คนส่วนใหญ่-ซึ่งไม่มีความรู้ทางการเงิน กำลังถูกเอาเปรียบจาก คนส่วนน้อย-ที่มีความรู้ทางการเงิน
บันทึกซีรี่ส์นี้ มาจากการจดบันทึกการฟังบรรยายของ The Money Coach: จักรพงษ์ เมษพันธุ์ (พื้นฐานเป็นวิศวกร) ในซีรี่ย์ "Money Fitness the Series" ที่นี่ ซึ่งมี 11 ตอนดังนี้
ตอนที่ 1: เรื่องที่โรงเรียนไม่เคยสอน
ตอนที่ 2: วงจรเงิน Vs วงจรชีวิต
ตอนที่ 3: สุขภาพการเงินที่ดี
ตอนที่ 4: งบการเงินส่วนบุคคล
ตอนที่ 5: ชีวิตคุณมีกำไรหรือเปล่า?
ตอนที่ 6: ทำไมคนจน ยิ่งจนลง
ตอนที่ 7: งบการเงินธุรกิจส่วนตัวและอาชีพอิสระ
ตอนที่ 8: การบริหารค่าใช้จ่ายประจำวัน
ตอนที่ 9: การบริหารสภาพคล่อง
ตอนที่ 10: การวางแผนออมโดยอัตโนมัติ
ตอนที่ 11 การวางแผนปลดหนี้ (1)
ตอนที่ 1 Keyword คือ "ความรู้ทางการเงิน" จดบันทึกและให้ความเห็นเพิ่มเติมได้ดังนี้
- เรื่องของการเงิน (ซึ่งเป็นเรื่องสมมุติ ที่ไม่มีอยู่จริง แต่มันอยู่ในวงจรชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องสมมุติอีกนั่นแหละ) เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจ (แต่คิดว่าตัวเองเข้าใจ) ต้นเหตุของความไม่รู้ เพราะว่า ไม่มีการเรียนการสอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย (แต่จริงๆ แล้ว บีแมน สอนน๊ะ แต่นิสิตส่วนใหญ่ไม่สนใจฟัง) เพราะเป็นวัฏจักรของความไม่รู้ (อวิชชา)
- ความเข้าใจผิดทางการเงิน (the myth about money) คือ (1) "เงิน" ทำให้เรารวย (2) หาเงินได้มากขึ้นแล้วจะรวยขึ้น (3) มีรายได้มากขึ้นแล้วชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น..ความคิดที่ผิดทางการเงิน ทำให้มนุษย์มีลักษณะเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ "วิ่งไล่หาเงิน" (ซึ่งไม่มีทางจะทัน) หรือ ทำงานหนักเพื่อเงิน ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย...พ่อแม่ส่วนใหญ่จะสอนลูกว่า "เรียนให้ดีๆ น๊ะลูก ทำคะแนนให้ดีๆ สอบเข้าโรงเรียนดีๆ เมื่อจบแล้วจะได้ทำงานดีๆ มีรายได้เยอะๆ แล้วเมื่อนั้นลูกจะไม่ต้องห่วงเรื่องอนาคตทางการเงินของตัวเอง"
- มนุษย์มีความแปลกอยู่หลายอย่าง อย่างหนึ่งคือ "เมื่อรายได้มากขึ้นหรือมีเงินมากขึ้น จะมีความสามารถในการหารายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้นมาเท่าเทียมรายได้...อิอิ
- ความเข้าใจที่ถูก..ความเชื่อหรือ Mindset ที่ถูกคือ เงินหรือรายได้ที่มากๆ ไม่ได้ทำให้เรารวย แต่สิ่งที่ทำให้เรารวยอย่างมั่นคงและถาวร คือ "ความรู้ทางด้านการเงิน" (อีกนั่นแหละ เงินก็ไม่สามารถซื้อความสุขได้ ความสุขนั้นหาได้ภายในจิตใจของเราเอง คือ จิตใจที่ดีงามและรู้จักการให้..อิอิ)
-
ความรู้ทางการเงิน (Money Literacy) มันมีวงจรดังภาพข้างบน คือ การหารายได้, เอามาใช้จ่าย, ลงทุน และเก็บออม ซึ่งถ้าเรียงลำดับ เป็นสมการจะได้ รายได้-เงินออม=การใช้จ่าย.... ส่วนเงินที่ลงทุนก็แบ่งมาจากเงินออมนั่นแหละ
- คนที่ไม่มีความรู้ทางด้านการเงินย่อมเสียเปรียบคนที่มีความรู้ทางการเงินอยู่ตลอดเวลา (นั่นหมายความว่า คนส่วนใหญ่-ซึ่งไม่มีความรู้ทางการเงิน กำลังถูกเอาเปรียบ จากคนส่วนน้อยที่มี ความรู้ทางการเงิน)
- คนที่มีความรู้ทางด้านการเงินนั้น จะทำให้ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินและมีชีวิตที่มั่งคั่งได้ (แต่ไม่รับรองว่าจะมีความสุขน๊ะครับ-ความสุขพื้นฐานนั้นคือการมีปัจจัย 4 ที่พอเพียง)
- ความรู้ทางการเงิน ช่องที่ 1 ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่เรียนหนังสือมาเพื่อสุดท้ายจะมาหารายได้ (เครืองจักรทำเงิน)
- ความรู้ทางการเงิน ช่องที่ 2 นี่มีปัญหามาก คนส่วนใหญ่จะคิดว่า เรื่องการใช้จ่ายต้องสอนด้วยเหรอ แต่ความจริงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ มีเรื่องของ การบริหารการใช้จ่ายหรือควบคุมการใช้จ่าย (ความจริงคือควบคุมตัวเอง ในด้านกิเลสและตัณหา ให้พิจารณาอย่างมีสติ ถามตัวเองว่า สิ่งที่เราต้องการนั้น มันเป็น-"ความจำเป็น" หรือ "อยากได้") คือ การทำงบการเงิน บริหารรายจ่ายได้เหมาะสม ก็จะมีเงินเหลือเก็บ
- ความรู้ทางการเงิน ช่องที่ 3 นี่ก็มีปัญหา...คนส่วนใหญ่คิดว่า มีรายได้ แล้วก็ใช้จ่าย แล้วมีเงินเหลือค่อยเก็บ อย่างนี้ 97% ของคนจะไม่มีเงินเหลือเก็บ...ต้องเปลี่ยนสูตรใหม่ เป็น มีรายได้ แล้วเก็บออมก่อน (ควรเก็บตั้งแต่ 5-50% ของรายได้ ค่ากลางๆ ที่เหมาะสมคือ 20-30%) ที่เหลือค่อยใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็น แล้วถ้าสุดท้ายยังมีเงินคงเหลือรายเดือนอีก ถือว่า "สุดยอด"
- การออมที่ไม่มีระบบและเป้าหมาย ก็จะไปไม่ถึงคำว่า "อิสระภาพทางการเงิน-Financial Freedom"
- ความรู้ทางการเงิน ช่องที่ 4 นี่ยิ่งมีปัญหามาก เงินที่เก็บออม (รวมทั้งเงินของคนอื่นด้วย) เรานำมาบริหารด้วยการลงทุน ถ้าบริหารไม่ดี เงินที่เก็บออมมาก็จะหมดไป และชีวิตจะประสบความล้มเหลวทางด้านการเงิน
- ดังนั้น ความรู้ทางการเงิน ทั้ง 4 ด้าน เราต้องเข้าใจวงจรอย่างถ่องแท้ แล้วนำมาบริหารให้เกิดความสมดุลทั้ง 4 ด้าน (อย่างชาญฉลาด-ที่เป็นแบบเฉพาะตัวของเราอย่างเหมาะสม-ด้วยจิตที่ไม่ละโมบโลภมากจนเกินไป)
- สัดส่วนความสมดุลของ ความรู้ทางการเงิน คือ หารายได้ 40 : เก็บออม 20 : การใช้จ่าย 20 : การลงทุน 20
จบตอนที่ 1 ครับ