บันทึกความทรงจำเมื่อไปประกอบพิธีฮัจย์ (ตอนที่ 4 ทำอุมเราะห์ )


ฮัจย์ ปัจจัยสำคัญในการสร้างมิตรภาพระหว่างมุสลิมทั่วโลก


ที่พักของข้าพเจ้าในนคนมักกะฮ คือ Abdullah Dukhan Hotel ตั้งอยู่บนถนน Al-Rashadi ซึ่งเป็นตึก 5 ชั้น ข้าพเจ้าพักชั้น 3 เราพักกัน 5 คน มีห้องน้ำภายในห้อง หน้าห้องมีเก้าอี้โซฟาใหญ่ได้เป็นที่พักผ่อน ชั้นล่างสุด มีห้องอาหารที่แซะห์จัดบริการอาหารทั้ง 3 มื้อ ทุกวัน

ก่อนถึงวันทำพิธีฮัจย์ ซึ่งจะอยู่ระหว่างวันที่ 8 – 13 เดือนซุลฮิจญะห์ ทุกวันข้าพเจ้าจะตื่นเวลา 03.30 เพื่อไปละหมาดซุบฮ์ที่มัสยิด อัล-ฮารอม ช่วงนี้มัสยิดกำลังก่อสร้างเพิ่มเติม ถ้าไปสายๆ ประตูจะปิดต้องละหมาดที่ลานนอกมัสยิด ข้าพเจ้าจึงต้องไปก่อนเวลาเพื่อให้ได้ละหมาดภายในมัสยิด

หลังจากละหมาดซุบฮ เราจะกลับที่พักก่อน ข้าพเจ้ากินอาหารเช้า อาบน้ำ ทำความสะอาดเสื้อผ้า เวลา 08.30 น จะมีบาบอ บรรยายความรู้เกี่ยวกับการทำฮัจย์ ประมาณ 1 ชั่วโมง ฟังคำบรรยายจบ ข้าพเจ้าจะนอนพักในห้อง บางวันมีเพื่อนต่างห้องมาพูดคุยบ้าง ในที่พักมี wifi ที่แซะติดตั้งบริการ ฮุจญาด จึงมักมีเพื่อนๆ มาใช้โทรศัพท์มือถือของข้าพเจ้าพูดคุยกับครอบครัวที่เมืองไทย ซึ่งจะมีเวลาที่เร็วกว่ามักกะฮ 4 ชั่วโมง ข้าพเจ้าจะกินข้าวกลางวัน และละหมาดดซุฮรี และอัสรีในที่พัก หลังละหมาดเราจะรวมตัวกันประมาณ 10 คน เหมารถตู้เดินทางออกไปเริ่มเนียตครองอิหฺรอมนอกเขตหะร็อม ที่มัสยิดอาอิชะฮฺเราะฎิยัลลอฮุอันฮา ซึ่งตั้งอยู่ที่ตันอีม กลับมาละหมาดมักริบ อีซา ที่มัสยิด อัล-ฮารอม หลังละหมาด เราจะเริ่มตอวาฟ รอบกะบะห์ 7 รอบ ตอวาฟเสร็จเราไปหลังมะกอมอิบรอฮีม หาพื้นที่ว่างเพื่อละหมาดสุนัตสองรอกาอัต ตามแบบอย่างของท่านศาสดา(ซ.ล.) และดื่มน้ำซัมซัม เดินต่อไปยังเนินซอฟาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสะแอ โดยการสะแอเราจะเดินจากเนินซอฟาไปยังเนินมัรวะห์ รวมทั้งหมดเจ็ดรอบ รวมระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตรเมือทำการสะแอจนครบเจ็ดรอบแล้ว พวกเรามารวมกันบริเวณเนินมัรวะห์ และทำการตะหัลโล้น (การขลิบผม) โดยพลัดกันขลิบผมให้ซึ่งกันและกันเป็นการเสร็จสิ้นในการทำอุมเราะห์แล้วก็จะเดินทางกลับห้องพักเพื่อพักผ่อนข้าพเจ้าและเพื่อนจะไปทำอุมเราะห์ทุกวันจนครบ 7 ครั้ง

เวลาที่เหลือก่อนถึงวันทำฮัจย์ข้าพเจ้าไปละหมาดที่มัสยิด อัล-ฮารอมทุกวัน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกดี ที่ได้ละหมาดในมัสยิดที่สวยงาม มัสยิดที่ได้รับการบันทึกใน อัล กรุอานและอัล ฮาดิส ที่นี่เราได้พบปะพี่น้องมุสลิมจากทุกมุมโลก ทำให้ข้าพเจ้าได้ประจักษ์ในความจริงและรำลึกถึงโอวาทของท่าน ดร อิสมาแอลลุตฟี จะปะกียา ที่ท่านให้ไว้เมื่อคราวข้าพเจ้าเข้ารับการอบรมก่อนทำฮัจย์ที่คณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลาจัดขึ้นข้อหนึ่ง ความว่า” พึงตระหนักว่า เราทุกคนคืออาคันตุกะของอัลลอฮที่มีเกียรติยิ่ง ดังนั้นจงระวังรักษาเกียรติของท่าน เกียรติของประเทศชาติ และเกียรติของบรรดาอาคันตุกะของอัลลอฮทุกท่านด้วยการใช้วาจาที่สุภาพ ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และการมีปฏิสัมพันธ์ด้วยกริยามารยาทที่ดีงาม หมั่นทักทายด้วยการให้สลามอยู่เสมอ ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันและอดทน จงพยายามทำความรู้จักกับบรรดาอาคันตุกะของอัลลอฮที่มีความหลากหลาย ด้วยการทำความดีต่างๆ เช่น ถามไถ่ทุกข์สุข เยี่ยมเยียนเลี้ยงอาหาร แลกเปลี่ยนที่อยู่และของที่ระลึกระหว่างกัน เรากำลังอยู่ภายใต้บรรยากาศของความเป็นนานาชาติ ณ สถานที่อันทรงเกียรติที่สุด” ข้าพเจ้ามีความสุขที่ได้จับมือ สลาม กับเพื่อนที่มาจากทุกมุมโลก เราจะรู้สึกสนิทสนมอย่างรวดเร็ว กับเพื่อนชาวมาเลเซีย อินโดนิเซีย บรูไน สิงคโปร์เพราะพูดภาษามลายูเหมือนกัน หน้าตาก็คล้ายกัน ข้าพเจ้าสังเกตว่า การแต่งกายของพวกเราจากประเทศอาเซียนจะมีเอกลักษณ์คือใส่ ตะละกง (ชุดละหมาด)สีขาวเหมือนกัน ไปมัสยิดทุกครั้งจะมีเพื่อนชี้ชวนให้นั่งละหมาดไกล้ๆ เราทักทายกันด้วยรอยยิ้มและแบ่งปันอาหารและขนม ที่ข้าพเจ้านำมาจากเมืองไทยเช่น ลูกหยี บะหมี่สำเร็จรูปรสต้มยำเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนต่างชาติมาก

ระหว่างเดินทางกลับจากมัสยิด อัล-ฮารอม ถึงห้องพัก ข้าพเจ้าก็แวะซื้อของฝากให้คนในครอบครัว เพื่อนๆ ทุกวัน คนขายส่วนมากเป็นผู้ชายชาวอาหรับและพูดภาษามลายูได้ การเดินเกือบสองกิโลเมตรจากมัสยิดถึงห้องพักทำให้รู้สึกเพลิดเพลินไม่เหนื่อยเลย


หน้าโรงแรมที่พัก

ที่ตัมอีม (มัสยิดอาอีชะหฺ์)

มัสยิด อัล ฮารอม

ลานหน้ากะบะห์


หน้าอาคารสะแอ

เมาลิดินนบี (ปัจจุบันเป็นห้องสมุด)

คำสำคัญ (Tags): #ฮัจย์#อุมเราะห์
หมายเลขบันทึก: 602733เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2016 14:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2020 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท