กรวดน้ำ
นายอานนท์ ภาคมาลี(คนหาปลา ข้าราชการบำนาญ)
กรวดน้ำ คือ การตั้งใจอุทิศส่วนบุญกุศลที่เราได้ทำไว้แล้วให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมทั้งรินน้ำให้ไหลลงไปที่พื้นดินหรือที่รองรับแล้วเอาไปเทที่พื้นดินอีกต่อหนึ่ง หรือรดที่โคนต้นไม้ก็ได้
เพื่อให้จำง่ายไม่สับสน จึงขอแยกออกเป็นข้อๆดังนี้
-
การกรวดน้ำ มี ๒ วิธี คือ
-
การอุทิศผลบุญ มี ๒ วิธี คือ
- น้ำที่กรวด ควรเป็นน้ำสะอาด ไม่มีสีและกลิ่น เมื่อกรวดเสร็จแล้ว ควรรินในที่สะอาดหรือนำไปเทในที่สะอาด อย่ารินลงกระโถนหรือที่สกปรก
- น้ำเป็นสื่อ – ดินเป็นพยาน การกรวดน้ำ มิใช่จะอุทิศไปให้ผู้ตายกินน้ำ แต่ใช้น้ำเป็นสื่อและใช้แผ่นดินเป็นพยานให้รับรู้ในการอุทิศส่วนบุญ
-
ควรกรวดน้ำตอนไหน ควรกรวดน้ำทันที่ในขณะที่พระสวดอนุโมทนา แต่ถ้าไม่สะดวกจะทำตอนหลังก็ได้ แต่ทำในขณะนั้นดีกว่า ด้วยเหตุ ๒ ประการ คือ
-
ควรรินน้ำตอนไหน ควรเริ่มรินน้ำพร้อมตั้งใจอุทิศในขณะผู้นำเริ่มสวดว่า “ ยะถา วาริวะหาปูรา…” และรินน้ำให้หมดในเมื่อพระว่ามาถึง “… มะณิโชติระโส ยะถา…” พอพระทั้งหมดรับพร้อมกันว่า “สัพพี ติโย วิวัชชันตุ…” เราก็พนมมือรับพรท่านไปจนจบ จึงจะถือว่าถูกต้อง
- ถ้ายังว่าบทกรวดน้ำไม่เสร็จ จะทำอย่างไร ก็ควรใช้บทกรวดน้ำสั้นๆ หรือใช้บทกรวดน้ำย่อก็ได้ เช่น “อิทิง โน ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขออุทิศส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่…(ออกชื่อผู้ล่วงลับ)…และญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุขเถิด”
-
อย่าทำน้ำสกปรก ด้วยการเอานิ้วไปรอไว้ ควรรินให้ไหลเป็นสาย ไม่ขาดระยะ และไม่ควรใช้วิธีเกาะตัวกันเป็นกลุ่ม หรือเป็นทาง เหมือนเล่นงูกินหาง ถ้าเป็นงานในพิธีต่างๆ ให้เจ้าภาพหรือประธาน รินน้ำเพียงคนเดียว หรือคู่เดียวก็พอ คนอื่นๆก็พนมมือไหว้ตั้งใจอุทิศไปให้
-
ควรสำรวมจิตใจขณะการทำบุญและอุทิศส่วนบุญ อย่าให้จิตฟุ้งซ่าน ปลูกศรัทธา ความเชื่อ และทำจิตใจให้เลื่อมใสมั่นคง ผลของบุญและการอุทิศส่วนบุญ ย่อมมีอานิสงส์มาก
- บุญเป็นของกายสิทธ์ คือ มีฤทธิ์เดชอยู่ในตัว ยิ่งให้ ยิ่งมาก ยิ่งตระหนี่ยิ่งน้อย ยิ่งอุทิศให้คนอื่นหมดเลย เราจะยิ่งได้บุญหมดเลย
- กรวดน้ำเปียก คือใช้น้ำเป็นสื่อ รินน้ำลงไปพร้อมกับอุทิศผลบุญกุศลด้วย
- กรวดน้ำแห้ง คือไม่ใช้น้ำ ใช้แต่สิบนิ้วพนม อธิษฐาน แล้วอุทิศผลบุญกุศลไป
- อุทิศเจาะจง ได้แก่ การออกชื่อผู้ที่เราจะให้ท่านรับ เช่น พ่อ…แม่…ลูก…หรือใครก็ได้
- อุทิศไม่เจาะจง ได้แก่ การกล่าวรวมๆกันไป เช่นญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น
ทางที่ถูก ควรทำทั้งสองวิธี คือผู้ที่มีคุณหรือมีเวรต่อกันมาก เราควรอุทิศเจาะจง ส่วนที่เหลืออุทิศรวมๆ
- ถ้ามีเปรตญาติมารอรับส่วนบุญ ท่านก็ย่อมได้รับในทันที่
- การรอไปกรวดน้ำที่บ้านหรือกรวดภายหลัง บางครั้งอาจลืมไป ผู้ที่เขาตั้งใจรับส่วนบุญก็จะไม่ได้รับ ผู้ที่เราตั้งใจจะให้ส่วนบุญก็พลอยไม่ได้รับไปด้วย
หรือจะใช้แต่ภาษาไทยอย่างเดียวก็ได้ว่า
“ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้จงสำเร็จแก่พ่อแม่ ญาติ ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับส่วนบุญกุศลครั้งนี้โดยเร็วพลัน และโดยทั่วถึงกันเทอญ”
ส่วนบทยาวๆ เราควรเอาไว้กรวดน้ำส่วนตัว หรือกรวดน้ำในขณะทำวัตรสวดมนต์รวมกันก็ได้
ข้อสำคัญ ถ้าเป็นภาษาพระควรจะรู้คำแปล หรือความหมายด้วย ถ้าไม่รู้ความหมายก็ควรใช้คำไทยอย่างเดียวดีกว่า เพื่อป้องกันหลงงมงาย
ผลบุญที่เราอุทิศไปให้ ถ้าไม่มีใครมารับก็ยังเป็นของเราอยู่ครบถ้วน ไม่มีผู้ใดมาโกงหรือแย่งชิงเอาไปได้เลย