บ้านแม่ : ความแล้ง ความร้อน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2559 ดิฉันและพี่สาวไปเยี่ยมแม่ที่บ้านนครนายก เราออกเดินทางช่วงสายๆ ไปตามถนนเลียบคลองรังสิต-นครนายก ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปจังหวัดนครนายก เห็นคลองริมถนนด้านซ้ายมือมีน้ำไม่มากนัก ชาวบ้านตั้งยอจับปลากันเป็นระยะๆ ที่เกาะกลางถนนตั้งแต่องครักษ์จนใกล้ถึงตัวจังหวัด ต้นเฟื่องฟ้าออกดอกสีสันสดใสไปตลอดทาง

วันนี้ท้องฟ้ามัวๆ เหมือนฝนจะตก เมื่อไปถึงบ้าน แม่กำลังนอนหลับอยู่ เราสามพี่น้องจึงออกไปช่วยกันเก็บผักรอบๆ บ้าน ได้ทั้งยอดชะอม ยอดและลูกมะระขี้นก ดอกสะเดา มะเขือยาว มะเขือพวง หัวปลี ถั่วฝักยาว ยอดตำลึง ผักหวาน ดอกแค ดิฉันเอาปลาทูนึ่งไปจากกรุงเทพฯ เราจึงทอดปลาทูแล้วเอามาตำน้ำพริกกินกับผักต้มและผักสดที่เก็บได้ พี่สาวมีแกงโฮะใส่ไก่ทำเองติดมือไปจากบ้านด้วย อาหารง่ายๆ ไม่กี่อย่าง แต่ก็อร่อยจนทานข้าวกันคนละสองจานเลย

พี่สาวซื้อเตียงสำหรับคนป่วยมาให้แม่นอนเพื่อจะได้ไขหัวเตียงสูงขึ้นได้ สะดวกทั้งแม่และคนดูแล กว่าแม่จะตื่นก็เลยเวลาเที่ยงไปมากแล้ว น้องสาวป้อนข้าวต้มกับเนื้อปลาทูทอด แม่กินได้หมดถ้วย แม่ฟังไม่ค่อยได้ยิน เวลาที่พูดด้วยจึงต้องพูดดังๆ ที่ข้างหู ช่วงบ่ายแม่หลับได้นาน เรากำลังจะปรับปรุงบ้านแม่ให้มีความแข็งแรงและอยู่สบายขึ้น ขยายห้องของแม่ให้กว้างขวาง เพราะแต่ละคืนมีคนมานอนเป็นเพื่อนแม่กันหลายคน

ดิฉันเข้าสวนในช่วงบ่าย มีแดดแต่ก็ไม่แรงมาก ลมพัดเย็น ท้องนาข้างๆ สวนมีร่องรอยการเผาฟางข้าว พืชผลในสวนที่ออกลูกให้กินได้ตอนนี้คือกล้วยน้ำว้า มะม่วงพิมเสนและมะม่วงน้ำดอกไม้กำลังออกช่อและลูกที่ยังไม่แก่ ในบ่อมีน้ำอยู่พอสมควร บัวและผักตบชวายังออกดอกกันเหมือนเคย

สวนและท้องนาที่อยู่ติดกัน

เห็นนกต่างๆ บินกันอยู่หลายชนิด ที่เยอะสุดคือนกกระยางสีขาว เห็นนกกระสาแดงเกาะอยู่บนยอดไม้สองครั้ง รวมทั้งเหยี่ยวตัวสีน้ำตาลลายๆ แต่ถ่ายรูปไม่ได้ ส่วนที่ถ่ายรูปได้คือนกเจ้าเก่า กระแตแต้แว้ด (Red-wattled lapwing) ที่ออกไปส่งเสียงร้องอยู่ในทุ่งนา นกกาน้ำ (Cormorant) บนยอดไม้ที่ถ่ายรูประยะไกลจึงเห็นแต่ตัวดำๆ

นกกระแตแต้แว้ด

นกกาน้ำ

มีนกตัวเล็กๆ อยู่บนต้นมะขามเทศ ที่เหลือแต่กิ่งก้าน ยังไม่รู้ชื่อว่าเป็นนกอะไร ถ่ายภาพระยะไกลจึงเห็นสีสันไม่ชัด ตัวของเขาน่าจะเป็นสีน้ำตาล ท้องเหลือง มีแถบขาวต่อจากมุมปาก

นกตัวน้อยที่ยังไม่รู้ชื่อ

นกอื่นที่เจอบ่อยได้แก่ นกกางเขนบ้าน นกปรอดสวน นกแซงแซวหางปลา นกเขาที่มีอยู่มากมาย ฯลฯ

พี่สาวตั้งใจจะมาอยู่ช่วยน้องสาวดูแลแม่สักพัก เพราะน้องสาวมีอาการคล้ายหวัดและเสียงแหบแห้ง ดิฉันเดินทางกลับกรุงเทพฯ คนเดียว จึงรีบออกจากบ้านแม่ตั้งแต่ใกล้ๆ 14.30 น. เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดที่ด่านธัญบุรี ระหว่างทางขากลับตั้งแต่องครักษ์มุ่งหน้ารังสิต คลองริมถนนมีน้ำน้อยมากๆ บางช่วง เช่น ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เห็นพื้นดินที่ก้นคลองเลย บอกถึงความแห้งแล้งที่กำลังเผชิญกันอยู่

แม้จะมาถึงด่านธัญบุรีก่อน 16.00 น. แต่ก็หนีรถติดไม่พ้น รถที่เข้ากรุงเทพฯ มีปริมาณมาก ประกอบกับเมื่อเลยด่านไปมีการทำถนน ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าในการเดินทางจนถึงบ้าน

วัลลา ตันตโยทัย

บันทึกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559