ตามหลักการพัฒนามนุษย์เชิงพุทธ ความเป็นคนดีย่อมเกิดได้จากปัจจัย 2 ประการ คือ ปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในปัจจัยภายนอก(ปรโตโฆสะหรือกัลยาณมิตร) คือ สภาพแวดล้อมโดยเฉพาะบุคคลแวดล้อมที่ได้แก่ พ่อแม่ ครูอาจารย์ เพื่อนพ้อง รวมทั้งบุคคลในสังคมที่เกี่ยวข้องทั้งหลายส่วนปัจจัยภายใน(โยนิโสมนสิการ) คือ ความรู้สึกนึกคิดที่ดี มีเหตุผล หรือทักษะทางปัญญาของบุคคลที่ส่งผลสู่การกระทำหากบุคคลมีสภาพแวดล้อมชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่ดี มีสถาบันการศึกษาที่ดี มีสังคมที่ดี ประกอบกับตนเองมีความรู้สึกนึกคิดที่ดี มีกระบวนการคิดที่มีเหตุผล ใช้สติปัญญาในการตัดสินใจดำเนินชีวิตบุคคลนั้นก็ย่อมอยู่บนครรลองของ “ความเป็นคนดี”
ทั้งนี้ ตามหลักการศึกษาและพัฒนาเชิงพุทธ (ไตรสิกขา) ตัวชี้วัดความเป็นคนดี มีองค์ประกอบ 3 ด้านได้แก่
1. มีพฤติกรรมดี หรือมีวินัยในการอยู่ร่วมในสังคม (ศีล)คือ มีการแสดงออกทางกายและวาจาที่เรียบร้อย อยู่ในระเบียบปฏิบัติที่ดีงาม ไม่เบียดเบียนทำร้ายผู้อื่น งดเว้นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและส่วนรวมข้อนี้เป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของความเป็นคนดี
2. มีจิตใจดี (สมาธิ) คือ มีจิตใจที่สงบ เยือกเย็น มีคุณธรรมประจำใจ เช่น สัจจะ(ซื่อสัตย์) ทมะ(ข่มใจได้) ขันติ (อดทน)จาคะ (เสียสละ)เมตตา (หวังดี) และกตัญญูรู้คุณ เป็นต้น รวมถึงจิตสำนึกที่ดีทั้งหลาย เช่น สำนึกในหน้าที่สำนึกสาธารณะ เป็นต้น
3. มีปัญญาดี (ปัญญา) คือ มีความคิดเห็นประกอบด้วยเหตุผล เฉลียวฉลาดในการแก้ปัญหาหรือตัดสินใจเลือกดำเนินชีวิตในทางที่ดีสามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมินค่าสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และเข้าใจสัจธรรมของชีวิต(ความมีปัญญา คือ คุณสมบัติสูงสุดของมนุษย์ที่ได้รับการพัฒนาแล้ว)
หากบุคคลมีปัจจัยภายนอกและภายในที่ดี สามารถได้รับการพัฒนาและพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติความเป็นคนดี 3 ประการ คือ ระเบียบวินัยหรือพฤติกรรมดีจิตใจดีและปัญญาดีย่อมได้ชื่อว่าเป็น “คนดี”
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักศึกษา "คนดีเชิงพุทธ "
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
ไม่มีความเห็น