั้งค่ะ