ครั้งหนึ่งในชีวิตกับภารกิจออกหน่วยฯในดินแดนพุทธภูมิ ตอนที่๑


สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการเขียนบันทึกไปนาน กลับมาอีกครั้ง ว้าวววว go2know สวยกว่าเก่ามากมาย วันนี้หนึ่งขอนำประสบการณ์ "ครั้งหนึ่งในชีวิต" มาแบ่งปันอีกแล้วค่ะ อิอิ

กรมการแพทย์ มีโครงการดูแลผู้แสวงบุญ ณ ดินแดนพุทธภูมิ (อินเดีย-เนปาล) ทุกปีค่ะ สำหรับหนึ่งเป็นอะไรที่รอคอยมานานหลายปีเลยก็ว่าได้ค่ะ ไม่ลงตัวซะที จนในที่สุด ปีนี้ก็เป็นปีของหนึ่ง รายชื่อทีมโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี เราได้ไปรุ่นที่๔ (๒๗ ธ.ค.๕๘-๑๗ ฒ.ค.๕๙) ซึ่งตรงกับช่วงปีใหม่พอดีค่ะ มั่นใจมากๆว่าเราจะได้มีโอกาสสวดมนต์ข้ามปีกัน ณ ดินแดนพุทธภูมิ (เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตอีกเรื่องที่หวังไว้เช่นกันค่ะ ^^)

เมื่อทราบว่าจะได้ไปรุ่นไหนกันแล้ว กรมการแพทย์ได้นัดทุกๆทีมประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกันก่อนออกเดินทาง

ในการประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกันนี้ จะมีรุ่นพี่ที่เคยไปเมื่อปีก่อนๆ มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ปัญหาที่พบ และ Flow งานที่เราจะต้องทำเมื่อไปถึงแต่ละเมืองทั้งที่อินเดียและเนปาลค่ะ

ก็เตรียมตัวเรื่องเอกสารการเดินทาง เรื่องเอกสาร เรื่องเสื้อผ้า อาหาร ยา ฯลฯ

หนึ่งยังไม่เคยทำ Official Passport เลยต้องไปทำเพิ่มอีกเล่มค่ะ ราคา ๑,๐๐๐ บาทเท่ากัน การถ่ายรูปติดบัตรนี่เป็นปัญหาใหญ่จริงๆค่ะ แม้ว่าเดี๋ยวนี้ จนท.จะใจดี ถ่ายรูปแรกแล้วให้เราเช็ครูป ถ้าเราไม่โอเค ก็ให้เราถ่ายใหม่ได้อีก แต่เค้าก็เตือนก่อนด้วยว่า ถ้าถ่ายใหม่ รูปแรกคือจะถูกลบไปเลยนะคะ เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก อิอิ ครั้งนี้หนึ่งตัดใจ ถ่ายครั้งเดียวย ไม่ขอเช็ครูปด้วย รอลุ้นตอนพาสปอร์ตส่งมาถึงบ้าน 555 (หนึ่งคิดว่ารูปที่ได้โอเคกว่าที่ขอถ่ายใหม่ในพาสปอร์เล่มเก่าอีกค่ะ ^^)

สัมภาระวันเดินทางอาจดูเยอะไปหน่อย เพราะรวมยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ด้วยค่ะ


ถึงคยาเรียบร้อยแล้วค่ะ

แหะๆ ... ไว้มาเขียนต่อค่ะ

ขอเล่าต่อ เน้นเป็นรูปภาพนะคะ

เส้นทางจากสนามบินมาวัดไทยพุทธคยา ค่อนข้างจะติด เพราะมีรถบรรทุกจอดเป็นแถวยาวมากทำให้ถนน ๒ เลน เหลือเพียงเลนเดียวที่รถพอจะวิ่งได้ และรถวิ่งสวนทางกันไม่ได้ ดังนั้น พนักงานขับรถซึ่งเป็นชาวอินเดีย ที่มารับเราจึงตัดสินใจพาพวกเรามาทางลัดเข้าในหมู่บ้าน ถนนลูกรัง บ้าง เศษอิฐบ้าง แหะๆ สะเทือนไปบ้าง ลำไส้อาจพันกันบ้าง แต่ก็ดีกว่ารอรถติดบนถนนที่เหลือเลนเดียว(อันนี้ยังไม่รวมเสียงแตรที่รถทุกคันกดตลอดเวลานะคะ ^^")

ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้มาเห็นหมู่บ้านของชาวคยาค่ะ

นั่งรถผ่านเข้ามาในหมู่บ้านแบบนี้ สังเกตว่าบ้านส่วนใหญ่จะไม่ฉาบปูน ไม่ทาสี เหมือนยังสร้างไม่เสร็จ ดูๆไปคล้ายบ้านร้าง แต่จริงๆแล้วเป็นบ้านที่มีคนอาศัยอยู่ทุกหลังค่ะ สาเหตุที่ส่วนใหญ่เค้าไม่ทาสี ไม่ฉาบปูน เพราะหากเป็นบ้านที่ฉาบปูนทาสี จะต้องเสียภาษีราคาแพงมาก ดังนั้นถ้าเราเห็นบ้านหลังไหนทาสีสวยงาม ก็แปลว่า เจ้าของบ้านมีเงินเยอะนั่นเองค่ะ อิอิ

นั่งรถมาระยะนึง ก็เข้าสู่เขตเมือง ถนนเริ่มดีขึ้น และแล้วเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายวันนี้ค่ะ "วัดไทยพุทธคยา" ซึ่งจะเป็นที่พักของทีมเรา และเป็นที่ทำงานของเราด้วย เพราะภายในวัดไทยฯ จะมีโรงพยาบาลอยู่ด้วยนั่นเองค่ะ

โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า สถานที่ปฏิบัติภารกิจของเราค่ะ

ภารกิจสำคัญของเราในทุกๆวันที่อยู่ที่นี่คือ

ทำวัตรเช้า-เย็น (หน้าที่หลักของทีมแพทย์อาสาฯคือ ตีฆ้อง ตีระฆัง และนำสวดมนต์)

หน้าที่อีกอย่างคือ ประเคนอาหารเช้า - เพล เป็นตัวแทนรับศีลรับพรสำหรับเจ้าภาพเลี้ยงอาหารพระสงฆ์ในแต่ละวัน (ในกรณีที่เจ้าภาพไม่ได้มาด้วยตนเอง)

ในสัปดาห์แรก ได้มีโอกาสพบผู้แสวงบุญหลายท่าน หนึ่งในนั้นมีทีมคุณหมอพรทิย์ ซึ่งพระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า ทีมคุณหมอพรทิย์ ได้มาทำบุญที่นี่ทุกๆปี อย่างต่อเนื่องเลยค่ะ อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

เปิดคลินิก ทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่ ๐๘.๓๐ -๑๗.๐๐ น. ค่ะ

ตรวจ

admit

ทำหัตถการ

จ่ายยา

ในแต่ละวันกิจวัตรจะเป็นแบบนี้ เมื่อถึงเวลาปิดคลินิก เราจะมีเวลาสำรวจเมืองคยากันจนถึงเวลาทำวัตรเย็น (๑๙.๐๐น.) เดี๋ยวจะกลับมาเล่าต่อในบันทึกต่อๆไปนะคะ ว่าเราไปสำรวจพื้นที่แถวๆนั้นพบเจออะไรบ้าง อิอิ (เค้ามาทำงานจีจีน้า ไม่ได้มาเที่ยว ^^)

หมายเลขบันทึก: 602817เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2016 16:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มีนาคม 2016 14:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

-สวัสดีครับ

-อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

-คงมีโอกาสได้ไปสักครั้ง...เช่นนี้...

-ขอบคุณครับ

สาธุค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง


รออ่านต่อ

ดูแล้วชาวอินเดียสมถะมากนะครับ

เพิ่งทราบว่าทาสีบ้าน

มีเสียเงินด้วย

รออ่านๆๆๆๆๆๆ

สมถะมากๆค่ะ หนึ่งชอบจานใส่อาหารเค้ามากๆ เป็นการนำเอาใบไม้มาอัดทำเป็นจานและถ้วยค่ะ

ทึ่งมากๆ

เป็นจานแนวคิดที่มหาวิทยาลัยทำเลยครับ

แต่บ้านเราทำมาจากกล้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท