การเดินทางสู่เมืองมรดกโลก...หลวงพระบาง

การได้แบกเป้เดินทางไปหลวง..หลวงพระบางในบรรยากาศแบบ backpacker เป็นการสร้างสีสีนให้กับชีวิตอีกรุปแบบหนึ่ง

มีเพื่อนอยากไปเที่ยวหลวงพระบาง ซึ่งฉันเคยไปเมื่อ 3 ปีก่อนโดยอ้ายฮักที่ลาวเป็นเจ้าภาพพาทัวร์ ครั้งนั้นไป 3 วัน 2 คืน ประทับใจนะ แต่ก็กลับมาเล่าบอกเพื่อนๆ ว่า ถ้าไม่รักวัฒนธรรมโดยแท้แล้ว...อย่าไปเลยหลวงพระบาง

3 ปีต่อมา ยังมีคนที่รักวัฒนธรรมหลายคน ชวนกันไปเที่ยวหลวงพระบาง ครั้นมีจำนวนมากกะว่าจะซื้อทัวร์ หากว่างไปกัน 2-3 คน เราไปแบบแบกเป้เที่ยว น่าจะสร้างสีสันให้กับชีวิตชาวโสดวัยเกือบจะ 40 ปี

แผนท่องเที่ยวคราวนี้เรากะไว้ ประมาณ 4-5 วัน หยืดหยุ่นตามสังขาร สรุปคร่าวๆ ว่า

วันที่ 1 เดินทางจากขอนแก่น-เวียงจันทน์-ค้างที่วังเวียง

วันที่ 2 ออกจากวังเวียงสายๆ -นอนหลวงพระบาง

วันที่ 3 เที่ยวเมืองมรดกโลก-นอนหลวงพระบาง

วันที่ 4 เดินทางกลับจากหลวงพระบาง-เวียงจันทน์ หากร่างกายวีกอาจจะค้างที่วังเวียง และ วันที่ 5 ถึงเดินทางกลับ...

วันเดินทางเป้าหมาย คือ หลวงพระบาง คณะทัวร์เหลือผู้ร่วมชีวิตเพียง 2 คน เนื่องด้วยอยู่กันที่ขอนแก่น เราจึงจะไปหลวงพระบางโดยทางรถประจำทางเข้าเวียงจันทน์-วังเวียง-หลวงพระบาง

ตกลงกันได้ จึงขับรถไปฝากไว้ที่หนองคาย แล้วข้ามด่านที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว การข้ามด่านนี้มีหลายรูปแบบ เป็นรถเช่าก็ได้ต้องไปขึ้นที่เชิงสะพานมิตรภาพ  แต่เราสมัครใจไปรถประจำทางปรับอากาศระหว่างประเทศ ขึ้นได้ที่สถานีขนส่ง อัตราค่าโดยสาร 55 บาท ซึ่งต้องแสดงบัตรผ่านแดน หรือ passport ประกอบ (หากใครยังไม่มีสามารถติดต่อทำบัตรผ่านแดนได้ที่เคาน์เตอร์ใกล้ๆ ที่จำหน่ายตั๋ว) ซึ่งบัตรผ่านแดนนั้นมีข้อจำกัดคือ ต้องอยู่ในเขตเมืองที่ระบุไว้เท่านั้น และอยู่ในราชอารณาจักรนั้นได้ไม่เ้กิน 3 วัน หากใช้ passport เข้าไปในราชอาณาจักรลาว อยู่ได้ 30 วัน และเดินทางไปเมืองต่างๆ ได้

ตารางเดินรถประจำทางปรับอากาศจากฝั่งไทย-ลาว  มี 6 เที่ยว นะคะ

เที่ยวที่ 1 เวลา 7.30 น.,เที่ยวที่ 2 เวลา 9.30 น. , เที่ยวที่ 3 เวลา 12.40 น., เที่ยวที่ 4 เวลา 14.30 น., เที่ยวที่ 5 เวลา 15.30น., เที่ยวที่  6 เวลา 18.00 น.

 

  รูป: จุดจำหน่ายตั๋วที่บขส.หนองคาย

คนขับรถเล่าบอกว่า รถปรับอากาศนี้จะกำหนดที่นั่งให้ผู้โดยสารตอนขายตั๋ว (fix seat) หากมาเป็นกลุ่มมักจะมีการสับเปลี่ยนที่นั่ง...ขอความร่วมมือในการนั่งตามที่ตั๋วกำหนด เพราะอาจเจอปัญหา้มื่อย้ายที่นั่งแล้ว อาจมีปัญหากรณ๊ที่มีการวซกซ่อนของผิดกฏหมายตามที่นั่ง...เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น...ก็ความร่วมมือด้วยแล้วกัน...

รถจะนำมาที่ด่านศุลกากรไทย ซึ่งทุกคนต้องลงไปจัดการเอกสาร (ไม่ต้องนำสัมภาระลงไปนะจ๊ะ) แล้วไปที่ด่านศุลกากรประเทศลาว ก็ต้องลงไปจัดการเอกสารเช่นเดียวกัน ก่อนเข้าประเทศ ต้องชำระค่าธรรมเนียมในการเข้าประเทศ คนละ 20 บาท  เสร็จแล้วรถจะนำไปส่งที่สถานีขนส่ง ทั้งหมดก็ใช้เวลาประมาณ 1-1.30 ชั่วโมงจ้า

...เมื่อถึงเวียงจันทน์ บรรยากาศการท่องเที่ยวก็เริ่มขึ้น