การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ส่วนมากใช้สถิติค่าความถี่ (Frequency) และ ร้อยละ (Percentage)เพื่ออธิบายลักษณะทางประชากรศาสตร์ของนักศึกษา ส่วนการวิเคราะห์ระดับความรู้ /ระดับทัศนคติ/ระดับพฤติกรรม ใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
การวิเคราะห์สถิติเชิงอนุมาน ใช้ทดสอบสมมติฐานดังนี้
1 การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม ด้วย t-test (independent t-test) เป็นการทดสอบประชากร 2 กลุ่ม โดยที่สุ่มตัวอย่างจากกลุ่มตัวอย่างแต่ละกลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน โดยในขั้นแรกทำการทดสอบความแตกต่างระหว่างความแปรปรวนของกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่ม ด้วยสถิติการทดสอบของ Leveneหากผลการทดสอบพบว่าค่าความแปรปรวนของทั้ง 2 กลุ่มไม่แตกต่างกัน จะใช้การทดสอบ t แบบ Equalvariances assumed แต่ถ้าค่าความแปรปรวนของทั้ง 2 กลุ่มแตกต่างกัน ใช้การทดสอบ t แบบ Equal variances not assumed
2 การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความแปรปรวนของกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่ม ด้วยสถิติการทดสอบของ Levene ซึ่งหากผลการทดสอบพบว่าค่าความแปรปรวนของทุกกลุ่มไม่แตกต่างกัน ก็จะใช้สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Analysis of Variance) ในการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง ถ้าพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จะทำการทดสอบรายคู่ โดยวิธี LSD (Least Significant Difference) แต่หากผลการทดสอบพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความแปรปรวนแตกต่างกันอย่างน้อย 1 คู่ ก็จะใช้สถิติ Brown – Forsythe ในการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง ถ้าพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จะทำการทดสอบรายคู่ โดยวิธี Dunnett T3
3 ใช้ค่าสถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (r) เพื่อวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ ระหว่าง.........กับ ..................................
โดยการใช้หลักการแปลความหมายระดับความสัมพันธ์ (ชูศรี วงศ์รัตนะ, 2541) กำหนดดังนี้
ถ้าค่า r มีค่ามากกว่า 0.7 แสดงว่ามีความสัมพันธ์ในระดับสูง
ถ้าค่า r มีค่าระหว่าง 0.3 -0.7 แสดงว่ามีความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง
ถ้าค่า r มีค่าน้อยกว่า 0.3 แสดงว่ามีความสัมพันธ์ในระดับต่ำ
ถ้าค่า r มีค่าเท่ากับ 0 แสดงว่าไม่มีความสัมพันธ์กันเลย
ไม่มีความเห็น