<p “=”“>ปัญหาสิ่งแวดล้อมหลักๆในปัจจุบัน คือเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาส
มลภาวะ การลดลงของความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันสิ่งเหล่านี้มันไปมีส่วนสัมพันธ์
(Nexus)กับพลังงาน อาหารและจำนวนประชากรโลก..
เลยทำให้ปัญหามันซับซ้อนขึ้น
ตอนนี้ผมกำลังสนใจเรื่องพลังงานทางเลือกและการพัฒนาพอๆกับ ที่ต้องสนใจหัวข้อวิทยานิพนธ์ของตัวเองเลยมีไอเดียมาแชร์
ก่อนกลับไปปั่นงาน
</p>
<p “=”“>อย่างที่เคยเกริ่นไว้ ทิศทางการพัฒนาทางวัตถุของโลกก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเปนต้นมา
ถูกนักวิชาการ เช่น Eric Kwa เรียกว่าเป็นการพัฒนาสีน้ำตาลเพราะมันพึ่งพา
เชื้อเพลิงจากซากดึกดำบรรพ์และก่อมลพิษมหาศาล แต่ทุกประเทศทั่วโลกต่างก็เดินตามทางนี้เพราะเชื่อว่ามันจะนำเราไปสู่ความเป็นอารยะ
หรือพัฒนาได้ จนกระทั่งนักคิดนักวิชาการในทศวรรษที่๖๐ พบว่าแนวทางการพัฒนาสีน้ำตาลนี้ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง
และผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมนำไปสู่การตระหนักของประเทศพัฒนาแล้วว่า ต้องเปลี่ยนทิศทางการพัฒนาไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาก็โต้แย้งว่า ประเทศพัฒนาแล้ว ก็พูดได้สิว่าการพัฒนาโดยใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลก่อให้เกิดมลภาวะเพราะ
ประเทศพัฒนาแล้วนั่นแหละดำเนินทิศทางแบบนั้นและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมหาศาลแบบนั้นมาก่อน
แต่ประเทศกำลังพัฒนาคนยังยากจนอยู่นี้นาถ้าจะยกเลิกจะเอาอะไรกิน…
ที่จริงศาสตราจารย์ David Pearce เคยเสนอแนวทางที่เรียกว่าระบบเศรษฐกิจสีเขียว….
Green economy ซึ่งปัจจุบัน ไทยเองก็พยายามเอามาใช้โดยบอกว่า
ระบบเศรษฐกิจพอเพียง คือ ระบบเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวอร์ชั่นของไทย
</p>
<p “=””>
</p>
<p “=”“>ในรายงานของ David Pearce เองก็บอกว่าถ้าจะสร้างงานและรายได้โดยเศรษฐกิจสีเขียวก็ไม่ยาก หนึ่งในมาตรการที่ต้องทำคือแค่อัดฉีดเงินและสร้างงานไปในภาคอุตสาหกรรมที่เปนมิตรกับสิ่งแวดล้อม แทนการลงทุนในภาคอื่นๆ
ที่ก่อให้เกิดมลภาวะก็สร้างงานสร้างเงิน มันก็สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้เหมือนกัน
ผมขอยกตัวอย่างในฟังคร่าวๆ ในสิ่งที่ผมกำลังสนใจอยู่มาก คือเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ และผลดีกับระบบเศรษฐกิจและสิ่งเวดล้อมหากเราเปลี่ยนมาใช้ยานพาหะนะพลังงานไฟฟ้า และหันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในครัวเรือนมากขึ้น
ลองจินตนาการดูครับ
ถ้าวันหนึ่งคนไทยใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยจะเกิดอะไรขึ้น
๑ ถ้าทุกครัวเรือนใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และมีแบตเตอรี่ที่เล็กลงTesla
Batteryจนถึงขั้นเราไม่ต้องใช้ไฟจากการไฟฟ้า ก็ทำให้เราไม่ต้องใช้สายส่งไฟฟ้า
หรือลดการใช้สายส่งไฟฟ้าลงเหลือเพียงแค่การขายไฟให้การไฟฟ้านำไปขายต่อให้โรงงานอุตสาหกรรม
เท่ากับเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสายส่งไฟฟ้า
๒
รถทุกคันถูกปรับเปลี่ยนยกเครื่องไปใช้เปนรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
จะทำให้เกิดผลคือ
๒.๑เกิดอาชีพใหม่ในการยกเครื่องยนต์เปลี่ยนจากเครื่องใช้นน้ำมันเป็นเครื่องไฟฟ้า
๒.๒เกิดโจทย์วิจัยการพัฒนาประสิทธิภาพและขนาดของแบตเตอรี่เพื่อการติดรถยนต์และจักรยานยนต์ที่เปฯมิตรกับสิ่งแวดล้อม
๒.๓ เกิดอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ที่เปนมิตรกับสิ่งแวดล้อม
๒.๔คนไทยไม่ต้องเติมน้ำมัน เพราะชารจไฟจากไฟฟ้าบ้านที่ใช้แผงโซล่าเซลล์
และเก็บไว้ในแบตเตอรี่
๒.๕ไม่เกิดมลภาวะในอากาศ และลดเงินในการสั่งซื้อและนำเข้าน้ำมัน
๒.๖ รถยนต์โครงเก่าแค่ไหน ถ้าโครงรถยังแข็งแรงและปลอดภัย
ก็เอามายกเครื่อง ทำสีใหม่เป็นรถไฟฟ้าได้
เห็นไหมครับ แค่ลงคิดเล่นๆ ก็สนุกแล้ว นี่ยังไม่รวมว่าถ้าต้องทำจริงๆ
จะสนุกขนาดไหน และจะท้าทายขนาดไหนกับการทำให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ไม่ใช่เพื่อใคร
เพื่อตัวเราเองให้พวกเราทุกคนมีที่ยืนในสังคมอย่างเท่าเทียม ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
</p>
<p “=””>
</p>
<p “=”“>แหมพูดไปเดี๋ยวจะว่าโฆษณาแต่ข้อดีอย่างเดียว ข้อเสียก็มี คือการเปลี่ยนเครื่องยนต์มันมีต้นทุนการเปลี่ยน สำหรับคนมีฐานะคงไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับคนจน อันนี้รัฐบาลควรจะอออกกฎหมายหรือมาตรการทางภาษีมาช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือ สนับสนุนการผลิตเครื่องยนต์ไฟฟ้าสำหรับยานพาหะนะราคาเหมาะสมในเมืองไทย
อีกอย่างคือการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ก็มีต้นทุน อันนี้ที่จริงรัฐบาลไทยปัจจุบันมีมาตรการในการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์อยู่แล้ว ซึ่งนับเปนข้อดีครับ
ลองกดเข้าไปดูรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพับได้ เท่ๆคันนี้กันครับ สกูตเตอร์พับได้พลังงานไฟฟ้า This video is available from https://m.facebook.com/story.php…
</p>
ไม่มีความเห็น