ผมเคยถึงโรงเรียนเจ็ดโมงครึ่ง...วันนี้..ถึงโรงเรียนเจ็ดโมง ขับรถนำหน้ารถตู้และรถบัสปรับอากาศ ที่นำอาจารย์ และนิสิต จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม จำนวน ๕๐ คน มาช่วยจัดค่ายวิทยาศาสตร์และจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักเรียน..ตลอดทั้งวัน
ภาคเช้า..เริ่มต้นที่กายบริหาร มีทั้งท่ามือเปล่า เต้นแอโรบิค ยักย้ายส่ายสะโพก และมวยไทย เป็นการอุ่นเครื่องทั้งพี่และน้อง ... ตลอดจน..สร้างความประทับใจให้พี่...
พี่เริ่มสอนน้อง ด้วยทักษะ กระบวนการทดลอง ให้คิด วิเคราะห์ มีการสนทนา ซักถาม ตอบปัญหา ให้น้องสังเกต มีส่วนร่วมในกระบวนการกลุ่ม ขณะเดียวกันก็สอดแทรกนันทนาการ....
นับเป็นกิจกรรมที่พิเศษสุด..ของโรงเรียน...เป็นศาสตร์แห่งการเรียนรู้ ที่ทำให้นักเรียนตื่นเต้น มีใจจดจ่อกับวิทยากร..ที่เขาไม่คุ้นเคยและให้ความสำคัญ กับวิธีการที่แปลกใหม่ ได้เห็นและจับต้องเครื่องมือที่ไม่เคยเห็น ...ผ่านไปครึ่งวัน..กับความรู้ทั้งหมด ๗ ฐาน ที่นักเรียนได้รับและประทับใจ
ช่วงบ่าย...เป็นศิลปะสร้างสรรค์ เพลง และเกม ตลอดจนการละเล่นที่พี่มอบให้น้อง ทั้งร้อง รำ ทำเพลง และกิจกรรมงานประดิษฐ์ สร้างผลงานระหว่างพี่กับน้อง ให้ระลึกถึงกัน
นอกเหนือจากศาสตร์และศิลป์ ในค่ายวิทยาศาสตร์ ที่นิสิต..มอบให้น้องๆ สิ่งที่ผมค้นพบ..คือ..ทักษะชีวิตที่น้องได้รับโดยไม่รู้ตัว..ทั้งทักษะทางสังคม การมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก การให้ความเคารพวิทยากร เคารพรุ่นพี่ นักเรียนได้ฝึกความมีระเบียบวินัย กิริยามารยาท ในขณะที่เรียนรู้ร่วมกัน ที่ต้องมีเงื่อนไขของเวลา กฎเกณฑ์และกติกา
การรวมกลุ่ม ในแต่ละฐาน นักเรียนชั้น ป.๑ – ป.๖ ต้องเข้ากลุ่มแบบคละชั้น ตรงนี้..เป็นการฝึกการทำงานร่วมกัน เคารพซึ่งกันและกัน ยอมรับกัน ฝึกการเป็นผู้นำผู้ตามและความพร้อมเพรียง กิจกรรมแบบนี้..ไม่มีคะแนน..ไม่มีการแข่งขัน...ไม่มีแพ้ชนะ ทุกคน ทุกกลุ่ม ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน...จึงไม่สร้างความบาดหมาง ไม่เกิดความอิจฉาริษยา มีแต่การแบ่งปัน ระหว่างพี่กับน้อง ...ผมจึงถือว่า..วันนี้โรงเรียน...ได้รับโอกาสที่พิเศษสุด และ นักเรียนได้รับบทเรียนที่มีคุณค่า..และเขาจะจดจำ..สิ่งนี้..ไปตลอดชีวิต.
นี่คือ..ส่วนหนึ่ง..ของกระบวนการเรียนรู้ นอกห้องเรียน...ที่โรงเรียนขนาดเล็ก..สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ในแง่ของ..ศาสตร์และศิลป์... ในการจัดกิจกรรม ทำให้นักเรียนตื่นตาตื่นใจ ด้วยรูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย ...
ในความจำกัด..อาจจะโชคดี ที่มีคณะวิทยากรจากภายนอกมาช่วยอย่างมากมาย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แถมยังบริจาควัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้อีกด้วย.....
แต่ในช่วงเวลาปกติ..ที่ยาวนาน..ที่ขาดครู..จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง..ที่โรงเรียนขนาดเล็ก ต้องคิดเอง ทำเอง หันมาสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้แบบวันนี้ที่ผมเห็น อย่างน้อย..ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ก็จะได้ทั้งความรู้และได้นั่งอยู่ในหัวใจนักเรียน...ตลอดไป
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๙
ไม่มีความเห็น