ปัญหาที่ครูในยุคนี้ต้องเผชิญ ก็คือ.....ทำอย่างไร...จะกระตุ้นปัจจัยภายในได้
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะมีเป้าหมาย
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะมีความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะรักเรียน
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะใส่ใจในขณะเรียน
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะทำกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะขยันทำการบ้าน
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะหมั่นฝึกฝนจนเกิดทักษะ
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะพสกเพียรจนบรรลุศักยภาพ
ทำอย่างไร.....นักเรียนจึงจะใฝ่ฝันและมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ
ฯลฯ
ดังนั้น ก่อนการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนมักถามนักเรียนว่า ต้องการเรียนรู้เรื่องอะไร เมื่อนักเรียนแจ้งความประสงค์ว่าจะเรียนอะไรแล้ว การเรียนจึงดำเนินไปด้วยความกระตือรือร้น นักเรียนมีการเปิดรับพร้อมที่จะเรียนตลอดเวลา ครูผู้สอนต้องสร้างความต้องการให้นักเรียนพร้อมที่จะรับตลอดเวลา บรรยากาศในชั้นเรียนจะเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
แรงจูงใจเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ เพราะนักเรียนขาดสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ขาดโอกาสจะได้สนทนากับชาวต่างชาติ ขาดตัวอย่างที่ดีที่กระตุ้นความอยากเรียนภาษาอังกฤษ และขาดความจำเป็นที่จะบังคับให้...ต้องเก่งภาษาอังกฤษ
Motivation.....เป็นเครื่องมือนำไปสู่เป้าหมาย ทำให้เกิดพลัง เกิดความพยายาม ความตั้งใจ ความกระตือรือร้น และความมุ่งมั่นที่จะประสบกับความสำเร็จ
ดังนั้น...สิ่งที่ครูสอนจะต้องทำ คือ...สร้างแรงจูงใจให้นักเรียน อยากจะเรียนในสิ่งที่ครูจะสอน
ถ้าเราเพิ่มแรงจูงใจของนักเรียนได้ เราก็ช่วยให้เขาได้เรียนรู้ได้มากขึ้น และทำให้มีความสามารถที่จะเรียนรู้ต่อไปได้มากยิ่งขึ้น
ในการเรียนภาษา ครูผู้สอนสามารถสร้างแรงจูงใจ ได้ใน 3 ระดับคือ
ระดับที่ 1 สร้างความกระหายใคร่รู้ในสิ่งที่จะเรียน.....เชื่อมโยงการเรียนเข้ากับสิ่งที่นักเรียนชอบ นำสิ่งที่เขาสนใจ .....ให้นักเรียนได้เปิดเผยความเป็นตัวตน ....เช่น สั่งงานที่เกี่ยวข้องกับตัวนักเรียน ให้พูดแสดงความคิดเห็น ทำแบบสอบถาม ...ครูเป็นแบบอย่างของการกระตือรือร้น และเป็นแรงจูงใจสำหรับนักเรียน
ระดับที่ 2 ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองนอกชั้นเรียน โดยให้การบ้านที่เขาต้องคิด ต้องศึกษาค้นคว้าเพื่อมีความรู้และทักษะเพิ่มขึ้น เพื่อสามารถนำกลับมาใช้ในชั้นเรียนได้ต่อไป......โดยทั่วไปนักเรียนเรียนภาษาต่างประเทศ 4 ชั่วโมง ต่อ สัปดาห์จึงจะเรียนอย่างมีคุณภาพ input , interaction , and opportunities for meaningful output เพื่อความก้าวหน้า เพื่อให้ความรู้และทักษะคงทน และสร้างความปรารถนาที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม ..ให้นักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน
ระดับที่ 3 ทำให้นักเรียนผูกพัน จดจ่ออยู่กับกิจกรรมการเรียน ความตั้งใจ ความใส่ใจ จะช่วยให้นักเรียนจดจำได้ และสามารถเพิ่มเติมความรู้ต่อไปได้เรื่อยๆ ...ทำกิจกรรมการเรียนน่าสนใจมีชีวิตชีวา จับต้องได้....นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วม นักเรียนได้มีโอกาสสรุป เรียนรู้ด้วยตนเอง ให้ข้อมูลย้อนกลับ ความก้าวหน้าในการเรียนทุกระดับ ทั้งในการเรียนรู้เนื้อหาคำศัพท์ ไวยากรณ์ และทักษะในการใช้ภาษา รวมถึงการให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ
คุณบอน
ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้