สิ่งหนึ่งที่ดิฉันจะใช้ในการทำงานด้านการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยา และการใช้ชีวิตประจำวัน
คือ...การพิจารณาในเรื่อง "ความรู้สึก"...feeling...
ดิฉันจะถาม case เสมอว่า ""คุณรู้สึกอย่างไร"...
เชื่อไหมคะว่า คนเราส่วนใหญ่จะค่อนข้างบอกความรู้สึกได้ยาก...เพราะเวลาถามนั้น
คำตอบส่วนใหญ่มักจะตอบเป็น.."ความคิดเห็น"...เสียมากกว่า
เช่น..."คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อสามีดื่มเหล้า"...คำตอบที่ได้รับ...ก็มักจะเป็น "รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี"
การที่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีนี้...นี่เป็นความคิด แต่ไม่ใช่ความรู้สึก...
หากเปลี่ยนเป็นว่า..."รู้สึกเสียใจ" .."รู้สึกไม่สบายใจ"..."รู้สึกโกรธ"...เหล่านี้ต่างหากเหล่าที่เป็นความรู้สึก
ดังนั้น...โดยส่วนใหญ่ของการบำบัดดิฉันจึงมักที่จะให้ case พิจารณาถึง "ความรู้สึก"...ของตนเองเสมอ
...
การที่เราตามความรู้สึกเราได้ทันนั้น...ย่อมจะทำให้เราเข้าใจตนเองได้ดีขึ้น
และรับรู้ว่าตนเองอยู่ในอารมณ์และความรู้สึกอย่างไร...มองเห็นภาพตนเองชัด
และ...ก็จะง่ายต่อการจัดการอารมณ์ และความรู้สึกนั้นได้..
เมื่อ case พิจารณาเหล่านี้ได้...ดิฉันจึงจะให้ case พิจารณาถึงปัญหา..ได้ตามเหตุและผล
เพราะหากให้พิจารณาเลยตอนที่ยังไม่สามารถจัดการเรื่องอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง
ก็จะทำให้พิจารณาปัญหาอย่างมีเหตุและผลได้ค่อนข้างยาก...
ต้องขอนำสิ่งที่ได้จาก กะปุ๋มในวันนี้ไปคิดต่อยอด เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และเพื่อสร้างความเข้าใจต่อไป
สวัสดีคะ...คุณอ้อ..
กะปุ๋มรู้สึกดีใจ...ที่ได้ทำให้คุณอ้อดีใจ
เรามักไม่คุ้นกับการสังเกตความรู้สึกของเรา
และหากเราแยกแยะได้...ระหว่าง "ความคิด" และ "ความรู้สึก"...
ก็ขอให้สังเกตความรู้สึกต่ออีกนะคะว่า...ความรู้สึกที่ว่านั้นมีมากน้อยเพียงใด...
...
เช่น.."ฉันรู้สึกโกรธ"...โกรธแค่ไหน..มากน้อยเท่าใด...โกรธมาก หรือโกรธน้อย...สังเกตอย่างละเอียดขึ้น ละเอียดขึ้น...
(^___^)
เช้านี้เบิกบานใจคะ
กะปุ๋ม
สวัสดียามเช้านะคะ....พี่อึ่งอ๊อบ..
หากสิ่งที่นำไปร่วมพิจารณา...ต่อการดำรงชีวิตในแต่ละวัน...
หากได้ผลอย่างไร...อย่าลืมเล่าให้กะปุ๋มฟังบ้างนะคะ...
เช้านี้อากาศสดชื่น...มีเสียงนกร้อง..
ได้ทักทายครูอ้อย...อย่างเบิกบาน...
รู้สึกมีความสุขคะ...
^__^
กะปุ๋ม
สวัสดีครับ เป็นข้อสังเกตที่ดีมากเลยครับ คนไทยเราต้องบอกว่าเกือบ 100% ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไรจะตอบว่าคิดอย่างไร
ผมว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นปัญหาทางด้านภาษาซะมากกว่า ไม่ใช่ว่าเราแยกไม่ออกหรอกครับ ถ้าเราถามเขาว่าจิตใจเป็นยังไง หรือใจคอเป็นยังไง เขาจะตอบออกมาเป็น feelings ตามที่เราต้องการ ผมยังนึกๆ อยู่เหมือนกันว่าน่าจะใช้คำไหนดีนะ ที่ใช้กันบ่อยๆ และทำให้เขาบอกออกมาเป็น feelings มากกว่า thoughts
เรื่องที่คุณกะปุ๋มเขียนดีๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ ผมเพิ่งเป็นสมาชิก go2know จะค่อยๆ อ่านไปนะครับ
ความรู้สึกแย่ ๆ เรื่องสามีดื่มเหล้า กับความรู้สึกอย่างอื่นมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ก่อนที่จะมีความรู้สึกแย่มาก ๆ เรื่องสามีดื่มเหล้า มันเริ่มต้นมาจากความเป็นห่วง ความปรารถนาดี ความรัก ที่เรามีให้ และส่งสัญญาณออกไปด้วยคำเตือนคำบอกแบบค่อยๆ บอก และสิ่งตอบแทนจากความปรารถนาดีนั้นกลับตอบสนองด้วยการ ไม่หยุดดื่ม หรืออาจเพิ่มปริมาณ ระยะเวลาการดื่ม มากยิ่งขึ้น หรือดื่มประชด หนำซ้ำกลับโทษภรรยาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตัวเองต้องดื่มเหล้า เป็นเสียอย่างนั้น จากความห่วงใย เริ่มเปลี่ยนเป็นความวิตก กังวล หวาดกลัว เหงา (โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเพียงเราสอง ซึ่งบางครอบครัวอาจจะมีลูกโตแล้วไปเรียนที่อื่น) นอนร้องไห้ นึกไปต่าง ๆ นานา ตอนแรกก็นึกเป็นห่วงกลัวขับรถขับลากลับบ้านแล้วเกิดอุบัติเหตุ นานวันเข้าไปบ่อย ๆ เห็นกลับมาได้ทุกที ก็เริ่มนึกไปแล้วว่าวันนี้อาจดื่มแต่เหล้าวันหน้าต้องเคล้านารีแน่นอน ตามสูตรผู้ชายไทย เขากลับตอนไหน ก็เป็นเวลาที่เราหยุดร้องไห้และได้นอนเวลานั้น ไม่ใช่ตามความรู้สึกตัวเองไม่ทัน มันรู้ตัว แต่มันเจ็บลึก
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยไม่อยากให้สามีมีความสัมพันธ์กับตัวเองเฉพาะเวลามีความต้องการทางเพศ โดยเฉพาะเวลาเมากลับมาบ้าน ผู้หญิงจะมีความรู้สึกรับไม่ได้ มันเหม็นเหมือนอ๊วก สะอิดสะเอียน เคยไหมเวลาเดินผ่านคนกินเหล้าแล้วมีกลิ่นตัวกลิ่นเหล้าโชยออกมาจะพูดจะจาก็มีแต่กลิ่นเหล้า เมื่อผู้หญิงรับไม่ได้ก็ไม่มีความต้องการทางเพศ ยิ่งเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้ชายดื่มหนักและโทษภรรยาว่าที่ต้องดื่มเพราะเมียไม่ให้นอนด้วย โดยไม่มีการเคลียร์สิ่งที่คาใจภรรยาเลย คือไม่คิดว่าตัวเองผิดต่อภรรยาแม้แต่น้อย ในใจภรรยาก็คิดน้อยอกน้อยใจน้ำตาเพิ่งหยุดไหลจากการรอคอยสามีคงมีอารมณ์หรอกนะ บางครั้งก็จำใจฝืนทำเพราะไม่งั้นสามีเจ้าก็จะประชดด้วยการไปนั่งดื่มเหล้าคนเดียวประชด โดยเอาเหล้าที่พกไว้ในรถมานั่งดื่มประชดภรรยาเสียอย่างนั้นก็มี
ดังนั้นจึงบอกได้เลยว่า ความรู้สึก เรื่องสามีดื่มเหล้า กับความรู้สึกอย่างอื่นไม่เหมือนกัน มันมีผลกระทบมากมายมหาศาลมากกว่าความรู้สึก ร้อน หนาว รัก ใคร่ มันเป็นความรู้สึกที่ทุกข์ทรมาน มีผลกระทบอย่างรุนแรงกับสถานภาพของครอบครัว การที่บอกว่าเราไม่รู้เท่าทันความรู้สึกนั้นเรื่องนี้ขอบอกว่าไม่ใช่ ก็เพราะรู้เท่าทันความรูสึกนี้แหละถึงผู้หญิงถึงได้อดทน อดกลั้น เก็บกด บางคนต้องอยู่กับคำว่าอดทนมากกว่า 10 ปี ถึง 20 ปี เพื่อรอคอยวันที่จะพ้นทุกข์ทรมานที่เกิดจากสามีดื่มเหล้านี้ ซึ่งการรอคอยนี้ส่วนใหญ่ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีร่องรอยของความหวังอยู่เลยก็ตาม
+ สวัสดีค่ะ...พี่กะปุ๋ม...
+ ถอดความรู้ได้ดีจังเลยค่ะ...
+ บางเรื่องราว...ความรู้สึกและเหตุผลมันไปคนละทางกันเลยค่ะ...
+ เวลาเจอเหตุการณืที่ความรู้สึกและเหตุผลมันไม่สามารถไปด้วยกันได้นี่...ยากยิ่งแก่การตัดสินใจค่ะ....
+ เหมือนพี่กะปุ๋มบอกนั่นแหละค่ะ..." เพราะหากให้พิจารณาเลยตอนที่ยังไม่สามารถจัดการเรื่องอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง ก็จะทำให้พิจารณาปัญหาอย่างมีเหตุและผลได้ค่อนข้างยาก..."
น้องอ๋อย...
พี่กะปุ๋มมองว่านี่เป็นหน้าที่ที่เราพึงน้อมพิจารณานะคะ "อารมณ์ กับ ความรู้สึกนึกคิด"...ในชีวิตเราส่วนใหญ่นั้น เราให้สิ่งใดใด นำชีวิตเรา
อารมณ์ ที่ใช้ส่วนมาก...เป็นอารมณ์ด้านบวกหรือด้านลบ
เหตุผลที่เรามาใช้...เป็นเหตุผลที่เหมาะสมต่อเรื่องราวนั้นหรือไม่
น้อมใจพิจารณาด้วยใจเบาเบา...ศานติก็จะเกิดขึ้นในใจเรานะคะ
(^___^)
ฝากกอดหลานด้วยนะคะ
พี่กะปุ๋ม