ตลาดอุตสาหกรรมยาแผนโบราณ ตามทัศนะของผู้บริโภค


งานวิจัยนี้ ทำการศึกษาเกี่ยวกับตลาดอุตสาหกรรมยาแผนโบราณตามทัศนะของผู้บริโภค โดยมุ่งศึกษาผู้บริโภคยาแผนโบราณที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาในเขตกรุงเทพมหานคร ในประเด็นหลัก 2 ประการ คือ พฤติกรรม และทัศนคติต่อส่วนผสมทางการตลาดยาแผนโบราณ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล

ผลการวิจัย พบว่า

- ผู้บริโภคเคยใช้ยาแผนโบราณในกลุ่มระบบทางเดินอาหารมากเป็นอันดับ 1 และกลุ่มยาระบบตา/หูเป็นอันดับสุดท้าย

- เมื่อเกิดการเจ็บป่วย ผู้บริโภคจะไปใช้บริการที่โรงพยาบาลเอกชน / คลินิกเป็นส่วนใหญ่

– เหตุผลในการเลือกใช้ยาแผนโบราณ เพราะเชื่อถือในคุณภาพมากกว่ายาแผนปัจจุบัน

– ประสบการณ์ในการใช้ยาแผนโบราณส่วนใหญ่ใช้ยาน้อยกว่า 5 ปี

– การใช้ยาแผนโบราณครั้งแรกส่วนใหญ่เป็นเพราะบุคคลใกล้ชิดแนะนำ

– สื่อโฆษณายาแผนโบราณที่พบเห็นมากที่สุด ได้แก่ วิทยุ

– วิธีการซื้อยาแผนโบราณ ทำโดยระบุชื่อยาที่ต้องการซื้อและจะซื้อใช้เป็นครั้งคราวจากร้านขายยา

– เหตุผลในการเลือกสถานที่ซื้อยาแผนโบราณเพราะเชื่อ มั่นในคุณภาพสินค้า ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะทดลองใช้ การเปลี่ยนชื่อยาแผนโบราณผู้บริโภคส่วนใหญ่เห็นว่า ควรใช้ชื่อ “ยาจากสมุนไพร”

– เมื่อเปรียบเทียบทัศนคติของผู้บริโภคยาแผนโบราณ ที่มีต่อส่วนผสมทางการตลาดยาแผนโบราณ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา อาชีพ รายได้ และการศึกษา พบว่า โดยภาพรวมของส่วนผสมทางการตลาดยาแผนโบราณไม่มีความแตกต่างกัน

– เมื่อวิเคราะห์ในรายข้อปัจจัยส่วนบุคคลด้านอาชีพและศาสนา พบว่า มีทัศนคติไม่แตกต่างกัน

– ผลการวิจัยปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ พบว่า มีความแตกต่างกัน โดยเพศชายมีความคิดเห็นว่า จะซื้อยาแผนโบราณเฉพาะตรายี่ห้อโฆษณาผ่านทางสื่อต่างๆมากกว่าเพศหญิง

– ปัจจัยด้านอายุ พบว่า กลุ่มอายุระหว่าง 30-40 ปี มีความคิดเห็นว่ายาแผนโบราณมีสรรพคุณเชื่อถือได้น้อยกว่ากลุ่มอายุระหว่าง 20-30 ปี และ 50 ปีขึ้นไป กลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป มีความคิดเห็นว่ายาแผนโบราณมีผลการรักษาตามที่โฆษณามากกว่ากลุ่มอายุระหว่าง 40-50 ปี กลุ่มอายุระหว่าง 20-30 ปี มีความคิดเห็นว่า ราคายาแผนโบราณถูกกว่ายาแผนปัจจุบันมากกว่ากลุ่มอายุระหว่าง 40-50 ปี กลุ่มอายุ 20-30 ปี มีความคิดเห็นว่าราคายาแผนโบราณเหมาะสมกับคุณภาพของยาแผนโบราณมากกว่ากลุ่ม ที่มีอายุมากกว่ากลุ่มอื่นๆ และกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป เห็นความสำคัญของการโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ในการส่งเสริมการขายยาแผน โบราณน้อยกว่ากลุ่มที่มีอายุน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ

- ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเชื้อชาติ พบว่า กลุ่มเชื้อชาติไทยมีความคิดเห็นว่าผลการรักษาด้วยยาแผนโบราณมีสรรพคุณตาม ที่แสดงไว้ในฉลาก,มีรูปแบบการบรรจุหีบห่อที่เหมาะสม, ราคาถูกกว่ายาแผนปัจจุบัน และการส่งเสริมการขายเป็นสิ่งที่สำคัญในการส่งเสริมการขายยาแผน โบราณามากกว่ากลุ่มเชื้อชาติจีน

- ปัจจัยส่วนบุคคลด้านรายได้ พบว่า กลุ่มรายได้ต่อเดือนระหว่าง 10,001-15,000 บาท มีความคิดเห็นว่า การโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญในการส่งเสริมการขายยาแผน โบราณมากกว่ากลุ่มรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท

- ปัจจัยส่วนบุคคลด้านการศึกษา พบว่า กลุ่มปริญญาตรีมีความคิดเห็นว่ายาแผนโบราณมีผลการรักษาโรคตามที่โฆษณา มากกว่ากลุ่มที่สูงกว่าปริญญาตรี, กลุ่มต่ำกว่าปริญญาตรี มีความคิดเห็นว่าการรู้จักคนขายยาแผนโบราณเป็นสาเหตุสำคัญในการเลือกซื้อยา แผนโบราณมากกว่ากลุ่มปริญญาตรี, กลุ่ม สูงกว่าปริญญาตรีมีความคิดเห็นว่าการโฆษณาทำให้เกิดความเชื่อมั่นในยาแผน โบราณน้อยกว่ากลุ่มต่ำกว่าปริญญาตรีและปริญญาตรี และกลุ่มปริญญาตรีมีความคิดเห็นว่าการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญ ในการส่งเสริมการขายยาแผนโบราณมากกว่ากลุ่มต่ำกว่าปริญญาตรี

ผู้วิจัย – เสาวนีย์ ปทุมชาติ (2542)

หมายเลขบันทึก: 60556เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2006 10:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 12:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท