สมุนไพรไทยกับการเกษตร

ทำความรู้จักกับสมุนไพร
           คำว่า สมุนไพร หมายถึง พืชที่มีคุณสมบัติทางยา ไม่ว่าจะเป็นยาพิษหรือยารักษา ในความเป็นจริงแล้วการนำสมุนไพรมาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น การนำสมุนไพรไปเป็นส่วนประกอบของอาหาร นำมาเป็นเครื่องประทินผิว               
         เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน พืชสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ทำให้มีสมุนไพรหลากหลายชนิด ในอดีตการสำรวจและจดบันทึกชนิดและสายพันธุ์ของสมุนไพรในประเทศมีความล่าช้าเนื่องจากมีบุคลากรน้อย จำเป็นต้องร่วมมือกับชาวต่างชาติในการสำรวจส่งผลให้มีการลักลอบนำออกไปปลูกยังต่างประเทศและถูกนำไปจดสิทธิบัตรในชื่อใหม่ เช่น ขมิ้น มะขามเปรี้ยว ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย               
          สมุนไพรที่นำมาใช้ในการเกษตรของประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วจะมีจุดประสงค์ในการป้องกันและกำจัดโรคและแมลง และมักมีจากการบอกต่อจากรุ่นสู่รุ่นมากกว่าการนำมาใช้เนื่องจากทราบคุณสมบัติที่แท้จริง ทำให้การใช้ไม่เกิดผลมากนักเนื่องจากใช้ไม่ถูกต้องกับชนิดของศัตรูพืช ช่วงเวลาในการใช้ไม่ถูกต้อง  การใช้ปริมาณที่ไม่เหมาะสม และ การที่ไม่ทราบถึงโครงสร้างทางเคมีที่ออกฤทธิ์นั้นๆ ว่าเป็นสารชนิดใน มีคุณสมบัติอย่างไร สาเหตุต่างเหล่านี้ทำให้การวิจัยทางด้านการใช้สมุนไพรจึงเป็นไปอย่างล่าช้า               
          ความแตกต่างระหว่างของการใช้สมุนไพรและสารเคมีอนินทรีย์ในการป้องกันกำจัดโรคและแมลง

ข้อเปรียบเทียบ	สมุนไพร	สารเคมีอนินทรีย์
1. ความเป็นพิษต่อมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น	น้อยหรือไม่มีเลย	มาก
2. ปริมาณในการใช้สารในพื้นที่เท่ากัน	มาก	น้อย
3. การเสื่อมสลายของสารหลังการใช้สาร	เร็ว	ช้าถึงช้ามาก
4. ระยะเวลาของการเสื่อมสลายโดยประมาณ	1-4 อาทิตย์	2 เดือน- 6 เดือน
5. ราคาท้องตลาดเมื่อเทียบปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์	แพง	ถูก
6. การตลาดของผลผลิตที่ได้	สามารถส่งออกได้	ส่งออกไม่ได้
7. ราคาสินค้าเมื่อสู่ท้องตลาด	แพงกว่า 50-100% ของราคาปกติ	ถูก

โดย อ. ปณิดา  กันถาด  อาจารย์ประจำสาขาพืชศาสตร์  มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร