สิ่งที่ฝากไว้ได้ในชีวิต


สะสมอริยทรัพย์

วันนี้เด็กๆ กลับบ้านกันแล้ว เตรียมตัวเปิดเทอมไปโรงเรียน... มาอยู่ที่วัดเกือบหนึ่งเดือน

เคยมีคนถามว่า พาเด็กมาวัดไม่เสียงดังรบกวนเหรอ ก็ได้ตอบไปว่าก็เสียงดังตามประสาเขา แต่เด็กๆ ไม่ได้ไปอยู่ในโซนที่พระท่านพัก จะอยู่ส่วนหน้าศาลาสี่ ซึ่งเป็นศาลาที่ใช้ทำกิจกรรมอบรมต่างๆ และที่สำคัญเด็กๆ มาที่วัดก็ได้มาสร้างบารมีของเขา ตื่นนอนตอนเช้าก็ติดตามพระอาจารย์ออกบิณฑบาตร ถวายจังหัน อุปฐากรับใช้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ตามแต่ท่านจะใช้สอย ตกเย็นมาก็กวาดถูศาลา


พอค่ำก็ผลัดเปลี่ยนไปอุปฐากหลวงปู่ตามแต่ท่านจะเมตตาเรียกใช้ใคร

ในแต่ละวันสิ่งที่เด็กๆ ได้ทำเป็นกุศลกรรมแทบทั้งนั้น ถ้าไม่มาวัดเด็กก็จะไปวิ่งเล่นบ้าง เล่นเกมส์บ้าง หรือไม่ก็ขับมอเตอร์ไซต์เป็นเด็กแว๊นในหมู่บ้าน


ปิดเทอมครั้งนี้ก็เกินความคาดหมาย ไม่คิดว่าเด็กๆ จะอยู่นานขนาดนี้

ทีแรกตั้งใจว่าออกพรรษาแล้วก็คงจะกลับ แต่อยู่ไปอยู่มาก็เกิดปิ๊งแว้ป ตายายของเด็กก็อยากให้อยู่วัด เพราะกังวลจะไปเล่นน้ำที่แม่น้ำแล้วไม่มีผู้ใหญ่ดูแลพลาดพลั้งอาจจมน้ำได้ มาอยู่ที่วัดก็อยู่ในความดูแลของพระอาจารย์ ท่านพอที่จะได้อบรมบ่มเพาะดัดนิสัย


ซึ่งเด็กๆ ที่มาก็ต่างเคยมาบวชเณรภาคฤดูร้อนอยู่สองสามครั้ง นิสัยและการใช้ชีวิตอยู่วัดก็พอทราบมาบ้าง จึงไม่ลำบากมากนัก และที่สำคัญได้ตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นนิสัยเดิมหรืออุปนิสัยเดิมของเขาที่มีอยู่บ้าง อาศัยการจัดสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมให้เขาได้เกิดการเรียนรู้


ส่วนตัวเคยมีความคิดว่า ถ้ามีลูก ... ก็คงจะนำมาบ่มเพาะเช่นนี้เหมือนกัน เพราะสิ่งที่ผู้เป็นพ่อแม่จะมอบให้เขาได้ที่ประเสริฐที่สุด คือ ศีลธรรม ในขณะที่ยังมีพระอริยสงฆ์พอให้เราได้กราบไหว้และสร้างบารมีกับองค์ท่าน การที่พาลูกมาบ่มเพาะนิสัยนี้จะเป็นสิ่งที่ติดตัวเขาไปตลอดจนถึงชีวิตหลังความตาย


การศึกษาเราสามารถให้เขาได้เมื่อเขามีชีวิตอยู่ แต่การศึกษาไม่สามารถติดตามตัวเขาไปได้เมื่อเขาเสียชีวิตลง แต่ศีลธรรมที่ติดลงไปในนิสัยในดวงจิตของเขาต่างห่างที่จะติดตามเขาไปทุกภพชาติหากยังเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสังสารนี้


แม้จะไม่มีลูกเป็นของตัวเอง แต่เมื่อมีโอกาสได้สัมผัสกับเด็กๆ และผู้ปกครอง ก็พยายามจะชักชวนให้มองและคิดในทัศนะเช่นนี้ บางคนฟังแล้วเกิดเป็นสัมมาทิฐิก็นำพาลูกหลานของตนเข้ามาบ่มเพาะศีลธรรมตามกำลังความสามารถ


วันข้างหน้าพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระอริยสงฆ์ท่านก็จะลดน้อยลง และโอกาสของการเข้าถึงท่านจะมีน้อยลง วาสนาบารมีของคนรุ่นใหม่ที่จะได้รู้จักศีลธรรมและได้เจอพระแท้ก็มีน้อยลงตามลำดับ เมื่อนึกเช่นนี้แล้วก็รู้สึกสลดใจ เพราะภาพของสังคมวัฒนธรรมและวิถีชีวิตก็เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เด็กประถมเริ่มใช้สารเสพติด พ่อแม่วัยใสเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ... คนเข้าวัดน้อยลงคนเข้าคุกมากขึ้น(ดั่งหลวงปู่ท่านเอ่ยอยู่เสมอ) ... แล้วสิ่งใดเล่าที่จะช่วยทำให้เด็กอยู่รอดได้ในสังคมที่เปลี่ยนไป ...

คำตอบมีทางเดียวคือ ศีลและธรรม

ศีลเพียงห้าข้อ ก็สามารถนำพามาซึ่งความสงบสุขได้ โอกาสที่จะเรียนรู้ศีลธรรมจากพระแท้ ก็เริ่มยากขึ้นทุกที ดังนั้นทุกๆ วินาทีถ้ามีโอกาสก็ต้องรีบคว้าโอกาสนั้น


ดั่งเด็กๆ 5-6 คน เพื่อนในวัยเดียวกัน ขับรถซิ่ง ติดยา หรือเที่ยวเล่นไปวันๆ แต่พวกเขาเหล่านี้กลับมีชีวิตอยู่ภายใต้ความร่มเย็นบารมีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์



หมายเลขบันทึก: 617654เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2016 19:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 ตุลาคม 2016 19:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท