KM พาไป


เกษตรกรและนักส่งเสริมการเกษตร สามารถวางแผนการพัฒนาอาชีพได้ด้วยตัวเอง โดยใช้เกษตรกรเป็นตัวตั้ง

       เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่พี่สายัณห์ ได้เสร็จภาระกิจในการเยี่ยมเยียนสำนักงานเกษตรอำเภอพรานกระต่ายร่วมกับคณะของคุณเอื้อ (เกษตรจังหวัด)  พวกเราซึ่งประกอบไปด้วยพี่วาด  วานิช เกษตรอำเภอพรานกระต่าย  พี่ประสิทธิ์  อุทธา พี่เสนาะ ยิ้มสบาย และพี่รัตติยา  ขวัญคำ นักส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรอำเภอพรานกระต่าย คุณสมหมาย  พลอาจ แกนนำกลุ่มเกษตรธรรมชาติบ้านนาป่าแดง  ได้ร่วมวงสนทนากันต่อที่บ้านของคุณสมพร เกษตรกรแกนนำกลุ่มผู้ปลูกผักของตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย

         ในประเด็นที่เราสนทนากันนั้น นอกจากการเป็นเรื่องราวของการนำการจัดการความรู้ในปรับใช้ในงานส่งเสริมการเกษตรแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการต่อยอดหรือการปฏิบัติงานต่อเนื่องในงานวิจัยการผลิตพืชปลอดภัยของกลุ่มผู้ปลูกผักของตำบลคลองพิไกร เนื่องจากเห็นความก้าวหน้าของการดำเนินกิจกรรมการปลูกผักของกลุ่ม ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนก็คือ

  • การทำตราสัญลักษณ์อาหารปลอดภัย เพื่อใช้ในผลผลิตผักที่ได้ของกลุ่ม
  • การเชื่อมการผลิตกับตลาด ด้วยการให้กลุ่มนำผลผลิตที่ได้ ไปจำหน่ายที่ตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยที่หน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดทุกเช้าวันอาทิตย์


บรรยากาศของการพูดคุย(นอกเวลาราชการ)


เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ

ผลผลิตพืชปลอดภัยของกลุ่ม (ที่เห็นคือผักบุ้งจีน)

          วงสนทนาในวันนั้นทำให้ผมเรียนรู้และมีความมั่นใจว่าการนำการจัดการความรู้มาปรับใช้ในงานส่งเสริมการเกษตรในบ้านเรานั้น มีความเหมาะสมกับบริบทและสถานการณ์ของสังคมการเกษตรของบ้านเราเพราะ

  • มองเห็นการเรียนรู้และพัฒนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด
  • ไม่ได้มองตัวชี้วัดเพียงรายได้เท่านั้น ยังมีมิติอื่นๆ ให้ต้องคำนึงถึงอีกมาก เช่น ความภูมิใจ ความเชื่อมั่น ความสุข ความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ เป็นต้น
  • ในการเรียนรู้นั้นมีทั้งในส่วนของเกษตรกร(การพัฒนาอาชีพ) และส่วนของนักส่งเสริมการเกษตร(วิธีการทำงานเพื่อให้เกิดความยั่งยืน)
  • การทำงานใช้การเอื้ออาทร และสนับสนุนซึ่งกันและกันมากกว่าการทำงานโดยการสั่งการให้ทำ และต้องการเพียงผลงานอย่างฉาบฉวย
  • เกษตรกรและนักส่งเสริมการเกษตร สามารถวางแผนการพัฒนาอาชีพได้ด้วยตัวเอง โดยใช้เกษตรกรเป็นตัวตั้ง
  • ทำงานด้วยใจรัก/สมัครใจทำ  เพราะเห็นการเรียนรู้และความสำเร็จของเกษตรกรเป็นความสุขที่แท้จริงจากการทำงาน
  • เมื่อเข้าใจภาษาKM จะทำให้พูดกันเข้าใจและทำงานได้อย่างไร้ข้อจำกัด  (ข้อนี้อธิบายยากครับ)
  • มองเห็นความเชื่อมโยงของทุกสิ่ง
  • ฯลฯ

          วันนี้สิ่งที่เกิดกับตัวผมเท่าที่นึกได้มีเพียงเท่านี้ ท่านละครับ คิดว่ายังมีประเด็นใดอีกที่ตกหล่นไป โปรดชี้แนะ

บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ

วีรยุทธ  สมป่าสัก

หมายเลขบันทึก: 62322เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2006 11:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • มาเยี่ยมครับ
  • เดือนหน้าจะมาทำงานที่จังหวัดแล้วครับ

สวัสดีค่ะคุณสิงห์ป่าสัก

  • การทำ KM ไปควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งด้านเกษตรกรรมและความเป็นอยู่รวมทั้งค่านิยมคุณค่าทางจิตใจด้วย
  • เยี่ยมเลยค่ะ  ครูอ้อยขอชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ

เรียน พี่ชาญวิทย์

  • ขอบพระคุณมากครับที่แวะมาทักทาย
  • ดีครับหากไปทำงานที่จังหวัด กลุ่มไหนครับ คงได้เจอกันบ่อยขึ้นนะครับ
  • พบกันที่ไบเทคนะครับ

เรียน  ครูอ้อย

  • ยิ่งทำก็จะยิ่งได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ นะครับ
  • ขอบพระคุณมากครับที่ให้กำลังใจ
  • ขอให้กำลังใจแก่ทีมงานอ.พรานกระต่ายและจังหวัดกำแพงเพชรในการทำงาน
  • คุยกับเกษตรอำเภอ(คุณวาด) สนับสนุนกลุ่มเต็มที่
  • มีผู้นำที่ดี(คุณสมหมาย พลอาจ)

 

 

เรียน ผอ.ธุวนันท์

  • อ.พรานกระต่าย มีทีมงานที่แข็งขันอยู่แล้วนะครับ ทั้งในส่วนของนักส่งเสริมการเกษตรและแกนนำเกษตรกร  เมื่อเราเข้าไปเสริมหนุนจึงส่งผลให้เกิดการขยายวงได้รวดเร็วยิ่งขึ้นครับ
  • ขอบพระคุณมากครับที่แวะมาให้กำลังใจ และขอส่งพลังแรงใจไปยังทีมงานส่วนกลางทุกๆ  ท่านด้วยเช่นเดียวกันนะครับ
  • เพื่อทราบครับ
  • งานยุทธศาสตร์ ครับ

เรียน พี่ชาญวิทย์

  • ดีมากครับที่พี่ชาญวิทย์จะย้ายไปทำงานฝ่ายยุทธศาสตร์
  • ส่วนผมเดือนหน้าก็จะเปลี่ยนไปทำงาน"กลุ่มพัฒนาสถาบันเกษตรกร" เช่นกันครับ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท