บันทึกที่ ๑๖๗ : วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคิรีวิหาร จังหวัดบึงกาฬ
........เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปที่วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคิรีวิหาร หลังจากที่เห็นภาพทางอินเตอร์เน็ต กับชื่อวัดภูทอกที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็กที่คุณแม่เคยไปและเล่าให้ฟัง ผู้เขียนและครอบครัวเดินทางที่วัดภูทอก
........ประทับใจ สุขใจ ทั้งแต่ก้าวเดินลงจากรถ ทัศนียภาพรอบบริเวณสวยงาม อัศจรรย์และน่าทีงกับบันไดไม้รอบภูเขา
........วัดภูทอกตั้งอยู่บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ที่ ๖ ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้ก่อตั้งขึ้น ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๒ ได้ก่อสร้างบันไดไม้สำหรับไต่ขึ้นภูทอก มีทั้งหมด ๗ ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้าง ๕ ปี
........ ชั้นที่ ๑ เดินผ่านประตูสวรรค์เข้าไป
........ ชั้นที่ ๒ มีบันไดไม้ต่อทอดยาวจากชั้นที่ ๑ ด้านขวามือจะมีสถานีวิทยุชุมชนของวัด
........ ชั้นที่ ๓ มีบันไดเวียนรอบเขา ชมทัศนียภาพรอบเขา
........ ชั้นที่ ๔ มีบันไดเวียนรอบเขา และเป็นที่พักของแม่ชี
.........ชั้นที่ ๕ เป็นชั้นที่สำคัญ มีศาลา กุฏิพระ ตามช่องทางเดินจะมีหลายถ้ำ
ทางด้านทิศเหนือจะมีสะพานทอดสู่ พุทธวิหารเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จุดเด่นของพุทธวิหาร มีลักษณะแปลก น่าอัศจรรย์ คล้ายพระธาตุอินทร์แขวนของประเทศพม่า
......ขั้นที่ ๖ เป็นชั้นที่สวยที่สุด มีบันไดเวียนรอบเขายาว ๔๐๐ เมตร เป็นจุดชมทัศนียภาพที่สวยงาม
.......ชั้นที่ ๗ มีบันไดต่อขึ้นไป ในวันนั้นผู้เขียนไม่ได้ขึ้นไป
เจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
..........เป็นความประทับใจ กับการเดินทางที่คุ้มค่าในครั้งนี้
ขอบคุณค่ะ คุณวินัย เจริญเฉลิมศักดิ์
คุณครูอรแข็งแรง ๆ ๆ มากค่ะ ศรัทธานำทางนะคะ
ของคุณค่ะ อาจารย์ ดร.จันทวรรณ
ที่มอบดอกไม้ให้กำลังใจค่ะ
ใช่ค่ะ" ศรัทธานำทาง"
เดินทางไปกลับในวันเดียวร่วมพันกิโลเมตรเศษจากอุบลราชธานีถึงวัดภูทอก และไปเพียงจุดเดียวเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณนะคะ คุณหมอธิรัมภา
ขอบคุณนะคะ อาจารย์ ดร.ธวัชชัย